"วัฒนา"นุ่งยีนส์ ใส่เสื้อยืด รายงานตัวศาล เหตุทหารล้อมบ้านต้องนอนที่อื่น เผยนัดเข้าค่ายปรับทัศนคติ 11 โมง โพสต์เฟซทิ้งทวน สับคสช. สองมาตรฐาน โดนข้อหาเดียวกับ "พะจุณณ์" แต่ถูกปฏิบัติคนละแบบ ลั่นไม่เคยกลัว แค่ห่วงภาพลักษณ์ประเทศเสียหาย เตือนคสช.ใช้อำนาจตามครรลอง ด้าน"บิ๊กป้อม" ลั่นถ้ายังพูดกันไม่รู้เรื่อง จะจัดหลักสูตรอบรม 3-7 วัน
เมื่อเวลา 08.30 น.วานนี้ (28 มี.ค.) ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย ได้เข้ารายงานตัวต่อศาล หลังครบกำหนดฝากขัง ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 15-26 มี.ค. ที่ผ่านมา ในคดีกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผผิดทางคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 จากกรณีโพสต์ข้อความวิพากวิจารณ์การทำงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวัฒนา ได้เดินทางมาในชุดเสื้อยืดแขนสั้น กางเกงยีนส์ โดยมีแกนนำพรรคเพื่อไทยมาให้กำลังใจกันอย่างคึกคัก อาทิ นายภูมิธรรม เวชยชัย นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง และ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล เป็นต้น
นายวัฒนา ระบุถึงสาเหตุที่แต่งกายมาในชุดลำลองว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ไม่ได้เดินทางเข้าพักที่บ้านของตัวเอง เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ทหารได้ล้อมบ้านไว้ ในขณะที่นายวัฒนา ทำภารกิจอยู่ข้างนอก จึงเกรงว่าหากเข้าบ้านพัก ก็จะถูกควบคุมตัวทำให้เดินทางมารายงานตัวต่อศาลไม่ได้
อย่างไรก็ตาม นายวัฒนาได้นัดหมายกับเจ้าหน้าที่ทหาร มณฑลทหารบก (มทบ.) ที่ 11 ในช่วงเวลา 11.00 น. วันเดียวกันนี้ โดยได้เดินทางออกไปยัง มทบ.11 ทันที ที่เสร็จภารกิจที่ศาล
ทั้งนี้ ก่อนเดินทางมายังศาล นายวัฒนา ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ในหัวข้อ "โพสต์สุดท้ายก่อนเข้าค่าย" ระบุว่า "หลังจากวานนี้ (27 มี.ค.) เวลาประมาณ 17.30 น. ทหารได้ไปที่บ้าน เพื่อนำตัวผมไปควบคุมตามคำสั่งหัวหน้าคสช. สอบถามได้ความว่า มาจากบทความที่โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก แสดงความเห็น กรณีคุณวรชัย เหมะ ถูกควบคุมตัวไปปรับทัศนคติ บังเอิญผมไม่ได้อยู่บ้าน ประกอบกับผมต้องไปรายงานตัวต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ ในวันนี้ เวลา 8.30 น. ผมจึงต่อรองขอไปพบเจ้าหน้าที่ ที่ มทบ. 11 เวลา 11.00 น. แต่ทหารก็ยังคงล้อมบ้านผม ตรวจสอบการเข้า-ออก และลาดตระเวนในหมู่บ้านทั้งคืน ทำให้ผมเข้าบ้านไม่ได้ ต้องไปนอนบ้านเพื่อน ผู้คนในหมู่บ้านเดือดร้อน และผมต้องไปศาลในชุดเสื้อยืด กางเกงยีนส์ ที่ผมใส่ในวันอาทิตย์"
นายวัฒนา ระบุด้วยว่า การวิพากษ์วิจารณ์ คสช. ที่ผ่านมา เป็นการแสดงความคิดเห็นโดยอิงจากข้อเท็จจริง รวมไปถึงการรณรงค์ให้ประชาชนใช้สิทธิลงคะแนนไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ก็เป็นสิทธิที่พึ่งกระทำได้ โดยที่ไม่ได้เรียกร้องให้ประชาชนก่อความวุ่นวาย จึงคิดว่าไม่ได้กระทำการใดๆ ที่ผิดกฎหมาย อีกทั้งข้อหาตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ก็เป็นข้อหาเดียวกับ พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป สมาชิกสปท. แต่กลับได้รับการปฏิบัติ ที่แตกต่างกัน
"ของผมท่านใช้วิธียกกำลังมาอุ้ม แบบนี้คือการเลือกปฏิบัติ ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายกับประเทศในภาพรวม เชื่อเถิดว่า ผมไม่ได้เกรงกลัวกับสิ่งที่ท่านทำกับผม เพียงแต่ผมต้องการให้ท่านใช้อำนาจให้เป็นไปตามครรลองของกฎหมาย" นายวัฒนา ระบุ
ต่อมาเวลา 11.00 น. ที่บริเวณด้านหน้ามณฑลทหารบกที่ 11 นายวัฒนา เมืองสุข และแกนนำพรรคเพื่อไทยได้เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ทหาร กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) ของคสช.
นายวัฒนา ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าพบว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดว่าเจ้าหน้าที่ทหาร จะพูดคุยกับตนในเรื่องใด ทราบเพียงแต่ว่า ทหารให้มาพบที่ มทบ.11 แค่นั้น ซึ่งยังไม่รู้ว่าเข้าไปใน มทบ. 11 แล้วจะมีอะไรบ้าง ส่วนจะควบคุมตัวกี่วันนั้น ตนไม่มีความเห็น และไม่ได้อยู่ในอำนาจตน
ด้าน พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคสช. กล่าวถึง กรณีการให้ข้อมูลผ่านทางโซเชียลมีเดียของ นายวัฒนา ว่าไม่ใช่การกระทำครั้งแรก ซึ่งน่าจะมีสาเหตุมาจากความไม่พอใจส่วนตัวที่มีต่อ คสช. และจากการที่ไม่สมประโยชน์หลายอย่าง จากการทำหน้าที่ของคสช. ซึ่งเนื้อหาข้อมูลส่วนใหญ่ พยามยามทำลายภาพลักษณ์คสช. ให้เป็นลบมาตลอด และเชื่อว่าสังคมก็คงรู้เท่าทันเจตนาแท้จริงของนายวัฒนา เป็นอย่างดี ที่ผ่านมานายวัฒนาไม่ค่อยให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่และพยายามทำตัวเองให้มีปัญหาต่อแนวทางการรักษาความสงบเรียบร้อย โดยเชื่อว่านายวัฒนา เองมีความเข้าใจต่อผลการกระทำของตนเองที่เกิดขึ้น
"บิ๊กป้อม"เล็งเปิดหลักสูตรอบรม3-7วัน
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ทหาร ควบคุมตัวนายวรชัย เหมะ และ นายวัฒนา เมืองสุข อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ว่า ทั้งสองคนต้องรู้อยู่แล้วว่า ขณะนี้เป็นช่วงเวลาที่คสช. บริหารประเทศอยู่ ต้องรู้ว่าสมควรหรือไม่ ที่จะออกมาเคลื่อนไหวในเวลานี้ ทั้งนี้ตนอยากขอเวลาเพราะอีกไม่นาน ก็จะมีการเลือกตั้งแล้ว
อย่างไรก็ตาม หากเจ้าหน้าที่เชิญตัวมาพูดคุย แต่ยังคุยกันไม่รู้เรื่อง คงต้องจัดทำเป็นหลักสูตรเพื่ออบรม โดยจะมีระยะเวลา ประมาณ 3-7 วัน ซึ่งจะให้คสช.เป็นผู้ดำเนินการ
สำหรับการควบคุมตัวทั้งสองคนนั้น ตนยืนยันว่า เราไม่ได้ไปละเมิดสิทธิมนุษยชนแต่อย่างใด และอยากให้ดูที่เจตนาด้วยว่าเป็นอย่างใด ขณะเดียวกันร่างรัฐธรรมนูญก็ใกล้จะเสร็จเรียบร้อยแล้ว และอีกไม่นาน ก็จะเข้าสู่กระบวนการทำประชามติ ส่วนจะควบคุมตัวนายวรชัย และนายวัฒนา กี่วันนั้น ตนไม่ทราบ เพราะคสช.เป็นผู้ดำเนินการ
เมื่อเวลา 08.30 น.วานนี้ (28 มี.ค.) ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย ได้เข้ารายงานตัวต่อศาล หลังครบกำหนดฝากขัง ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 15-26 มี.ค. ที่ผ่านมา ในคดีกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผผิดทางคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 จากกรณีโพสต์ข้อความวิพากวิจารณ์การทำงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวัฒนา ได้เดินทางมาในชุดเสื้อยืดแขนสั้น กางเกงยีนส์ โดยมีแกนนำพรรคเพื่อไทยมาให้กำลังใจกันอย่างคึกคัก อาทิ นายภูมิธรรม เวชยชัย นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง และ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล เป็นต้น
นายวัฒนา ระบุถึงสาเหตุที่แต่งกายมาในชุดลำลองว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ไม่ได้เดินทางเข้าพักที่บ้านของตัวเอง เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ทหารได้ล้อมบ้านไว้ ในขณะที่นายวัฒนา ทำภารกิจอยู่ข้างนอก จึงเกรงว่าหากเข้าบ้านพัก ก็จะถูกควบคุมตัวทำให้เดินทางมารายงานตัวต่อศาลไม่ได้
อย่างไรก็ตาม นายวัฒนาได้นัดหมายกับเจ้าหน้าที่ทหาร มณฑลทหารบก (มทบ.) ที่ 11 ในช่วงเวลา 11.00 น. วันเดียวกันนี้ โดยได้เดินทางออกไปยัง มทบ.11 ทันที ที่เสร็จภารกิจที่ศาล
ทั้งนี้ ก่อนเดินทางมายังศาล นายวัฒนา ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ในหัวข้อ "โพสต์สุดท้ายก่อนเข้าค่าย" ระบุว่า "หลังจากวานนี้ (27 มี.ค.) เวลาประมาณ 17.30 น. ทหารได้ไปที่บ้าน เพื่อนำตัวผมไปควบคุมตามคำสั่งหัวหน้าคสช. สอบถามได้ความว่า มาจากบทความที่โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก แสดงความเห็น กรณีคุณวรชัย เหมะ ถูกควบคุมตัวไปปรับทัศนคติ บังเอิญผมไม่ได้อยู่บ้าน ประกอบกับผมต้องไปรายงานตัวต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ ในวันนี้ เวลา 8.30 น. ผมจึงต่อรองขอไปพบเจ้าหน้าที่ ที่ มทบ. 11 เวลา 11.00 น. แต่ทหารก็ยังคงล้อมบ้านผม ตรวจสอบการเข้า-ออก และลาดตระเวนในหมู่บ้านทั้งคืน ทำให้ผมเข้าบ้านไม่ได้ ต้องไปนอนบ้านเพื่อน ผู้คนในหมู่บ้านเดือดร้อน และผมต้องไปศาลในชุดเสื้อยืด กางเกงยีนส์ ที่ผมใส่ในวันอาทิตย์"
นายวัฒนา ระบุด้วยว่า การวิพากษ์วิจารณ์ คสช. ที่ผ่านมา เป็นการแสดงความคิดเห็นโดยอิงจากข้อเท็จจริง รวมไปถึงการรณรงค์ให้ประชาชนใช้สิทธิลงคะแนนไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ก็เป็นสิทธิที่พึ่งกระทำได้ โดยที่ไม่ได้เรียกร้องให้ประชาชนก่อความวุ่นวาย จึงคิดว่าไม่ได้กระทำการใดๆ ที่ผิดกฎหมาย อีกทั้งข้อหาตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ก็เป็นข้อหาเดียวกับ พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป สมาชิกสปท. แต่กลับได้รับการปฏิบัติ ที่แตกต่างกัน
"ของผมท่านใช้วิธียกกำลังมาอุ้ม แบบนี้คือการเลือกปฏิบัติ ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายกับประเทศในภาพรวม เชื่อเถิดว่า ผมไม่ได้เกรงกลัวกับสิ่งที่ท่านทำกับผม เพียงแต่ผมต้องการให้ท่านใช้อำนาจให้เป็นไปตามครรลองของกฎหมาย" นายวัฒนา ระบุ
ต่อมาเวลา 11.00 น. ที่บริเวณด้านหน้ามณฑลทหารบกที่ 11 นายวัฒนา เมืองสุข และแกนนำพรรคเพื่อไทยได้เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ทหาร กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) ของคสช.
นายวัฒนา ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าพบว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดว่าเจ้าหน้าที่ทหาร จะพูดคุยกับตนในเรื่องใด ทราบเพียงแต่ว่า ทหารให้มาพบที่ มทบ.11 แค่นั้น ซึ่งยังไม่รู้ว่าเข้าไปใน มทบ. 11 แล้วจะมีอะไรบ้าง ส่วนจะควบคุมตัวกี่วันนั้น ตนไม่มีความเห็น และไม่ได้อยู่ในอำนาจตน
ด้าน พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคสช. กล่าวถึง กรณีการให้ข้อมูลผ่านทางโซเชียลมีเดียของ นายวัฒนา ว่าไม่ใช่การกระทำครั้งแรก ซึ่งน่าจะมีสาเหตุมาจากความไม่พอใจส่วนตัวที่มีต่อ คสช. และจากการที่ไม่สมประโยชน์หลายอย่าง จากการทำหน้าที่ของคสช. ซึ่งเนื้อหาข้อมูลส่วนใหญ่ พยามยามทำลายภาพลักษณ์คสช. ให้เป็นลบมาตลอด และเชื่อว่าสังคมก็คงรู้เท่าทันเจตนาแท้จริงของนายวัฒนา เป็นอย่างดี ที่ผ่านมานายวัฒนาไม่ค่อยให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่และพยายามทำตัวเองให้มีปัญหาต่อแนวทางการรักษาความสงบเรียบร้อย โดยเชื่อว่านายวัฒนา เองมีความเข้าใจต่อผลการกระทำของตนเองที่เกิดขึ้น
"บิ๊กป้อม"เล็งเปิดหลักสูตรอบรม3-7วัน
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ทหาร ควบคุมตัวนายวรชัย เหมะ และ นายวัฒนา เมืองสุข อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ว่า ทั้งสองคนต้องรู้อยู่แล้วว่า ขณะนี้เป็นช่วงเวลาที่คสช. บริหารประเทศอยู่ ต้องรู้ว่าสมควรหรือไม่ ที่จะออกมาเคลื่อนไหวในเวลานี้ ทั้งนี้ตนอยากขอเวลาเพราะอีกไม่นาน ก็จะมีการเลือกตั้งแล้ว
อย่างไรก็ตาม หากเจ้าหน้าที่เชิญตัวมาพูดคุย แต่ยังคุยกันไม่รู้เรื่อง คงต้องจัดทำเป็นหลักสูตรเพื่ออบรม โดยจะมีระยะเวลา ประมาณ 3-7 วัน ซึ่งจะให้คสช.เป็นผู้ดำเนินการ
สำหรับการควบคุมตัวทั้งสองคนนั้น ตนยืนยันว่า เราไม่ได้ไปละเมิดสิทธิมนุษยชนแต่อย่างใด และอยากให้ดูที่เจตนาด้วยว่าเป็นอย่างใด ขณะเดียวกันร่างรัฐธรรมนูญก็ใกล้จะเสร็จเรียบร้อยแล้ว และอีกไม่นาน ก็จะเข้าสู่กระบวนการทำประชามติ ส่วนจะควบคุมตัวนายวรชัย และนายวัฒนา กี่วันนั้น ตนไม่ทราบ เพราะคสช.เป็นผู้ดำเนินการ