ผู้จัดการรายวัน 360 - แจส โมบาย วุ่นไม่เลิก นัดแถลงข่าวแต่ยกเลิก ปุ๊ปปั๊บ เหมือนเล่นขายของ เพิ่งคิดได้ว่าต้องแจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ก่อนแถลงข่าว เผยจม.ถึงตลท.อ้างนายทุนจีนเข้ามาร่วมทุนไม่ทัน 21 มี.ค.ชี้ขอกสทช.ไปจนถึงเดือนเม.ย.แต่ไม่ยอมผ่อนปรน ตลาดขึ้น SP ระบุข้อมูลยังไม่ชัดเจน ด้านดีแทคค้านทรูฯเข้าร่วมประมูลครั้งต่อไป ขณะที่ “สมเกียรติ” ยัน ยึดไลเซ่นส์ย้อนหลังแจสทำยาก
วานนี้ (22 มี.ค.) เวลา 09.00 น. บริษัท แจส โมบาย บรอดแบนด์ จำกัด ได้ส่งจดหมายว่าจะมีการแถลงข่าวด่วนในเวลา 14.00 น. กรณี แจส โมบาย ไม่มาชำระเงินค่าประมูลคลื่น 900 MHz เมื่อวันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) รับชำระ
ขณะเดียวกับที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท.ขึ้นเครื่องหมาย H หลักทรัพย์ของ JAS และ DW ที่มี JAS เป็นหลักทรัพย์อ้างอิง โดยออกคำสั่งให้JAS ชี้แจงผลกระทบจากการที่ JASMBB ไม่ดำเนินการเพื่อให้ได้รับใบอนุญาตซึ่ง JASMBBชนะการประมูลคลื่นเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2558
แต่เวลา 12.30 น. แจส กลับส่งจดหมายยกเลิกงานแถลงข่าว โดยระบุว่า ยังไม่สามารถแถลงข่าวในเวลานี้ได้ เนื่องจากยังไม่ได้ชี้แจงรายละเอียดให้แก่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ส่งผลให้ต้องรอแจ้ง ตลท.ก่อน ค่อยแถลงข่าวอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง ทำให้สื่อมวลชนที่ทยอยมารอแถลงข่าวต้องเดินทางกลับ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ของแจสไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะมีการแถลงข่าวของผู้บริหารได้เมื่อใด
หลังจากนั้น ได้มีการส่งจดหมายแจ้ง ตลท. ระบุเหตุที่ไม่สามารถนำหนังสือค้ำประกันจากสถาบันการเงินจำนวนประมาณ 72,000 ล้านบาท มามอบให้แก่ กสทช. เนื่องจากผู้ประกอบการรายใหญ่แห่งหนึ่งของประเทศจีน (ซึ่งสนใจร่วมลงทุนในแจสโมบาย และได้รับการสนับสนุนจากธนาคารพาณิชย์แห่งใหญ่ของประเทศจีน) ติดข้อจำกัดในเรื่องของระยะเวลาในการขออนุมัติจากหน่วยงานที่กำกับดูแลที่เกี่ยวข้องของประเทศจีน ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณกลางเดือนเมษายน 2559 ทำให้ไม่ทันตามกำหนดระยะเวลา 90 วัน ตามที่ระบุในประกาศ
ทั้งนี้ทางสำนักงาน กสทช. ก็ไม่สามารถผ่อนปรน หรือผ่อนผันเงื่อนไขเกี่ยวกับระยะเวลาใดๆ ตามที่ระบุในประกาศ กสทช. ดังกล่าวแก่ แจส โมบาย จึงไม่สามารถนำหนังสือค้ำประกันจากสถาบันการเงินจำนวนประมาณ 72,000 ล้านบาท มามอบแก่สำนักงานกสทช.ตามกำหนดเวลา
ในส่วนของผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นจากการที่แจส โมบาย มิได้ไปขอรับใบอนุญาต ที่ปรึกษากฏหมายของบริษัทให้ความเห็นว่าแจสโมบาย จะต้องถูกริบเงินประกันการประมูลจำนวน 644 ล้านบาทเท่านั้น เนื่องจากแจส โมบาย มิได้ปฏิบัติผิดเงื่อนไขใดๆ ตามข้อ 5.2 ของหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคม และการถูกริบเงินดังกล่าวก็ไม่มีผลกระทบต่องบการเงินของบริษัท อย่างมีนัยสำคัญ
ในการซื้อขายช่วงบ่ายตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ประกาศขึ้นเครื่องหมาย SP เนื่องจากบริษัทยังชี้แจงข้อมูลไม่ครบถ้วนทั้ง 3 ประเด็นหลัก
ด้านความเคลื่อนไหวหุ้นกลุ่มสื่อสารได้ปรับตัวเพิ่มอย่างคึกคัก มูลค่าการซื้อขายตลอดทั้งวันติด 3 อันดับแรกซื้อขายสูงสุด คือ ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 10,255.22 ล้านบาท ปิดที่ 190 บาท เพิ่ม 13 บาท หรือ 7.34% DTAC มูลค่า 6,520.62 ล้านบาท ปิดที่ 47.50 บาท เพิ่ม 5.25 บาท หรือ 12.43% และ INTUCH มูลค่า 4,174.51 ล้านบาท ปิดที่ 64.75 บาท เพิ่ม 4.00 บาท หรือ 6.58%
ขณะที่ภาพรวมตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นเ แม้จะมีแรงเทขายจากเหตุการณ์ลอบวางระเบิดที่เบลเยียมในช่วงบ่าย โดยดัชนีหุ้นไทยแตะระดับสูงสุดที่ 1,42.03 จุด ต่ำสุด 1,391.23 จุด ก่อนจะปิดการซื้อขายที่ 1,397.20 จุด เพิ่มขึ้น 3.57 จุด หรือ 0.26% มูลค่าการซื้อขายรวม 62,756.51 ล้านบาท
นายลาร์ส นอร์ลิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวว่า การประมูลคราวนี้ควรจำกัดไว้เฉพาะผู้ที่เข้าร่วมการประมูลที่เหลืออยู่จากการประมูลคลื่น 900 MHz คราวก่อนเท่านั้น โดยผู้ที่ชนะการประมูลคลื่น 900 MHzครั้งก่อน ไม่ควรมีสิทธิเข้าร่วมการประมูลในครั้งนี้ เนื่องจากได้ครอบครองคลื่นความถี่ 900 MHzจำนวน 1 ใบอนุญาตไปแล้วตามกฎการประมูลที่อนุญาตให้ผู้ขอรับใบอนุญาตแต่ละรายมีสิทธิยื่นประมูลคลื่นความถี่ได้ไม่เกินหนึ่งชุดคลื่นความถี่ซึ่งเป็นกฎเกณฑ์ที่กำหนดไว้เพื่อส่งเสริมการแข่งขันโดยเสรี
นายสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือ ทีดีอาร์ไอ กล่าวว่า การห้าม (แบลกลิสต์) ผู้ถือหุ้นใหญ่ของแจสเข้าร่วมในการขอใบอนุญาตประกอบกิจการต่างๆ จาก กสทช. ในอนาคต เป็นสิ่งที่ กสทช. อาจทำได้ แต่ต้องเป็นไปอย่างได้สัดส่วน อย่างไรก็ตามการจะเพิกถอนใบอนุญาตอื่นๆ ของบริษัทในเครือจัสมินที่ได้รับจาก กสทช. เช่น โมโน หรือ 3BB ย้อนหลังน่าจะมีปัญหา เพราะบริษัทที่เกี่ยวข้องเป็นคนละนิติบุคคลกัน ที่สำคัญ กสทช. ไม่เคยกำหนดเงื่อนไขดังกล่าวก่อนที่จะมีการประมูล 4G การเพิกถอนใบอนุญาตย้อนหลังจึงน่าจะมีปัญหาความชอบด้วยกฎหมายและขัดกับหลักนิติรัฐ ซึ่งอาจทำให้ กสทช. มีความรับผิดทางกฎหมายในอนาคต
ทางด้าน คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) จะมีการประชุมในช่วงเช้า เวลา 09.00 น. ของวันนี้ เพื่อหารือในการเอาผิดแจสกรณีที่ไม่มาชำระเงินค่าประมูล ซึ่งนอกจากการริบเงินประกันจำนวน 644 ล้านบาทแล้ว ยังต้องประเมินค่าเสียหายทั้งหมด ว่าควรอยู่ที่จำนวนเท่าไหร่ การตรวจสอบคุณสมบัติของใบอนุญาตที่ได้จาก กสทช. ว่าสามารถยึดคืนมาได้หรือไม่ รวมถึงประเด็นทางข้อกฎหมายต่างๆว่าจะเอาผิดอย่างไรได้บ้าง โดยจะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนในเวลาประมาณ 11.00-14.30 น.
วานนี้ (22 มี.ค.) เวลา 09.00 น. บริษัท แจส โมบาย บรอดแบนด์ จำกัด ได้ส่งจดหมายว่าจะมีการแถลงข่าวด่วนในเวลา 14.00 น. กรณี แจส โมบาย ไม่มาชำระเงินค่าประมูลคลื่น 900 MHz เมื่อวันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) รับชำระ
ขณะเดียวกับที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท.ขึ้นเครื่องหมาย H หลักทรัพย์ของ JAS และ DW ที่มี JAS เป็นหลักทรัพย์อ้างอิง โดยออกคำสั่งให้JAS ชี้แจงผลกระทบจากการที่ JASMBB ไม่ดำเนินการเพื่อให้ได้รับใบอนุญาตซึ่ง JASMBBชนะการประมูลคลื่นเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2558
แต่เวลา 12.30 น. แจส กลับส่งจดหมายยกเลิกงานแถลงข่าว โดยระบุว่า ยังไม่สามารถแถลงข่าวในเวลานี้ได้ เนื่องจากยังไม่ได้ชี้แจงรายละเอียดให้แก่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ส่งผลให้ต้องรอแจ้ง ตลท.ก่อน ค่อยแถลงข่าวอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง ทำให้สื่อมวลชนที่ทยอยมารอแถลงข่าวต้องเดินทางกลับ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ของแจสไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะมีการแถลงข่าวของผู้บริหารได้เมื่อใด
หลังจากนั้น ได้มีการส่งจดหมายแจ้ง ตลท. ระบุเหตุที่ไม่สามารถนำหนังสือค้ำประกันจากสถาบันการเงินจำนวนประมาณ 72,000 ล้านบาท มามอบให้แก่ กสทช. เนื่องจากผู้ประกอบการรายใหญ่แห่งหนึ่งของประเทศจีน (ซึ่งสนใจร่วมลงทุนในแจสโมบาย และได้รับการสนับสนุนจากธนาคารพาณิชย์แห่งใหญ่ของประเทศจีน) ติดข้อจำกัดในเรื่องของระยะเวลาในการขออนุมัติจากหน่วยงานที่กำกับดูแลที่เกี่ยวข้องของประเทศจีน ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณกลางเดือนเมษายน 2559 ทำให้ไม่ทันตามกำหนดระยะเวลา 90 วัน ตามที่ระบุในประกาศ
ทั้งนี้ทางสำนักงาน กสทช. ก็ไม่สามารถผ่อนปรน หรือผ่อนผันเงื่อนไขเกี่ยวกับระยะเวลาใดๆ ตามที่ระบุในประกาศ กสทช. ดังกล่าวแก่ แจส โมบาย จึงไม่สามารถนำหนังสือค้ำประกันจากสถาบันการเงินจำนวนประมาณ 72,000 ล้านบาท มามอบแก่สำนักงานกสทช.ตามกำหนดเวลา
ในส่วนของผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นจากการที่แจส โมบาย มิได้ไปขอรับใบอนุญาต ที่ปรึกษากฏหมายของบริษัทให้ความเห็นว่าแจสโมบาย จะต้องถูกริบเงินประกันการประมูลจำนวน 644 ล้านบาทเท่านั้น เนื่องจากแจส โมบาย มิได้ปฏิบัติผิดเงื่อนไขใดๆ ตามข้อ 5.2 ของหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคม และการถูกริบเงินดังกล่าวก็ไม่มีผลกระทบต่องบการเงินของบริษัท อย่างมีนัยสำคัญ
ในการซื้อขายช่วงบ่ายตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ประกาศขึ้นเครื่องหมาย SP เนื่องจากบริษัทยังชี้แจงข้อมูลไม่ครบถ้วนทั้ง 3 ประเด็นหลัก
ด้านความเคลื่อนไหวหุ้นกลุ่มสื่อสารได้ปรับตัวเพิ่มอย่างคึกคัก มูลค่าการซื้อขายตลอดทั้งวันติด 3 อันดับแรกซื้อขายสูงสุด คือ ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 10,255.22 ล้านบาท ปิดที่ 190 บาท เพิ่ม 13 บาท หรือ 7.34% DTAC มูลค่า 6,520.62 ล้านบาท ปิดที่ 47.50 บาท เพิ่ม 5.25 บาท หรือ 12.43% และ INTUCH มูลค่า 4,174.51 ล้านบาท ปิดที่ 64.75 บาท เพิ่ม 4.00 บาท หรือ 6.58%
ขณะที่ภาพรวมตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นเ แม้จะมีแรงเทขายจากเหตุการณ์ลอบวางระเบิดที่เบลเยียมในช่วงบ่าย โดยดัชนีหุ้นไทยแตะระดับสูงสุดที่ 1,42.03 จุด ต่ำสุด 1,391.23 จุด ก่อนจะปิดการซื้อขายที่ 1,397.20 จุด เพิ่มขึ้น 3.57 จุด หรือ 0.26% มูลค่าการซื้อขายรวม 62,756.51 ล้านบาท
นายลาร์ส นอร์ลิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวว่า การประมูลคราวนี้ควรจำกัดไว้เฉพาะผู้ที่เข้าร่วมการประมูลที่เหลืออยู่จากการประมูลคลื่น 900 MHz คราวก่อนเท่านั้น โดยผู้ที่ชนะการประมูลคลื่น 900 MHzครั้งก่อน ไม่ควรมีสิทธิเข้าร่วมการประมูลในครั้งนี้ เนื่องจากได้ครอบครองคลื่นความถี่ 900 MHzจำนวน 1 ใบอนุญาตไปแล้วตามกฎการประมูลที่อนุญาตให้ผู้ขอรับใบอนุญาตแต่ละรายมีสิทธิยื่นประมูลคลื่นความถี่ได้ไม่เกินหนึ่งชุดคลื่นความถี่ซึ่งเป็นกฎเกณฑ์ที่กำหนดไว้เพื่อส่งเสริมการแข่งขันโดยเสรี
นายสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือ ทีดีอาร์ไอ กล่าวว่า การห้าม (แบลกลิสต์) ผู้ถือหุ้นใหญ่ของแจสเข้าร่วมในการขอใบอนุญาตประกอบกิจการต่างๆ จาก กสทช. ในอนาคต เป็นสิ่งที่ กสทช. อาจทำได้ แต่ต้องเป็นไปอย่างได้สัดส่วน อย่างไรก็ตามการจะเพิกถอนใบอนุญาตอื่นๆ ของบริษัทในเครือจัสมินที่ได้รับจาก กสทช. เช่น โมโน หรือ 3BB ย้อนหลังน่าจะมีปัญหา เพราะบริษัทที่เกี่ยวข้องเป็นคนละนิติบุคคลกัน ที่สำคัญ กสทช. ไม่เคยกำหนดเงื่อนไขดังกล่าวก่อนที่จะมีการประมูล 4G การเพิกถอนใบอนุญาตย้อนหลังจึงน่าจะมีปัญหาความชอบด้วยกฎหมายและขัดกับหลักนิติรัฐ ซึ่งอาจทำให้ กสทช. มีความรับผิดทางกฎหมายในอนาคต
ทางด้าน คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) จะมีการประชุมในช่วงเช้า เวลา 09.00 น. ของวันนี้ เพื่อหารือในการเอาผิดแจสกรณีที่ไม่มาชำระเงินค่าประมูล ซึ่งนอกจากการริบเงินประกันจำนวน 644 ล้านบาทแล้ว ยังต้องประเมินค่าเสียหายทั้งหมด ว่าควรอยู่ที่จำนวนเท่าไหร่ การตรวจสอบคุณสมบัติของใบอนุญาตที่ได้จาก กสทช. ว่าสามารถยึดคืนมาได้หรือไม่ รวมถึงประเด็นทางข้อกฎหมายต่างๆว่าจะเอาผิดอย่างไรได้บ้าง โดยจะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนในเวลาประมาณ 11.00-14.30 น.
