xs
xsm
sm
md
lg

‘คำถามพ่วง’ เพื่อ ‘นายกฯ พ่วง’

เผยแพร่:   โดย: โสภณ องค์การณ์

ช่วงนี้อากาศในประเทศไทยร้อนมากกว่าเพื่อนบ้านในอาเซียน เป็นเพราะการตัดไม้ทำลายป่าอย่างไร้จิตสำนึก คนในบ้านนี้เมืองนี้ถูกมองว่าเป็นนักทำลายธรรมชาติสิ่งแวดล้อมโดยไม่แยแสกระแสสังคมอะไรทั้งสิ้น มีข้ออ้าง แถหาทางออกแบบ “ตามใจกู” ไร้ยางอายสุดๆ

อากาศร้อนทำให้คนอารมณ์บูด โดยเฉพาะพวกที่เอาแต่ใจตัว เมื่อทำอะไรไม่ได้ดังใจ แหกตาคนไม่สำเร็จ ใช้ไม้แข็งไม้นวมลีลาลูกเล่นเล่ห์กลต่างๆ ดันมีคนรู้ทันร้องเอะอะว่ามีพวกเล่นไม่ซื่อวางแผนตีกินอำนาจต่อเนื่อง แต่ไม่บอกว่าทำไมชาวบ้านต้องยอมทุกเรื่อง

ยุคนี้มีภัยแล้งธรรมชาติลงโทษ และความแห้งแล้งของบรรยากาศประชาธิปไตย คนมีอำนาจแล้งน้ำใจ ใครวิพากษ์วิจารณ์ก็ไม่ได้ ยิ่งสังคมการเมืองผู้บริหารรัฐไม่ได้ผ่านการเลือกจากประชาชน มาโดยอำนาจปืนใช้ประหารรัฐย่อมถูกมองว่าเป็นเผด็จการหลงยุค

ถ้าไม่ใช่เผด็จการ จะเรียกอย่างอื่นก็ไม่ได้เพราะเป็นหลักสากล เหมือนกับข้ออ้างว่าอะไรๆ ต้องแบบสากล ยกเว้นการตรวจสอบความโปร่งใส หลักคุณธรรมจริยธรรม และความเป็นสากลย่อมไม่มีการทุจริต คอร์รัปชันแบบผูกขาดรวบยอดบ้านเมืองใกล้ล่มจม

วันก่อนคุณท่านผู้นำล้งเล้งกับคำพูด ท่าทีของนักการเมือง แถมยัง “พ่วง” จวกสื่อตามไปด้วย หลังจากเรื่อง “คำถามพ่วง” ซึ่งเป็นการเปิดฉากการเมืองภาคพิสดารแฝงเร้น กำกวม ซ่อนเงื่อนปม หมกเม็ดเพื่อให้มี “นายกฯ คนนอก” ได้ในสภาพของ “นายกฯ พ่วง”

คุณท่านผู้นำท่านคำรามด้วยอารมณ์บูดใส่นักการเมือง “พ่วง” สื่อ อย่างนี้ขอรับ... “วันนี้ยังกล้าออกมาพูดตำหนิ คสช. ตำหนิการปฏิรูป หรือเห็นว่า หากปล่อยให้ คสช.ทำไปแล้วสำเร็จ ประชาชนจะไม่เลือกนักการเมือง สิ่งที่ถาม คสช.มาทุกเรื่อง...

สื่อลองถามกลับไป แล้วให้เขาตอบว่า หลายสิบปีของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ทำไมเรื่องเหล่านี้จึงไม่เกิด และหากได้มาเป็นรัฐบาลจะแก้ไขอย่างไร วันนี้ที่ออกมาโวยวายรัฐธรรมนูญ และกฎหมาย ทำเพื่ออะไร ใครได้ประโยชน์ ที่ผ่านมา ไม่ออกมา ไม่สนใจ ขณะเดียวกัน สื่อวันนี้ก็มีส่วนทำร้ายประเทศด้วย ไม่มีจรรยาบรรณ วิจารณ์การทำงาน คสช.”

เรื่องคุณท่านวิจารณ์นักการเมือง ก็ให้นักการเมืองตอบโต้หรือสวนกลับก็แล้วกัน อยากพูดประเด็นสื่อเท่านั้น ทั้งๆ ที่คุณท่านผู้นำมิได้ชี้ชัดว่าสื่อองค์กรใด หรือใคร ดังนั้น ย่อมต้องอนุมานเอาเองว่า “สื่อ” อะไรก็แล้วแต่ที่วิจารณ์ คสช.เป็นสื่อไม่มีจรรยาบรรณ

คุณท่านผู้นำคงไม่ลืมใช่หรือไม่ว่า หลังจากได้ยกพวกเข้ามาประหารรัฐแม่นางเห็ดบานเดือนพฤษภาคม 2557 นั้น คุณท่านได้ออกกฎหมายข้อห้ามสารพัด จำกัดสิทธิขั้นพื้นฐานโดยไม่แยกแยะคนดีคนชั่ว และยังให้คนดีคนชั่วต้องปรองดองอยู่ร่วมกันอีกด้วย

อะไรก็ตามที่คนดีได้เคยมีสิทธิทำได้ รัฐบาลคุณท่านจำกัดสิทธิโดยอ้างความมั่นคง ทั้งๆ ที่คุณท่านก็ไม่ได้จัดการกับ “ภัย” ต่อความมั่นคงอย่างขุดรากถอนโคน และชาวบ้านยังไม่ได้รับการบอกเล่าเลยว่า “ภัย” ที่ท่านว่านั้นเป็นอะไร เพียงแต่บอกว่าอยู่นอกประเทศ

ชาวบ้านย่อมอนุมานได้ว่า “ภัย” นั้นคือท่านเหลี่ยมเร่ร่อนและเครือข่ายสู้แล้วรวยเผาบ้านเผาเมือง แต่คุณท่านก็ไม่ได้ใช้อำนาจพิเศษจัดการอายัดทรัพย์ หรือทำอะไรที่คนดีเห็นว่าคุณท่านเอาจริง เข้มข้น แต่ก็ไม่จัดการตามจับท่านเหลี่ยมมาเข้าคุกตามคำสั่งศาล

ชาวบ้านขอถามว่าเป็นการละเว้น เข้าข่ายมาตรา 157 หรือไม่ เพราะท่านเหลี่ยมถูกศาลพิพากษาจำคุก 2 ปี มีอีก 6-7 หมายจับ แต่กลับไม่มีใครทำอะไร กลไกกระบวนการทางกฎหมายเดี้ยงสนิท แต่มาโวย เต้นเป็นฟืนเป็นไฟว่า “ขันแดง” เป็นภัยต่อความมั่นคง

ทำไมสื่อวิจารณ์ คสช.จึงถูกคุณท่านว่าไม่มีจรรยาบรรณ? การวิจารณ์ทั้งหมดผิดจากความเป็นจริง ไร้เหตุผล หรือว่า คสช.ต้องอยู่เหนือคำวิจารณ์ทุกกรณี เป็นกลุ่มซึ่งสื่อหรือใครก็แตะต้องไม่ได้ เป็น “Untouchables” หรือเป็นจัณฑาลชั้นต่ำในวรรณะอินเดีย

น่าจะเป็นเพราะคำวิจารณ์เรื่องรัฐธรรมนูญเนื้อหาพิสดารหมกเม็ดแฝงเร้น โฆษณาคุณภาพเกินจริงแล้วมีคนรู้ทันจับได้หรือไม่ และคงเป็นประเด็น “คำถามพ่วง” ซึ่งเป็นการเปิดทางไปสู่การมี “นายกฯ พ่วง” ทำให้พรรคเพื่อเหลี่ยมและค่ายสะตอประกาศ “ไม่เอา”

เพียงแค่นี้ย่อมทำให้ผู้กุมอำนาจถูกมองด้วยสายตาสงสัยว่า คิดอยู่ยาวเกิดอารมณ์เสีย แม้จะมีคำรับรองว่า “ไม่เอาหรอก” “ไม่อยู่ต่อ” แต่ชาวบ้านไม่เชื่อน้ำคำและน้ำยา เพราะสถานการณ์ย่อมถูกสร้างขึ้นได้ ดังเช่นปัญหารัฐธรรมนูญฉบับแรกไม่ผ่านนั่นไง

คำถามพ่วงมีประเด็น “ให้ สนช.ตั้งคำถามประชามติร่างรัฐธรรมนูญอีกหนึ่งคำถาม ว่าเห็นชอบกับการให้รัฐสภา (ส.ส. และ ส.ว.) ลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีหรือไม่...” คำถามจริงยาวกว่านี้ แต่มีปัญหาเรื่องการใช้ภาษาลำดับความ ชาวบ้านเข้าใจยาก เอาแค่นี้ก็พอ

เมื่อวิจารณ์ไม่ได้ ขอเป็นคำถามก็แล้วกันว่า “ทำไม” ต้องมี “คำถามพ่วง” นี้ เพราะพรรคการเมืองย่อมต้องมีคนพร้อมเป็นนายกฯ หรือจะมีการสร้างเงื่อนไข สถานการณ์ให้พรรคการเมืองอยู่ในสภาวะจำยอมให้คนกระสันอำนาจ แต่ไม่อยากเปิดหน้าลงเลือกตั้ง

คนอยากให้มีคำถามพ่วงรู้ล่วงหน้าได้อย่างไรว่าจะมีปัญหาการหาตัวนายกฯ หรือมีวิกฤตเกิดขึ้น จนต้องให้คนกระสันในอำนาจเป็น “นักวิ่งราวประชาธิปไตย” “นักตีกิน” “นักชุบมือเปิบ” แบบเคยตัว และจ้องหาโอกาสโดยไม่หาเสียงให้ชาวบ้านชี้หน้าว่า “ไม่น่าไว้ใจ”

ใครก็ตามที่จะมาเป็น “นายกฯ พ่วง” ย่อมเป็นคนไม่กล้าสู้หน้า ไม่ชอบตอบคำถาม ไม่ชอบการตรวจสอบ มีประวัติมัวหมอง พฤติกรรมไม่ซื่อ หรือเป็น “ขุนศึกตระกูลยี้” และอะไรก็ตามที่ “พ่วง” ย่อมมีคุณภาพต่ำ ชาวบ้านไม่อยากได้ ต้อง “แถม” หรือ “พ่วง” ให้ฟรี

คุณท่านอยากให้ประเทศไทยมี “นายกฯ พ่วง” ด้อยคุณภาพเป็น “ท่านยี้” หรือ!?
กำลังโหลดความคิดเห็น