ทีดีอาร์ไอหนุนAIS รับใบอนุญาต 4G ต่อจาก JAS ราคาเดิม เชื่อทุกฝ่ายได้ประโยชน์ ยกย่องมหัศจรรย์วิธีการแบบไทยๆ แนะครั้งหน้า กสทช.ควรจัดประมูลก่อนไลเซ่นส์หมดอายุแต่เนิ่นๆ ด้าน วิษณุเผยยังไม่สรุปใช้ ม.44 รอเรื่องมาไม่ถึงนายกฯ ก่อน
เมื่อวานนี้ (6 เม.ย.) นายสมเกียรติ ตั้งกิจวาณิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) โพสต์เฟซบุ๊กเกี่ยวกับความเห็นเรื่องที่บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (AIS) ทำหนังสือแจ้งสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ขอขอรับช่วงใบอนุญาต 4G บนคลื่นความถี่ย่าน 900 เมกะเฮิรตซ์ ต่อจาก บริษัท แจส โมบาย บรอดแบรนด์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ JAS ว่าเนื่องจากมีผู้สอบถามความเห็นมามาก ดังนั้นจึงขอวิเคราะห์เป็นข้อๆ ดังนี้
การที่ AIS ยอมจ่ายค่าคลื่น 7.56 หมื่นล้านบาทตามราคาที่ JAS เคยประมูลได้นั้น ตนรู้สึกประหลาดใจที่ AIS เสนอรับราคาประมูลดังกล่าว เพราะในการประมูลครั้งที่แล้ว AIS ออกจากการประมูลก่อนราคาดังกล่าวนานพอสมควร ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะ AIS มองว่า การประมูลคราวที่แล้ว ตนเสนอราคาต่ำไป เมื่อไม่ได้คลื่นความถี่ จึงประสบปัญหาการถ่ายโอนลูกค้า ทำให้พร้อมเสนอราคาคลื่นให้สูงขึ้น ในครั้งนี้
“กรณีนี้มีประเด็น ที่สำคัญต่อประโยชน์สาธารณะ 3 ประเด็นคือ หนึ่ง ผลประโยชน์ของรัฐ และประชาชนผู้เสียภาษี สอง ความเป็นธรรมระหว่างผู้ประกอบการ และ สาม ผลประโยชน์ต่อผู้บริโภค”
ประเด็นแรก หากมีผู้พร้อมจ่ายค่าใบอนุญาตคลื่น 7.56 หมื่นล้านบาท ก็ถือว่าเป็นข่าวดีของรัฐบาลและกสทช. เพราะทำให้รัฐบาลได้รายได้ไม่น้อยกว่าเดิม และดีกว่าการเสี่ยงให้ กสทช. ไปประมูลใหม่ในเดือนมิถุนายนแล้วไม่ได้ราคาดังกล่าว เพราะสถานการณ์ต่างๆ จะเปลี่ยนไปมาก แต่ในฐานะประชาชนผู้เสียภาษีแล้ว อยากเห็นรัฐบาลประกาศให้ชัดเจนว่า จะเอาเงินรายได้จากการประมูลนี้ไปทำอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน เช่น เอาส่วนหนึ่งไปเพิ่มการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาของประเทศ เพราะที่ผ่านมา แม้ประมูลได้เงินมาก แต่หลายคนบอกว่า ถึงได้เงินมาก ก็ไม่แน่ใจว่า เงินจะถูกใช้ไปอย่างคุ้มค่า
ประเด็นที่สอง เรื่องความเป็นธรรมระหว่างผู้ประกอบการ เนื่องจากจะไม่มีการประมูลนั้น ผมคิดว่า ก่อนจะดำเนินการต่อไป กสทช. ควรสอบถามอย่างเป็นทางการกับผู้ประกอบการรายอื่นโดยเฉพาะดีแทค ซึ่งเป็นรายเดียวที่ไม่ถูก กสทช. ตัดสิทธิจากการประมูลรอบใหม่ว่า พร้อมที่จะเสนอราคาสูงกว่า AIS หรือไม่ โดยหากพร้อมเสนอราคาสูงกว่า ก็ควรจัดการประมูลโดยเร็ว แต่หากไม่พร้อม ก็หมายความว่ายอมรับที่จะให้ AIS ได้คลื่นไป โดยต้องให้คำตอบในเวลาที่กำหนด หากทำเช่นนี้ ข้อสงสัยเรื่องความเป็นธรรมระหว่างผู้ประกอบการก็จะหมดไป
ประเด็น ที่สาม เรื่องผลประโยชน์ต่อผู้บริโภคนั้น การจัดสรรคลื่นให้ AIS จะช่วยแก้ปัญหา “ซิมดับ” ของผู้บริโภคจำนวนมาก ซึ่งเป็นเรื่องทีดี แต่ก็น่าเสียดายว่า ตลาดบริการ 4G อาจมีการแข่งขันน้อยกว่าตลาดบริการ 3G เพราะนอกจาก ไม่มีรายใหม่อย่าง แจส เข้าร่วมแล้ว รายเดิมอย่างดีแทค ยังไม่ได้คลื่นด้วย แต่ผลลัพธ์นี้ก็ไม่ได้แย่กว่า การประมูลรอบใหม่ ที่ AIS เสนอราคาสูงกว่าดีแทค
“สรุป การที่ AIS เสนอรับช่วงใบอนุญาต 4G ต่อจาก แจส โดยยอมจ่ายที่ราคาเดิมนั้น หากผู้ประกอบการรายอื่นไม่คัดค้าน ก็น่าจะทำให้ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ ทั้ง AIS ซึ่งแก้ปัญหาของตนเองได้ รัฐบาลและ กสทช. ที่ได้รายได้ไม่น้อยกว่าเดิม และผู้บริโภคที่ไม่มีปัญหาซิมดับ เรียกได้ว่าสามารถแก้ปัญหาไปได้อย่างมหัศจรรย์ด้วยวิธีแบบไทยๆ”
นอกจากนี้นายสมเกียรติแนะนำว่า เพื่อหลีกเลี่ยงการแก้ไขปัญหาแบบไทยๆ อีกในอนาคต กสทช. ควรจัดการประมูลคลื่นล่วงหน้าก่อนที่ ใบอนุญาตหรือสัมปทานของผู้ประกอบการจะหมดอายุนานพอควร เช่น 1 ปีขึ้นไป เพื่อไม่ให้เกิดความเสี่ยงต่อผู้บริโภค และเกิดความไม่แน่นอนในการทำธุรกิจของผู้ประกอบการ
***"วิษณุ" ยังไม่ได้รับมอบหมายจากนายกฯ
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี กสทช.จะขออนุมัติจากรัฐบาล ให้เอไอเอส จ่ายค่าคลื่นความถี่ แทนแจส ว่า เบื้องต้นตนทราบเรื่องดังกล่าว แต่ยังไม่เห็นเรื่องอย่างเป็นทางการ จึงยังไม่สามารถตอบได้ว่า ตามข้อกฎหมายจะเป็นไปได้หรือไม่ เพราะตนยังไม่เห็นรายละเอียด
ส่วนการเสนอให้ใช้อำนาจตาม มาตรา 44 นั้น ตนยังตอบไม่ได้เช่นกัน และขณะนี้ยังไม่มีการมอบหมายจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ในการศึกษาเรื่องดังกล่าว แต่หากมีการมอบหมาย ก็จะได้พิจารณาต่อไป
อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอต่างๆ จะต้องผ่านการพิจารณาของ กสทช. เสียก่อน เพราะหาก กสทช. ยังไม่เห็นด้วย ก็คงเป็นไปได้ยาก และหากผ่านด่าน กสทช. จริง ทาง กสทช. ก็ต้องคิดแล้วว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ แต่ขณะนี้ตนยังไม่ทราบ และไม่เคยรู้เรื่องกติกาการประมูลคลื่นความถี่เป็นอย่างไร.