นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมีสื่อนำเสนอข่าวว่า จะมีการยืดระยะเวลาการเลือกตั้งไปเป็นปลายปี 2560 หรือต้นปี 2561ว่า แม้ในร่างรัฐธรรมนูญได้มีการกำหนดว่า ให้มีการทำกฎหมายประกอบรธน.จำนวน 10 ฉบับ ภายใน 8 เดือน ตามมาตรา 268 ก็ตาม แต่มาตรา 271 กำหนดให้ดำเนินการเลือกตั้งส.ส.ให้แล้วเสร็จภายใน 150 วัน นับตั้งแต่วันที่ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ 4 ฉบับ ที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง มีผลบังคับใช้
"อย่าไปกังวลว่ากรธ. จะไปมีลูกเล่นเอา 4 ฉบับที่ว่าไปทำทีหลัง คนที่มีสติ มีปัญญา เขาไม่ทำอย่างนั้น แล้วถึงเวลาทำออกมาคุณจะตกใจว่าทุกอย่างมันพร้อมอยู่แล้ว ผมมีอะไรอยู่ในใจซึ่งจะออกมา 4 ฉบับ ซึ่งจะเซอร์ไพร้ส์มาก คุณจะไม่ทันเตรียมตัวเลย"
นายวิษณุ กล่าวด้วยว่า หากประชามติไม่ผ่าน ก็เป็นหน้าที่ที่คสช.จะเป็นผู้พิจารณาว่าทำอย่างไร โดยการแก้รัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 อีกครั้ง ซึ่งเรื่องนี้คสช. คงคิดล่วงหน้าไว้แล้ว พอรู้ผลว่าไม่ผ่าน ก็เสนอแก้ไขรธน.ชั่วคราวได้ทันที คาดว่าใช้เวลาประมาณ 10 - 20 วัน โดยไม่เห็นด้วยตามข้อเสนอบางฝ่ายที่ว่า ควรไปกำหนดไว้ก่อนทำประชามติว่า ถ้าไม่ผ่านแล้วจะไปหยิบรธน.ฉบับใดมาให้เลือก เพราะเท่ากับว่าเวลาประชาชนพิจารณา จะต้องไปพิจารณารธน. ทุกฉบับที่เป็นตัวเลือก แทนที่จะเข้าไปดูเนื้อหาสาระของฉบับที่ร่างใหม่ และคงจะเกิดความสับสนไม่น้อย
"ยืนยันว่า การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นตามโรดแมปที่วางไว้ แต่ไม่ยืนยันว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในเดือนก.ค.60 แต่จะเร็วขึ้นหรือช้าลง 1 เดือน เพราะยังมีบางอย่างที่อยู่เหนือการควบคุม อาทิ ขั้นตอนการโปรดเกล้าฯ รัฐธรรมนูญ ร่าง พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญ รวมทั้งคำถามพ่วงของสนช. ถ้าผ่านประชามติก็ต้องปรับแก้รัฐธรรมนูญใน 30 วัน" นายวิษณุ กล่าว
นายวิษณุ กล่าวอีกว่า ตนเชื่อว่าจะไม่มีใครชอบ และไม่ชอบ ทุกมาตราในร่างรัฐธรรมนูญทั้งหมด แม้แต่พรรคเพื่อไทย ที่ออกแถลงการณ์ แสดงจุดยืนไม่รับร่างรัฐธรรมนูญก็เชื่อว่าเขาอาจจะมีไม่ชอบในบางมาตรา แต่เขาได้ชั่งน้ำหนักแล้ว
ส่วนข้อเสนอของแม่น้ำ 4 สาย ส่วนที่ไม่ได้ถูกบรรจุในร่างรัฐธรรมนูญ จะไปขอให้สนช. เพิ่มในคำถามพ่วงในประชามติ หรือไม่นั้น ยืนยันว่า คสช.และครม. จะไม่ขอยุ่งเรื่องนี้ เพราะเราปรับแก้รัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 ไปแล้วว่า การตั้งคำถามของสนช. ไม่ต้องมารายงานหรือขอความเห็นชอบจากครม.อีกแล้ว
ด้านนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวถึง แถลงการณ์ ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ของพรรคเพื่อไทย ว่า ได้อ่านแล้วส่วนตัวเห็นว่า ไม่เข้าข่ายผิดกฎหมาย เพราะเป็นการแสดงความเห็นพร้อมเหตุผลที่ไม่เห็นด้วยกับเนื้อหาในร่างรัฐธรรมนูญ แต่สุดท้ายแล้วจะผิดกฎหมายหรือไม่ ศาลจะเป็นผู้ตัดสิน ซึ่งหากมีการร้องเรียนเข้ามา ก็เป็นเรื่องที่ กกต.ทั้งหมดจะต้องพิจารณาร่วมกัน
อย่างไรก็ตาม หากประชาชนเห็นว่ามีกรณีใดที่น่าจะเข้าข่ายกระทำการผิดกฎหมาย ก็สามารถแจ้งความดำเนินคดีได้ เนื่องจากกรณีนี้มีกฎหมายหลายฉบับควบคุมอยู่ เช่น มีการแจกใบปลิวรณรงค์ให้รับ หรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ก็ต้องพิจารณาตามสถานการณ์ ว่ามีการปลุกปั่นให้เกิดความวุ่นวาย หรือมีการบิดเบือนข้อมูล ข่มขู่ คุกคาม อันจะก่อให้เกิดความไม่เรียบร้อยหรือไม่ รวมไปถึงพฤติกรรมว่า มีการชุมนุมเกินกว่าห้าคนหรือไม่ ซึ่งจะต้องดูกฎหมายประกอบเป็นรายกรณี แต่ในส่วนของ กกต.จะทำคำแนะนำในข้อที่ไม่ควรปฏิบัติออกมา เพื่อให้เกิดแนวทางที่ชัดเจนให้ได้มากที่สุดด้วย พร้อมกับย้ำว่า กกต. ไม่สนับสนุนให้มีการเปิดเวทีในแต่ละพื้นที่ เพราะเกรงว่าจะเกิดปัญหาตามมาได้
ส่วนกรณีที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุถึงวงเงินงบประมาณ 2,991 ล้านบาท เพื่อจัดทำประชามติ เป็นตัวเลขที่สูงเกินไปนั้น นายสมชัย กล่าวว่า ครม.ยังไม่มีการประสานเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ โดยคาดว่าน่าจะมีการนำเข้าสู่การพิจารณาของครม. ภายใน 1-2 สัปดาห์ ทั้งนี้ยืนยันว่า กกต.ได้พิจารณาอย่างรอบคอบ และมีการปรับลดงบประมาณลงแล้ว จากเดิมตั้งไว้ที่ 4,100 ล้านบาท ลดเหลือ 3,400 ล้านบาท และเหลือ 2,991 ล้านบาทโดยลำดับ ซึ่งสามารถอธิบายได้ทุกบรรทัด โดยตัวเลขดังกล่าวได้ปรับลดงบประมาณลงจากภาระที่เคยกำหนดให้ต้องจัดพิมพ์ร่างรัฐธรรมนูญฉบับเต็ม ไม่น้อยกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ เหลือ 1.2 ล้านเล่มแล้ว ส่วน ครม.จะส่งกลับให้มาทบทวนหรือไม่ คงต้องรอดูผลการพิจารณาของครม.ก่อน
"อย่าไปกังวลว่ากรธ. จะไปมีลูกเล่นเอา 4 ฉบับที่ว่าไปทำทีหลัง คนที่มีสติ มีปัญญา เขาไม่ทำอย่างนั้น แล้วถึงเวลาทำออกมาคุณจะตกใจว่าทุกอย่างมันพร้อมอยู่แล้ว ผมมีอะไรอยู่ในใจซึ่งจะออกมา 4 ฉบับ ซึ่งจะเซอร์ไพร้ส์มาก คุณจะไม่ทันเตรียมตัวเลย"
นายวิษณุ กล่าวด้วยว่า หากประชามติไม่ผ่าน ก็เป็นหน้าที่ที่คสช.จะเป็นผู้พิจารณาว่าทำอย่างไร โดยการแก้รัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 อีกครั้ง ซึ่งเรื่องนี้คสช. คงคิดล่วงหน้าไว้แล้ว พอรู้ผลว่าไม่ผ่าน ก็เสนอแก้ไขรธน.ชั่วคราวได้ทันที คาดว่าใช้เวลาประมาณ 10 - 20 วัน โดยไม่เห็นด้วยตามข้อเสนอบางฝ่ายที่ว่า ควรไปกำหนดไว้ก่อนทำประชามติว่า ถ้าไม่ผ่านแล้วจะไปหยิบรธน.ฉบับใดมาให้เลือก เพราะเท่ากับว่าเวลาประชาชนพิจารณา จะต้องไปพิจารณารธน. ทุกฉบับที่เป็นตัวเลือก แทนที่จะเข้าไปดูเนื้อหาสาระของฉบับที่ร่างใหม่ และคงจะเกิดความสับสนไม่น้อย
"ยืนยันว่า การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นตามโรดแมปที่วางไว้ แต่ไม่ยืนยันว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในเดือนก.ค.60 แต่จะเร็วขึ้นหรือช้าลง 1 เดือน เพราะยังมีบางอย่างที่อยู่เหนือการควบคุม อาทิ ขั้นตอนการโปรดเกล้าฯ รัฐธรรมนูญ ร่าง พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญ รวมทั้งคำถามพ่วงของสนช. ถ้าผ่านประชามติก็ต้องปรับแก้รัฐธรรมนูญใน 30 วัน" นายวิษณุ กล่าว
นายวิษณุ กล่าวอีกว่า ตนเชื่อว่าจะไม่มีใครชอบ และไม่ชอบ ทุกมาตราในร่างรัฐธรรมนูญทั้งหมด แม้แต่พรรคเพื่อไทย ที่ออกแถลงการณ์ แสดงจุดยืนไม่รับร่างรัฐธรรมนูญก็เชื่อว่าเขาอาจจะมีไม่ชอบในบางมาตรา แต่เขาได้ชั่งน้ำหนักแล้ว
ส่วนข้อเสนอของแม่น้ำ 4 สาย ส่วนที่ไม่ได้ถูกบรรจุในร่างรัฐธรรมนูญ จะไปขอให้สนช. เพิ่มในคำถามพ่วงในประชามติ หรือไม่นั้น ยืนยันว่า คสช.และครม. จะไม่ขอยุ่งเรื่องนี้ เพราะเราปรับแก้รัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 ไปแล้วว่า การตั้งคำถามของสนช. ไม่ต้องมารายงานหรือขอความเห็นชอบจากครม.อีกแล้ว
ด้านนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวถึง แถลงการณ์ ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ของพรรคเพื่อไทย ว่า ได้อ่านแล้วส่วนตัวเห็นว่า ไม่เข้าข่ายผิดกฎหมาย เพราะเป็นการแสดงความเห็นพร้อมเหตุผลที่ไม่เห็นด้วยกับเนื้อหาในร่างรัฐธรรมนูญ แต่สุดท้ายแล้วจะผิดกฎหมายหรือไม่ ศาลจะเป็นผู้ตัดสิน ซึ่งหากมีการร้องเรียนเข้ามา ก็เป็นเรื่องที่ กกต.ทั้งหมดจะต้องพิจารณาร่วมกัน
อย่างไรก็ตาม หากประชาชนเห็นว่ามีกรณีใดที่น่าจะเข้าข่ายกระทำการผิดกฎหมาย ก็สามารถแจ้งความดำเนินคดีได้ เนื่องจากกรณีนี้มีกฎหมายหลายฉบับควบคุมอยู่ เช่น มีการแจกใบปลิวรณรงค์ให้รับ หรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ก็ต้องพิจารณาตามสถานการณ์ ว่ามีการปลุกปั่นให้เกิดความวุ่นวาย หรือมีการบิดเบือนข้อมูล ข่มขู่ คุกคาม อันจะก่อให้เกิดความไม่เรียบร้อยหรือไม่ รวมไปถึงพฤติกรรมว่า มีการชุมนุมเกินกว่าห้าคนหรือไม่ ซึ่งจะต้องดูกฎหมายประกอบเป็นรายกรณี แต่ในส่วนของ กกต.จะทำคำแนะนำในข้อที่ไม่ควรปฏิบัติออกมา เพื่อให้เกิดแนวทางที่ชัดเจนให้ได้มากที่สุดด้วย พร้อมกับย้ำว่า กกต. ไม่สนับสนุนให้มีการเปิดเวทีในแต่ละพื้นที่ เพราะเกรงว่าจะเกิดปัญหาตามมาได้
ส่วนกรณีที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุถึงวงเงินงบประมาณ 2,991 ล้านบาท เพื่อจัดทำประชามติ เป็นตัวเลขที่สูงเกินไปนั้น นายสมชัย กล่าวว่า ครม.ยังไม่มีการประสานเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ โดยคาดว่าน่าจะมีการนำเข้าสู่การพิจารณาของครม. ภายใน 1-2 สัปดาห์ ทั้งนี้ยืนยันว่า กกต.ได้พิจารณาอย่างรอบคอบ และมีการปรับลดงบประมาณลงแล้ว จากเดิมตั้งไว้ที่ 4,100 ล้านบาท ลดเหลือ 3,400 ล้านบาท และเหลือ 2,991 ล้านบาทโดยลำดับ ซึ่งสามารถอธิบายได้ทุกบรรทัด โดยตัวเลขดังกล่าวได้ปรับลดงบประมาณลงจากภาระที่เคยกำหนดให้ต้องจัดพิมพ์ร่างรัฐธรรมนูญฉบับเต็ม ไม่น้อยกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ เหลือ 1.2 ล้านเล่มแล้ว ส่วน ครม.จะส่งกลับให้มาทบทวนหรือไม่ คงต้องรอดูผลการพิจารณาของครม.ก่อน
