ป้อมพระอาทิตย์
โดย โสภณ องค์การณ์
ร่างรัฐธรรมนูญฉบับมีชัยไทยแลนด์มุ่งทดแทนคุณแผ่นดินกำลังผ่านขั้นตอนสุดท้าย เนื้อหาดั้งเดิมที่ว่าเป็นสุดยอดของมาตรการปราบโกง วางกฎใหม่สำหรับการเป็นสมาชิกวุฒิสภา และประเด็นโดดเด่นอื่นๆ ตามคำอ้าง ดูเหมือนว่าโดนชะล้างจนเจือจางไปเยอะ
ถ้าเสร็จสิ้นกระบวนการ กระแสความแล้ว คุณท่านมีชัยจะยังจำได้หรือไม่ว่านั่นเป็นร่างที่คณะของท่านได้เสนอมา มีทั้งเนื้อหาดั้งเดิมและส่วนแทรกเสริมตามใบสั่งของคณะคุณท่าน มีทั้งบทเฉพาะกาล เฉพาะกิจ เฉพาะกลุ่ม และข้อห้ามจากผู้มีอำนาจเรื่องวิจารณ์
วิจารณ์มากไม่ได้ จะโดนเรียกไปเข้าหลักสูตรปรับทัศนคติ ตามระยะเวลาที่จำเป็น 3-7 วัน ขึ้นอยู่กับความหัวแข็งดื้อรั้นของผู้วิจารณ์ ช่วงหลังตัวหลักของขบวนการเหลี่ยมได้รับเชิญแบบไม่เต็มใจไปนอนในค่ายทหาร เมื่อถูกปล่อยตัวแล้วพฤติกรรมเหมือนเดิม
ไม่ใช่ไม้แก่ดัดยากหรอก แต่คณะคุณท่านไม่ได้สร้างพระคุณ ผลประโยชน์อะไรให้พวกขบวนการเหลี่ยม นอกจากไม่สร้างแล้ว ยังได้รัฐประหารยึดอำนาจจากซากรัฐบาลของคุณนายเห็ดบานเมื่อไม่ยอมลดราวาศอกอะไรในช่วงที่โดนสั่งให้ไปที่หอประชุมกองทัพบก
บัดนี้ ขบวนการเหลี่ยมทั้งพรรคการเมืองและกลุ่มมวลชนแกนนำเสื้อแดงประกาศชัดเจนแล้วว่าไม่เอารัฐธรรมนูญฉบับมีชัยไทยแลนด์เสริมด้วยใบสั่ง จากนี้คงจะมีการรณรงค์ในเครือข่ายพวกเดียวกันว่าถ้ามีการทำประชามติ ต้องบอกว่าไม่เอารัฐธรรมนูญ
เท่ากับเป็นการยืนยันอีกครั้งว่านโยบายยัดเยียดความปรองดองโดยคณะคุณท่านนั้นล้มเหลวซ้ำซาก ขบวนการเหลี่ยมไม่ยอมปรองดองกับคณะคุณท่านแน่นอน ถ้าได้ซื้อเสียงทวงคืนอำนาจการเมืองผ่านการเลือกตั้งสำเร็จ น่าจะมีการเช็คบิลย้อนหลังพวกท่าน
เมื่อรัฐประหารล้มรัฐบาลคุณนายเห็ดบาน คณะคุณท่านได้ประกาศฟังแล้วดูเหมือนดี มีอุดมการณ์แนวนโยบายสูงส่งว่าคนดีกับคนชั่วต้องจับมือปรองดองยิ้มกว้างแทนการแยกเขี้ยวใส่กัน เชื่อว่าน้ำกับน้ำมันจะผสมกันได้ ไม่ยอมฟังเสียงค้านว่าป่วยการ
แล้วเป็นไง ความหวังว่าอนาคตของบ้านนี้ เมืองนี้จะสงบราบรื่น สันติสุข มองไปทางไหนมีแต่บรรยากาศโลกสวย ดอกไม้บาน เสียงนกร้องเริงร่า เป็นเพียงความบ้องตื้นชัดๆ คนรู้ทันไม่เคยนึกคิดว่าคนดี คนชั่วจะอยู่ร่วมสังคมกันได้โดยไม่มีข้อขัดแย้ง ราบรื่นทุกเวลา
น่าอนาถเมื่อมองดูความเป็นไปของบ้านเมืองซึ่งอยู่ในสภาพเหมือนเป็นรัฐล้มเหลว ความเป็นนิติรัฐน่าเชื่อถือถูกทำลายด้วยกระบวนการยุติธรรมที่มีแต่เสียงค่อนแคะถากถางว่า “คุกมีไว้ขังคนยากจนกับคนไร้เส้นสาย” เมื่อคดีอาญาดังๆ กลายเป็นคดีพิสดารชวนหัว
คำประกาศว่ามาเฟียเต็มเมือง ตำรวจเอาไม่อยู่ มีจำนวนน้อย ต้องแต่งตั้งทหารให้เป็นเจ้าหน้าที่ปราบมาเฟียภายไต้กฎหมายพิเศษ สะท้อนให้เห็นความล้มเหลวซ้ำซากของกระบวนการยุติธรรม แต่คณะคุณท่านไม่สามารถให้เหตุผลรับฟังได้ว่า “ทำไมไม่ปฏิรูป”
ปล่อยไว้ทำไมให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งทำต่อไป ทั้งๆ ที่คณะคุณท่านได้เคยประกาศด้วยความภูมิใจว่าถ้าภารกิจสำคัญทำไม่ได้ในยุคพวกคุณท่านเป็นใหญ่ ก็อย่าหวังว่ายุคอื่นจะทำได้ นึกหรือว่าจะมีการปฏิรูปโดยรัฐบาลที่คณะคุณท่านทำรัฐประหาร
การให้ทหารมาช่วยตำรวจพิสูจน์ให้เห็นสภาพความเลวร้ายในบ้านเมืองโดยกระบวนการปกติเอาไม่อยู่ ทำให้สภาพโดยรวมกลายเป็นสังคมที่ห่างจากบรรยากาศประชาธิปไตยไปทุกขณะ ทั้งการเรียกพวกเหลี่ยมไปปรับทัศนคติ การใช้อำนาจพิเศษ
ถ้าจะว่าไป บรรยากาศปัจจุบันอยู่ในระดับ “authoritarian” คือผู้กุมอำนาจรัฐต้องการให้ประชาชนอยู่ในสภาพเชื่อง จำกัดสิทธิเสรีภาพระดับหนึ่ง ถ้ายกระดับต่อไปจะเป็น เผด็จการ หรือ “dictatorship” จนถึงขั้นสุดท้ายคือ ทรราช หรือ “tyranny” นั่นเอง
ประเทศไทยเคยมีเผด็จการระดับหนึ่ง ไม่เข้มมากนั้น จัดอยู่ในชั้น “ภูธร” บ้านนอกมากๆ ขาดความทันสมัย มีอำนาจแต่ขาดสมอง บริหารไม่เป็น โกงเก่ง หน้าด้านบางยุคมีผู้นำถูกตราหน้าว่า “ทรราช” แต่ไม่ถึงขั้นทรราชโหดฆ่าคนเป็นเบือเหมือนในบางประเทศ
ที่ผ่านมาถูกหยามว่า “ใจไม่ถึง เยี่ยวไม่สุด” เป็นความล้มเหลวบ้านเมืองเสียหายซ้ำซาก แผ่นดินไทยจึงมีแต่พวกหน้าขี้โกงบริหารประเทศ มาจากระบบไหนวิธีไหนก็สุดแล้วแต่ เอาใจพวกนายทุน ไม่เคยมีรัฐบาลของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน
รัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะรอดสันดอนหรือไม่ ยังต้องรอการทดสอบ พวกหัวคะแนน ขาใหญ่ท้องถิ่นของพรรคการเมืองน่าจะโดนเฝ้ามอง อาจถูกตราประทับเป็นมาเฟีย ผู้มีอิทธิพล เคลื่อนไหวต้านรัฐธรรมนูญช่วงทำประชามติไม่เต็มที่ ทำให้ผ่านไปได้ ไร้แรงต้าน
รัฐธรรมนูญไม่ใช่ยาวิเศษสูตรสำเร็จทั้งยังถูกมองว่าเป็นเครื่องมือให้มีการสืบทอด หรือทอดยาวอำนาจซึ่งอาจเป็นไปอย่างเปิดเผย หรือซุ่มแฝงเร้นสร้างบรรยากาศให้เอื้อและอวยพวกกระสันอำนาจแต่ไม่อยากลงเลือกตั้ง ให้มาเป็นนายกฯ คนนอกแบบด้านๆ
มีใครเอารัฐธรรมนูญ ถ้าพรรคการเมืองไม่เอาด้วย? ประเด็นนี้น่าสนใจ ถึงแม้จะผ่านประชามติโดยการขับเคลื่อน ผลักดัน หักคอหักดิบ หลังจากนั้นไม่มีใครรับประกันว่าบ้านเมืองจะสงบราบรื่น แม้จะมีบทเฉพาะกาลคงอำนาจของคณะคุณท่านไว้อีกก็ตาม
ยิ่งถ้ามีคนนอกมาเป็นนายกฯ ด้วยแล้ว น่าจะมีบรรยากาศแห่งความเสียวไส้ ถึงขั้นอาจมีผู้นำดันทุรังต้องเดินตามรอยท่านเหลี่ยมซึ่งยังเร่ร่อนอยู่ต่างประเทศก็เป็นได้ เพราะอารมณ์ค้างสะสมของชาวบ้านไม่พอใจเรื่องไร้บรรยากาศประชาธิปไตยอาจปะทุแรงก็ได้
คณะคุณท่านน่าจะเผชิญกับกระแสไม่พอใจของนักการเมืองสังกัดขบวนการเหลี่ยม และเครือข่ายมวลชนซึ่งอยู่ในสภาพแร้นแค้นเพราะภัยแล้งและเศรษฐกิจในสภาวะโหล่ยโท่ย ทั้งยังมีเสียงร่ำลือเรื่องขบวนการงาบคำโตโดยกลุ่ม อำนาจแฝงเร้นทะเยอทะยานสุดๆ
น่าหนักใจแทนคณะคุณท่าน อำนาจไม่จีรังยั่งยืน เปลี่ยนมือได้ การใช้อำนาจอย่างเดียวโดยปราศจากผลลัพธ์แสดงให้เห็นฝีมือ ความสำเร็จ หรือความน่าเชื่อถือใจซื่อมือสะอาด ย่อมไม่สามารถผูกใจประชาชนให้เป็นฐานอำนาจได้ จุดจบน่าจะสยดสยองยิ่งนัก
ประชาธิปไตยบ้านนี้เหมือนนี้เปรียบเหมือนการปลูกต้นไม้ มีแต่พวกคอยดึงลำต้นออกมาเพื่อดูว่ารากยาวแค่ไหนแล้ว! ได้แต่หวังว่าถึงอย่างไรแผ่นดินไทยจะไม่ไร้นักแต่งรัฐธรรมนูญ ตราบใดที่ยังมีนักรัฐประหารรอฮึ่มๆ อยู่ข้างเวทีการเมือง