ผู้จัดการรายวัน360-"วิษณุ"แย้มมีทางออก หากรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติ แต่ขออุบไว้ก่อน หวั่นเกิดแรงกดดันจากสังคม "มีชัย"หวั่นพรรคการเมืองไม่เล่นตามกติกา หลังเตรียมลงพื้นที่แจง สมช.เผยมีกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองจริง ทหารไปรับตัว "วัฒนา" ถึงบ้าน แต่ไม่เจอ ด้านเจ้าตัวโพสต์ซ้ำ ผมผิดอะไร จี้ คสช. แจ้งข้อหา ด้าน "องอาจ" เมินผบ.ทบ.เรียกปรับทัศนคติ ยังไม่เปลี่ยนท่าที "มาร์ค"เรียกร้อง คสช. ทบทวนคำสั่งยกเว้นการบังคับใช้กฎหมาย
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงทางออกหากร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติว่า เมื่อใกล้ถึงวันลงคะแนนประชามติ ทางออกคงเล็ดลอดออกมา ซึ่งการแก้ไขอาจจะแก้เพียง 1-2 มาตรา ให้รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป เพราะหากร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติ ต้องแก้รัฐธรรมนูญชั่วคราวปี 57 เป็นสิ่งแรกโดยเร็วแบบตั้งตัวกันไม่ติด พอรู้ผลอย่างเป็นทางการ วันต่อมาก็ต้องเสนอเข้าสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ทันที เมื่อ สนช.พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญชั่วคราวฉบับแก้ไขเสร็จแล้ว ก็เข้าสู่กระบวนการทางออกตามร่างรัฐธรรมนูญชั่วคราวดังกล่าวทันที
"ขณะนี้ เรายังไม่รู้จะแก้รัฐธรรมนูญชั่วคราวอย่างไร ให้สาบานก็สาบานว่าไม่รู้จริงๆ แต่การที่ยังไม่บอกทางออก เนื่องจากมีเหตุผลแต่ต้นว่าไม่ต้องการให้คนมีความรู้สึกว่ามีอะไรให้เลือก เพราะจะทำให้เกิดอคติในการออกเสียงประชามติ ขนาดรับหรือไม่รับคนยังลังเล แต่ถ้ามีตัวเลือกมาให้ จะยิ่งทำให้เกิดอคติในการลงประชามติ เขากลัวในการสร้างแรงกดดัน ยืนยันเราไม่ได้กลัวว่าร่างรัฐธรรมนูญจะถูกคว่ำ เพียงแต่กลัวอคติ กลัวแรงกดดัน"นายวิษณุกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มองว่าไม่ยุติธรรม เพราะประชาชนไม่มีทางเลือกอื่นว่าถ้าไม่รับจะเจออะไร นายวิษณุ กล่าวว่า การลงประชามติที่ไหนก็ตามเขาทำแบบนี้ทั้งนั้น แต่เหตุผลที่เขาไม่บอก คือ ขณะนี้ยังไม่รู้ เพราะไม่อยากทำตัวว่ารู้กัน เนื่องจากเขาต้องการดูสถานการณ์ ปฏิกิริยาหลายๆ อย่าง และจะทำให้รู้ว่าของใหม่ควรมีหน้าตาอย่างไร รวมถึงเรื่องคำถามพ่วง ถ้าต้องเขียนรัฐธรรมนูญคงได้ใช้ประโยชน์ ได้รู้ว่าประชาชนต้องการอะไร
เมื่อถามว่า ถ้าร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่าน แต่คะแนนเสียงระหว่างรับหรือไม่รับก้ำกึ่งกันจะมีผลต่อการร่างรัฐธรรมนูญใหม่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า มันจะมีผลในทางอ้อม ได้นำมาคิดว่าคะแนนมีความหมายอย่างไร กรณีรัฐธรรมนูญผ่าน แล้วคำถามพ่วงไม่ผ่านก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้ารัฐธรรมนูญไม่ผ่าน คำถามพ่วงกลับผ่าน ก็จะเอาตัวนี้ไปแก้ไม่ได้ แต่ทำให้เห็นว่าคนคิดอย่างไรกับหน้าตาร่างรัฐธรรมนูญที่ร่างขึ้นใหม่ ซึ่งไม่ใช่ตอบโจทย์เพียงแค่นั้น ยังคิดต่อไปได้อีกเยอะ เพราะคำถามพ่วงคำถามเดียวสามารถเขียนต่อไปได้อีก 20 มาตรา มันแสดงให้เห็นว่าคนเขาคิดอย่างไร แต่ไม่ว่าอย่างไรหากยกร่างใหม่ก็ต้องลอกของที่เคยมีมาทั้งนั้น สุดท้ายก็ต้องเอารัฐธรรมนูญปี 40 รัฐธรรมนูญปี 50 ฉบับนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ฉบับนายมีชัย ฤชุพันธุ์ หลับตานึกว่า 2 ใน 3 คงเหมือนของเดิมที่เคยมีมา
***"มีชัย"หวั่นพรรคการเมืองไม่เล่นตามกติกา
นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงการชี้แจงรัฐธรรมนูญว่า ขณะนี้ยังมีประกาศ คสช. เรื่องการชุมนุมทางการเมืองอยู่ อาจขออนุญาตลงพื้นที่จาก คสช. และขอความร่วมมือให้มีเจ้าหน้าที่ดูแลอำนวยความสะดวกและป้องกันไม่ให้เกิดการก่อกวน
"ต้องเตรียมใจไว้ ถ้าพรรคการเมืองไม่ได้เล่นตามกติกา ไม่มีคุณธรรมทางการเมือง ก็อาจตกอยู่ในสถานะเสี่ยงได้ แต่ถ้ามี เขาก็ไม่ทำนอกกติกา ซึ่งจะเป็นตัวบ่งชี้ให้ประชาชนเข้าใจว่าพรรคทำการเมืองรูปแบบไหน ส่วนความปลอดภัย เชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจดีว่ากระบวนการนี้เป็นการสร้างกติกาบ้านเมือง และผู้ร่างร่างออกมาดีที่สุดเท่าที่ทำได้ พร้อมรับฟังความคิดเห็นทุกภาคส่วนมาผสมผสานกันออกมาอย่างที่เห็น ประชาชนคงอยากรู้ว่าในนั้นมีอะไร เพราะฉะนั้นคงมาฟังด้วยดีมากกว่าก่อกวน แม้อาจมีบ้างสำหรับบางคนที่ไม่ตรงไปตรงมาก็อาจมีเหตุการณ์บางอย่างที่ไม่พึงประสงค์ ตรงนี้คงเป็นหน้าที่เจ้าหน้าที่บ้านเมืองที่จะช่วยดูแล"
***สมช.เผยมีกลุ่มป่วนเคลื่อนไหว
พล.อ.ทวีป เนตรนิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวว่า ยอมรับว่ายังพบกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองหลายกลุ่ม ที่แสดงออกต่อต้านร่างรัฐธรรมนูญ แต่ส่วนใหญ่ยังอยู่ในกรอบ และเป็นสัญญาณที่ดี มีการระมัดระวัง เคารพกฎเกณฑ์ของสังคมมากขึ้น และเชื่อว่าการเคลื่อนไหวทางการเมืองก็จะมากขึ้นช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์ จึงขอเตือนให้ทุกคนทำความเข้าใจ พ.ร.บ.ประชามติ ด้วย
***ทหารไปรับตัว "วัฒนา"ถึงหน้าบ้าน
เมื่อเวลา14.00น. ที่บ้านเลขที่ 318 หมู่บ้านสินเก้า ถนนศรีนครินทร์ แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพฯ พ.ท.สมพร โตภาพ ผบ.ร21 พัน 1 รอ. พร้อมด้วยทหารพระธรรมนูญ เดินทางมารับตัวนายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทยไปประบทัศนคติ แต่เมื่อไปถึงบ้าน มีเพียงแม่บ้านออกมาต้อนรับ โดยระบุว่านายวัฒนาไม่อยู่ ไปต่างจังหวัด และจะกลับมาวันที่ 18 เม.ย. ส่วนสมาชิกคนอื่นๆ ก็ไม่อยู่ จากนั้น พ.ท.สมพร ได้ใช้โทรศัพท์โทรหานายวัฒนา แต่ปิดเครื่อง
พ.ท.สมพร กล่าวว่า จะอยู่บริเวณหน้าบ้านจนกว่านายวัฒนาจะเดินทางกลับมาจากต่างจังหวัด เพราะเดิมนายวัฒนาได้นัดหมายให้มารับตัววันที่ 14 เม.ย. โดยให้เหตุผลว่าติดภารกิจที่ต่างจังหวัด จึงได้ทำตามที่ตกลงกันไว้ และไม่ทราบว่านายวัฒนาขอเลื่อนเป็นวันที่ 18 เม.ย.
***"วัฒนา"โพสต์ซ้ำผมผิดอะไร
นายวัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง "ช่วยบอกทีว่าผมทำอะไรผิด" โดยระบุว่า การแสดงจุดยืนไม่รับรัฐธรรมนูญ เป็นเสรีภาพทางความคิดที่ทำได้ ไม่ได้กระทำผิด และไม่ยินดีให้ คสช. นำตัวไปควบคุม และขอให้ คสช. หรือเจ้าพนักงาน ต้องแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่าการโพสต์ข้อความเป็นความผิดข้อใด และเหตุใดพรรคการเมืองและคณะผู้บริหารของ 2 พรรค ที่แสดงความเห็นไปก่อนหน้าจึงไม่ถูกดำเนินคดี
***"องอาจ"ยันไม่เปลี่ยนท่าที
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ขู่เรียกปรับทัศนคตินักการเมืองที่แสดงความไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญ ว่า สถานการณ์ขณะนี้นายอภิสิทธิ์ ไม่ได้สั่งห้ามหรือสั่งการอะไรเป็นพิเศษ และไม่ได้สั่งให้ลดโทนการให้สัมภาษณ์ต่อผู้สื่อข่าว หลังผู้มีอำนาจออกมาขู่แต่อย่างใด ตนเชื่อว่าสิ่งที่นายอภิสิทธิ์แถลงไป ถือเป็นจุดยืนของพรรคที่มีเจตนาดีมากกว่าประสงค์ร้ายต่อใครคนใดคนหนึ่ง ซึ่งบรรยากาศในการทำประชามติ ไม่ควรมีการข่มขู่ แต่ควรพร้อมเปิดรับความเห็นต่าง ผู้มีอำนาจควรเข้าใจให้ชัดเจนว่า การทำประชามติคือการหาเสียงข้างมากในเรื่องที่คนเห็นไม่ตรงกัน แต่หากใครที่ข่มขู่หรือก่อความวุ่นวาย ให้จัดการตามกฏหมายได้ ดังนั้น จึงขอให้ใจเย็นๆ ขอย้ำว่าพรรค ปชป.ไม่ได้ทำผิดใดๆ และจะไม่มีปรับท่าทีเพราะบริสุทธิ์ใจในการแสดงออก
***จี้ คสช. เลิกคำสั่งเว้นบังคับใช้กฎหมาย
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการบริหารประเทศของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. หลังเข้าควบคุมอำนาจเกือบ 2 ปี ว่า ประชาชนพึงพอใจเรื่องความสงบบ้านเมือง แต่การบ้านสำคัญของ คสช. ที่ต้องตระหนัก คือ วิธีการพิเศษที่นำมาสู่ความสงบ ไม่สามารถใช้ได้ตลอดไป ต้องคิดว่าถ้าไม่มีวิธีพิเศษแล้วจะทำอย่างไร โดยระยะเวลาอีกปีเศษที่เหลืออยู่ อยากให้ คสช.เร่งสร้างความมั่นใจตรงนี้ว่าจะทำอย่างไรให้ยั่งยืน ด้วยการใช้กติกาปกติ รวมทั้งอยากให้เร่งปฏิรูปตำรวจ สื่อ และการเมือง เปิดโอกาสให้พรรคการเมืองปฏิรูปตัวเองได้ก่อนการเลือกตั้งก็จะดีที่สุด
"ขอเรียกร้องให้ คสช. ทบทวนคำสั่งที่มีการยกเว้นการบังคับใช้กฎหมาย รวมถึงคำสั่งที่อาจขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ ที่จะมีผลบังคับใช้ โดยอยากให้ทบทวนเรื่องที่มีการยกเว้นไปเช่นการยกเว้นกฎหมายสิ่งแวดล้อม ผังเมือง และกฎหมายควบคุมอาคาร หรือการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างที่ไม่มีคำตอบระยะยาว เช่น โครงสร้างทางการศึกษา และโครงสร้างในการแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้ เพื่อดำเนินการอย่างเป็นระบบ เพราะข้อยกเว้นจะเป็นปัญหาในอนาคต หากทบทวนคำสั่งที่ควรยกเลิกก่อนที่จะไปสู่การเลือกตั้งก็จะทำให้เกิดการแก้ไขได้ง่ายกว่าที่จะปล่อยไปแล้วต้องไปแก้ไขในอนาคตซึ่งจะทำให้เกิดความยุ่งยากมากว่า"นายอภิสิทธิ์กล่าว
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงทางออกหากร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติว่า เมื่อใกล้ถึงวันลงคะแนนประชามติ ทางออกคงเล็ดลอดออกมา ซึ่งการแก้ไขอาจจะแก้เพียง 1-2 มาตรา ให้รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป เพราะหากร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติ ต้องแก้รัฐธรรมนูญชั่วคราวปี 57 เป็นสิ่งแรกโดยเร็วแบบตั้งตัวกันไม่ติด พอรู้ผลอย่างเป็นทางการ วันต่อมาก็ต้องเสนอเข้าสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ทันที เมื่อ สนช.พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญชั่วคราวฉบับแก้ไขเสร็จแล้ว ก็เข้าสู่กระบวนการทางออกตามร่างรัฐธรรมนูญชั่วคราวดังกล่าวทันที
"ขณะนี้ เรายังไม่รู้จะแก้รัฐธรรมนูญชั่วคราวอย่างไร ให้สาบานก็สาบานว่าไม่รู้จริงๆ แต่การที่ยังไม่บอกทางออก เนื่องจากมีเหตุผลแต่ต้นว่าไม่ต้องการให้คนมีความรู้สึกว่ามีอะไรให้เลือก เพราะจะทำให้เกิดอคติในการออกเสียงประชามติ ขนาดรับหรือไม่รับคนยังลังเล แต่ถ้ามีตัวเลือกมาให้ จะยิ่งทำให้เกิดอคติในการลงประชามติ เขากลัวในการสร้างแรงกดดัน ยืนยันเราไม่ได้กลัวว่าร่างรัฐธรรมนูญจะถูกคว่ำ เพียงแต่กลัวอคติ กลัวแรงกดดัน"นายวิษณุกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มองว่าไม่ยุติธรรม เพราะประชาชนไม่มีทางเลือกอื่นว่าถ้าไม่รับจะเจออะไร นายวิษณุ กล่าวว่า การลงประชามติที่ไหนก็ตามเขาทำแบบนี้ทั้งนั้น แต่เหตุผลที่เขาไม่บอก คือ ขณะนี้ยังไม่รู้ เพราะไม่อยากทำตัวว่ารู้กัน เนื่องจากเขาต้องการดูสถานการณ์ ปฏิกิริยาหลายๆ อย่าง และจะทำให้รู้ว่าของใหม่ควรมีหน้าตาอย่างไร รวมถึงเรื่องคำถามพ่วง ถ้าต้องเขียนรัฐธรรมนูญคงได้ใช้ประโยชน์ ได้รู้ว่าประชาชนต้องการอะไร
เมื่อถามว่า ถ้าร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่าน แต่คะแนนเสียงระหว่างรับหรือไม่รับก้ำกึ่งกันจะมีผลต่อการร่างรัฐธรรมนูญใหม่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า มันจะมีผลในทางอ้อม ได้นำมาคิดว่าคะแนนมีความหมายอย่างไร กรณีรัฐธรรมนูญผ่าน แล้วคำถามพ่วงไม่ผ่านก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้ารัฐธรรมนูญไม่ผ่าน คำถามพ่วงกลับผ่าน ก็จะเอาตัวนี้ไปแก้ไม่ได้ แต่ทำให้เห็นว่าคนคิดอย่างไรกับหน้าตาร่างรัฐธรรมนูญที่ร่างขึ้นใหม่ ซึ่งไม่ใช่ตอบโจทย์เพียงแค่นั้น ยังคิดต่อไปได้อีกเยอะ เพราะคำถามพ่วงคำถามเดียวสามารถเขียนต่อไปได้อีก 20 มาตรา มันแสดงให้เห็นว่าคนเขาคิดอย่างไร แต่ไม่ว่าอย่างไรหากยกร่างใหม่ก็ต้องลอกของที่เคยมีมาทั้งนั้น สุดท้ายก็ต้องเอารัฐธรรมนูญปี 40 รัฐธรรมนูญปี 50 ฉบับนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ฉบับนายมีชัย ฤชุพันธุ์ หลับตานึกว่า 2 ใน 3 คงเหมือนของเดิมที่เคยมีมา
***"มีชัย"หวั่นพรรคการเมืองไม่เล่นตามกติกา
นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงการชี้แจงรัฐธรรมนูญว่า ขณะนี้ยังมีประกาศ คสช. เรื่องการชุมนุมทางการเมืองอยู่ อาจขออนุญาตลงพื้นที่จาก คสช. และขอความร่วมมือให้มีเจ้าหน้าที่ดูแลอำนวยความสะดวกและป้องกันไม่ให้เกิดการก่อกวน
"ต้องเตรียมใจไว้ ถ้าพรรคการเมืองไม่ได้เล่นตามกติกา ไม่มีคุณธรรมทางการเมือง ก็อาจตกอยู่ในสถานะเสี่ยงได้ แต่ถ้ามี เขาก็ไม่ทำนอกกติกา ซึ่งจะเป็นตัวบ่งชี้ให้ประชาชนเข้าใจว่าพรรคทำการเมืองรูปแบบไหน ส่วนความปลอดภัย เชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจดีว่ากระบวนการนี้เป็นการสร้างกติกาบ้านเมือง และผู้ร่างร่างออกมาดีที่สุดเท่าที่ทำได้ พร้อมรับฟังความคิดเห็นทุกภาคส่วนมาผสมผสานกันออกมาอย่างที่เห็น ประชาชนคงอยากรู้ว่าในนั้นมีอะไร เพราะฉะนั้นคงมาฟังด้วยดีมากกว่าก่อกวน แม้อาจมีบ้างสำหรับบางคนที่ไม่ตรงไปตรงมาก็อาจมีเหตุการณ์บางอย่างที่ไม่พึงประสงค์ ตรงนี้คงเป็นหน้าที่เจ้าหน้าที่บ้านเมืองที่จะช่วยดูแล"
***สมช.เผยมีกลุ่มป่วนเคลื่อนไหว
พล.อ.ทวีป เนตรนิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวว่า ยอมรับว่ายังพบกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองหลายกลุ่ม ที่แสดงออกต่อต้านร่างรัฐธรรมนูญ แต่ส่วนใหญ่ยังอยู่ในกรอบ และเป็นสัญญาณที่ดี มีการระมัดระวัง เคารพกฎเกณฑ์ของสังคมมากขึ้น และเชื่อว่าการเคลื่อนไหวทางการเมืองก็จะมากขึ้นช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์ จึงขอเตือนให้ทุกคนทำความเข้าใจ พ.ร.บ.ประชามติ ด้วย
***ทหารไปรับตัว "วัฒนา"ถึงหน้าบ้าน
เมื่อเวลา14.00น. ที่บ้านเลขที่ 318 หมู่บ้านสินเก้า ถนนศรีนครินทร์ แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพฯ พ.ท.สมพร โตภาพ ผบ.ร21 พัน 1 รอ. พร้อมด้วยทหารพระธรรมนูญ เดินทางมารับตัวนายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทยไปประบทัศนคติ แต่เมื่อไปถึงบ้าน มีเพียงแม่บ้านออกมาต้อนรับ โดยระบุว่านายวัฒนาไม่อยู่ ไปต่างจังหวัด และจะกลับมาวันที่ 18 เม.ย. ส่วนสมาชิกคนอื่นๆ ก็ไม่อยู่ จากนั้น พ.ท.สมพร ได้ใช้โทรศัพท์โทรหานายวัฒนา แต่ปิดเครื่อง
พ.ท.สมพร กล่าวว่า จะอยู่บริเวณหน้าบ้านจนกว่านายวัฒนาจะเดินทางกลับมาจากต่างจังหวัด เพราะเดิมนายวัฒนาได้นัดหมายให้มารับตัววันที่ 14 เม.ย. โดยให้เหตุผลว่าติดภารกิจที่ต่างจังหวัด จึงได้ทำตามที่ตกลงกันไว้ และไม่ทราบว่านายวัฒนาขอเลื่อนเป็นวันที่ 18 เม.ย.
***"วัฒนา"โพสต์ซ้ำผมผิดอะไร
นายวัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง "ช่วยบอกทีว่าผมทำอะไรผิด" โดยระบุว่า การแสดงจุดยืนไม่รับรัฐธรรมนูญ เป็นเสรีภาพทางความคิดที่ทำได้ ไม่ได้กระทำผิด และไม่ยินดีให้ คสช. นำตัวไปควบคุม และขอให้ คสช. หรือเจ้าพนักงาน ต้องแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่าการโพสต์ข้อความเป็นความผิดข้อใด และเหตุใดพรรคการเมืองและคณะผู้บริหารของ 2 พรรค ที่แสดงความเห็นไปก่อนหน้าจึงไม่ถูกดำเนินคดี
***"องอาจ"ยันไม่เปลี่ยนท่าที
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ขู่เรียกปรับทัศนคตินักการเมืองที่แสดงความไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญ ว่า สถานการณ์ขณะนี้นายอภิสิทธิ์ ไม่ได้สั่งห้ามหรือสั่งการอะไรเป็นพิเศษ และไม่ได้สั่งให้ลดโทนการให้สัมภาษณ์ต่อผู้สื่อข่าว หลังผู้มีอำนาจออกมาขู่แต่อย่างใด ตนเชื่อว่าสิ่งที่นายอภิสิทธิ์แถลงไป ถือเป็นจุดยืนของพรรคที่มีเจตนาดีมากกว่าประสงค์ร้ายต่อใครคนใดคนหนึ่ง ซึ่งบรรยากาศในการทำประชามติ ไม่ควรมีการข่มขู่ แต่ควรพร้อมเปิดรับความเห็นต่าง ผู้มีอำนาจควรเข้าใจให้ชัดเจนว่า การทำประชามติคือการหาเสียงข้างมากในเรื่องที่คนเห็นไม่ตรงกัน แต่หากใครที่ข่มขู่หรือก่อความวุ่นวาย ให้จัดการตามกฏหมายได้ ดังนั้น จึงขอให้ใจเย็นๆ ขอย้ำว่าพรรค ปชป.ไม่ได้ทำผิดใดๆ และจะไม่มีปรับท่าทีเพราะบริสุทธิ์ใจในการแสดงออก
***จี้ คสช. เลิกคำสั่งเว้นบังคับใช้กฎหมาย
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการบริหารประเทศของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. หลังเข้าควบคุมอำนาจเกือบ 2 ปี ว่า ประชาชนพึงพอใจเรื่องความสงบบ้านเมือง แต่การบ้านสำคัญของ คสช. ที่ต้องตระหนัก คือ วิธีการพิเศษที่นำมาสู่ความสงบ ไม่สามารถใช้ได้ตลอดไป ต้องคิดว่าถ้าไม่มีวิธีพิเศษแล้วจะทำอย่างไร โดยระยะเวลาอีกปีเศษที่เหลืออยู่ อยากให้ คสช.เร่งสร้างความมั่นใจตรงนี้ว่าจะทำอย่างไรให้ยั่งยืน ด้วยการใช้กติกาปกติ รวมทั้งอยากให้เร่งปฏิรูปตำรวจ สื่อ และการเมือง เปิดโอกาสให้พรรคการเมืองปฏิรูปตัวเองได้ก่อนการเลือกตั้งก็จะดีที่สุด
"ขอเรียกร้องให้ คสช. ทบทวนคำสั่งที่มีการยกเว้นการบังคับใช้กฎหมาย รวมถึงคำสั่งที่อาจขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ ที่จะมีผลบังคับใช้ โดยอยากให้ทบทวนเรื่องที่มีการยกเว้นไปเช่นการยกเว้นกฎหมายสิ่งแวดล้อม ผังเมือง และกฎหมายควบคุมอาคาร หรือการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างที่ไม่มีคำตอบระยะยาว เช่น โครงสร้างทางการศึกษา และโครงสร้างในการแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้ เพื่อดำเนินการอย่างเป็นระบบ เพราะข้อยกเว้นจะเป็นปัญหาในอนาคต หากทบทวนคำสั่งที่ควรยกเลิกก่อนที่จะไปสู่การเลือกตั้งก็จะทำให้เกิดการแก้ไขได้ง่ายกว่าที่จะปล่อยไปแล้วต้องไปแก้ไขในอนาคตซึ่งจะทำให้เกิดความยุ่งยากมากว่า"นายอภิสิทธิ์กล่าว