นายสุรสิทธิ์ ศิลปงาม ผู้จัดการมูลนิธิเมาไม่ขับ กล่าวถึง มาตรการรณรงค์เมาไม่ขับ ช่วงเทศกาลสงกราต์ปีนี้ ว่า ทั้งการตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ของตำรวจ การมีด่านชุมชนของประชาชน ร่วมกับฝ่ายปกครอง การรณรงค์ให้ประชาชนอย่าละเมิดกฎหมาย ที่ทำอยู่ก็ดีอยู่แล้ว แต่ปีนี้มาตรการเสริมที่เราเสนอถึง รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คือ
1. ขอให้รัฐบาลสนับสนุนการติดกล้องหน้ารถ ไม่ได้เป็นการบังคับ แต่เป็นการเชิญชวนประชาชน ที่มีกำลังทรัพย์ และเป็นไปได้ รัฐบาลอาจจะสนับสนุนช่วยลดภาษีของคนที่ติดกล้องหน้ารถ เอาใบเสร็จไปลดหย่อน ซึ่งสงกรานต์นี้อาจจะไม่ทัน แต่อาจจะในระยะยาว ซึ่งการติดกล้องสามารถช่วยได้ เช่น แชร์คลิป หรือการส่งคลิปไปให้ตำรวจได้ เชื่อว่าถ้ารถทุกคันติดกล้องหน้ารถ รถข้างหน้า ไม่กล้ากระทำความผิด ทุกคนจะระวัง อย่างกรณีคดีนายเจนภพ ขับรถชนท้ายนิสิตปริญญาโท จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หากไม่มีกล้อง ก็ไม่รู้คดีจะออกมารูปแบบใด หรือ กรณีดีเจเก่ง เป็นต้น
2. เราเสนอสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่ง ผบ.ตร. ขานรับแล้ว ในกรณีที่มีการเกิดอุบัติเหตุ ที่มีการบาดเจ็บและเสียชีวิต อยากให้ตำรวจมีการตรวจวัดแอลกอฮอล์ผู้ขับขี่ทั้งสองฝ่าย งวดนี้เราเสนอให้มีการตรวจในรถทุกชนิด แต่กรณีที่เฉี่ยวชน มีการตกลงกันได้ก็แยกกันไป เราจะได้รู้สาเหตุว่า ปัญหาเกิดจากอะไร จะได้ดำเนินคดีกับผู้ที่เมาแล้วขับ
3. มาตรการยึดรถ 7 วัน รัฐบาลเขาทำตั้งแต่ปีใหม่ เราจึงเสนอให้ทำช่วงสงกรานต์ด้วย ทั้งนี้มาตรการที่ทำอยู่แล้ว มาตรการใหม่ และทุกฝ่ายช่วยกัน คิดว่าสงกรานต์ปีนี้ อุบัติเหตุตัวเลขจะลดลง
ทั้งนี้ ยอมรับว่า การโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในปัจจุบัน มีผลกระทบต่อการรณรงค์ แต่ต้องแยกกัน เราไม่ได้ต่อต้านการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ถ้าคุณกินเหล้าแล้ว ไม่ขับรถ เราถือว่าบรรลุวัตถุประสงค์แล้ว หน่วยงานไหนรณรงค์ให้คนไม่กินเหล้า แล้วทำได้ ถือว่าอันนั้นเป็นอานิสงส์ เป็นประโยชน์กับมูลนิธิฯ เราด้วย แต่ถ้ารณรงค์แล้วยังมีคนไปกินอยู่ สงกรานต์ยังไปกินอยู่ เราก็จะรับไม้ต่อ บอกกินไม่เป็นไร แต่อย่าไปขับรถ ขับรถมีความผิด เพราะจะให้มูลนิธิฯ เราไปบอกคนอย่ากินเหล้าเลย กินแล้วเป็นบาป มันไม่ใช่วัตถุประสงค์ของมูลนิธิฯ เพราะมูลนิธิฯ ตั้งมาเมาไม่ขับ ต้องการลดอุบัติเหตุ เราก็เอาในส่วนของเมาไม่ขับ ส่วนการรณรงค์ไม่ให้กินเหล้าเลย เพื่อลดทุกปัญหา ลดเรื่องสุขภาพด้วย ถ้าทำได้เราก็ขอบคุณ เป็นการแยกหน้าที่กันทำงาน ดังนั้น สงกรานต์ปีนี้ขอให้ทุกคนถ้ากินเหล้าแล้วอย่าขับรถออกมา หากไม่เชื่อ จะโดนตำรวจจับ ยึดรถ 7 วัน ส่งดำเนินคดี หากแอลกอฮอล์เกินกำหนด
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าสงกรานต์ปีนี้ตัวเลขสูงขึ้น จะถือว่าการรณงค์ลดอุบัติเหตุไม่สัมฤทธิ์ผลหรือไม่ นายสุรสิทธิ์ กล่าวว่า ถ้าตัวเลขการตายไม่ลดลง หรือเพิ่มขึ้น เราก็ต้องมาถามตัวเราเองว่า บกพร่องตรงไหน ถ้าตัวเลขปีนี้ออกมาลดลง เราให้เครดิตทุกคน แต่ถ้าเพิ่มขึ้นเราจะไม่ไปโทษคนอื่น แต่เราต้องทำงานต่อไป อย่างไรก็ตาม เราก็หวังว่าปีนี้น่าจะดีขึ้น อยากให้ทุกภาคส่วนเข้ามาช่วยกัน เพื่อให้ลดจำนวนอุบัติเหตุ จากการเมาแล้วขับอย่าเป็นรูปธรรม
1. ขอให้รัฐบาลสนับสนุนการติดกล้องหน้ารถ ไม่ได้เป็นการบังคับ แต่เป็นการเชิญชวนประชาชน ที่มีกำลังทรัพย์ และเป็นไปได้ รัฐบาลอาจจะสนับสนุนช่วยลดภาษีของคนที่ติดกล้องหน้ารถ เอาใบเสร็จไปลดหย่อน ซึ่งสงกรานต์นี้อาจจะไม่ทัน แต่อาจจะในระยะยาว ซึ่งการติดกล้องสามารถช่วยได้ เช่น แชร์คลิป หรือการส่งคลิปไปให้ตำรวจได้ เชื่อว่าถ้ารถทุกคันติดกล้องหน้ารถ รถข้างหน้า ไม่กล้ากระทำความผิด ทุกคนจะระวัง อย่างกรณีคดีนายเจนภพ ขับรถชนท้ายนิสิตปริญญาโท จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หากไม่มีกล้อง ก็ไม่รู้คดีจะออกมารูปแบบใด หรือ กรณีดีเจเก่ง เป็นต้น
2. เราเสนอสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่ง ผบ.ตร. ขานรับแล้ว ในกรณีที่มีการเกิดอุบัติเหตุ ที่มีการบาดเจ็บและเสียชีวิต อยากให้ตำรวจมีการตรวจวัดแอลกอฮอล์ผู้ขับขี่ทั้งสองฝ่าย งวดนี้เราเสนอให้มีการตรวจในรถทุกชนิด แต่กรณีที่เฉี่ยวชน มีการตกลงกันได้ก็แยกกันไป เราจะได้รู้สาเหตุว่า ปัญหาเกิดจากอะไร จะได้ดำเนินคดีกับผู้ที่เมาแล้วขับ
3. มาตรการยึดรถ 7 วัน รัฐบาลเขาทำตั้งแต่ปีใหม่ เราจึงเสนอให้ทำช่วงสงกรานต์ด้วย ทั้งนี้มาตรการที่ทำอยู่แล้ว มาตรการใหม่ และทุกฝ่ายช่วยกัน คิดว่าสงกรานต์ปีนี้ อุบัติเหตุตัวเลขจะลดลง
ทั้งนี้ ยอมรับว่า การโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในปัจจุบัน มีผลกระทบต่อการรณรงค์ แต่ต้องแยกกัน เราไม่ได้ต่อต้านการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ถ้าคุณกินเหล้าแล้ว ไม่ขับรถ เราถือว่าบรรลุวัตถุประสงค์แล้ว หน่วยงานไหนรณรงค์ให้คนไม่กินเหล้า แล้วทำได้ ถือว่าอันนั้นเป็นอานิสงส์ เป็นประโยชน์กับมูลนิธิฯ เราด้วย แต่ถ้ารณรงค์แล้วยังมีคนไปกินอยู่ สงกรานต์ยังไปกินอยู่ เราก็จะรับไม้ต่อ บอกกินไม่เป็นไร แต่อย่าไปขับรถ ขับรถมีความผิด เพราะจะให้มูลนิธิฯ เราไปบอกคนอย่ากินเหล้าเลย กินแล้วเป็นบาป มันไม่ใช่วัตถุประสงค์ของมูลนิธิฯ เพราะมูลนิธิฯ ตั้งมาเมาไม่ขับ ต้องการลดอุบัติเหตุ เราก็เอาในส่วนของเมาไม่ขับ ส่วนการรณรงค์ไม่ให้กินเหล้าเลย เพื่อลดทุกปัญหา ลดเรื่องสุขภาพด้วย ถ้าทำได้เราก็ขอบคุณ เป็นการแยกหน้าที่กันทำงาน ดังนั้น สงกรานต์ปีนี้ขอให้ทุกคนถ้ากินเหล้าแล้วอย่าขับรถออกมา หากไม่เชื่อ จะโดนตำรวจจับ ยึดรถ 7 วัน ส่งดำเนินคดี หากแอลกอฮอล์เกินกำหนด
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าสงกรานต์ปีนี้ตัวเลขสูงขึ้น จะถือว่าการรณงค์ลดอุบัติเหตุไม่สัมฤทธิ์ผลหรือไม่ นายสุรสิทธิ์ กล่าวว่า ถ้าตัวเลขการตายไม่ลดลง หรือเพิ่มขึ้น เราก็ต้องมาถามตัวเราเองว่า บกพร่องตรงไหน ถ้าตัวเลขปีนี้ออกมาลดลง เราให้เครดิตทุกคน แต่ถ้าเพิ่มขึ้นเราจะไม่ไปโทษคนอื่น แต่เราต้องทำงานต่อไป อย่างไรก็ตาม เราก็หวังว่าปีนี้น่าจะดีขึ้น อยากให้ทุกภาคส่วนเข้ามาช่วยกัน เพื่อให้ลดจำนวนอุบัติเหตุ จากการเมาแล้วขับอย่าเป็นรูปธรรม