xs
xsm
sm
md
lg

“วัฒนา” รายงานตัว มทบ.11 หลังทหารเรียกปรับทัศนคติ ฝากรัฐบาลปฏิรูปต้องฟังรอบด้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - “วัฒนา” โผล่รายงานตัว มทบ.11 หลังทหารเรียกปรับทัศนคติ ยันโพสต์เฟซบุ๊กแสดงความเห็นทางการเมืองโดยสุจริต ติงจะประเทศจะเดินหน้าอย่างไรหากไม่รับฟัง ฝากอยากปฏิรูปต้องฟังความหลายด้าน ขณะที่ “สุรพงษ์-ภูมิธรรม-พงศ์เทพ-กิตติรัตน์” ตบเท้าให้กำลังใจ

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 28 มีนาคม ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถนนเจริญกรุง 63 นายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.พาณิชย์ และอดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ผู้ต้องหาคดี พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ได้เดินทางมารายงานตัวต่อศาลตามเงื่อนไขการให้ประกันตัวชั้นฝากขัง

โดยเมื่อวันศุกร์ที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง ได้ยื่นคำร้องฝากขังครั้งที่ 3 อีกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่ 27 มีนาคม - 7 เมษายนนี้ เนื่องจากเมื่อครบกำหนดฝากขังครั้งที่ 2 ในวันเสาร์ที่ 26 มีนาคม พนักงานสอบสวนยังดำเนินการสอบสวนพยานไม่แล้วเสร็จเหลือพยานอีก 1 ปาก จึงมีความจำเป็นต้องยื่นฝากขังครั้งที่ 3 นี้ ทั้งนี้ศาลนัดให้นายวัฒนา มารายงานตัวอีกครั้ง 8 เมษายนนี้

ต่อมาเวลา 09.30 น. นายวัฒนากล่าวภายหลังการรายงานตัวต่อศาลว่า ในการที่มีกำลังทหารไปที่บ้านตนเมื่อคืนวันที่ 27 มีนาคมนั้น ทหารไม่ได้มีการแจ้งล่วงหน้าจะให้ตนเข้าไปพบ แต่กลับยกกำลังมาที่บ้าน ตนจึงอยากฝากว่าขอความกรุณาให้ถอนกำลังออกจากหมู่บ้านด้วยเพราะชาวบ้านในหมู่บ้านก็ต้องเดือดร้อนด้วย เนื่องจากกำลังทหารที่จะไปควบคุมตัวตนยังอยู่ในหมู่บ้านซึ่งไม่ให้ใครออกใครเข้า ตรวจบัตรและเฝ้าทั้งคืน ครั้งที่ผ่านมาก็ทำเช่นนี้นำกำลังจะไปพาตัวมา แต่ครั้งนี้มีกำลังถึง 4 คันรถ

นายวัฒนากล่าวอีกว่า เมื่อคืนตนยังไม่ทันกลับบ้าน ดังนั้นตนจึงขอให้พอสักที โดยสิ่งที่ตนได้แสดงความคิดเห็นก็ทำตามสิทธิของตน และไม่ได้ให้ผลร้ายอะไร หากจะปฏิรูปก็ต้องรับฟังการแสดงความคิดเห็นและขอให้ฟังกัน เพราะในโลกไม่มีการปฏิรูปที่ไม่ฟังกัน เพื่อจะให้ได้รูปแบบการปฏิรูปที่จะอยู่ร่วมกันได้

เมื่อวันนี้ คสช.มาทำหน้าที่เป็นฝ่ายบริหารกินเงินเดือนจากภาษีประชาชน เหตุใดจะวิจารณ์ไม่ได้ หากเห็นว่าสิ่งที่ตนวิจารณ์ไปนั้นผิดก็ให้ใช้สิทธิดำเนินคดีต่อตน และข้อกล่าวหาของตนก็คล้ายกับกรณี พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป ที่ให้ตำรวจดำเนินคดี แต่ทำไมกรณีของตนจึงนำทหารไปที่บ้าน เพราะตนไม่มียศตำแหน่งหรืออย่างใด โดยแม่บ้านแจ้งว่าทหารให้เปิดประตู ไม่เช่นนั้นจะใช้มาตรา 44 จับทั้งหมด วิธีการที่ใช้ไม่ได้เป็นผลดีต่อใคร แต่เสียหายแก่ประเทศ ภาพที่ออกสู่สายตาประชาคมโลกยังมีรถทหารไปพาตัวคนนั้นคนนี้ ขณะที่เวลานี้บรรยากาศกำลังจะนำร่างรัฐธรรมนูญไปให้ประชาชนทำประชามติ ก็ควรต้องผ่อนคลายให้มีการแสดงความเห็น หากทำประชามติก็ขอให้ประชาชนออกมากันเยอะๆ เพราะจะคืนอำนาจให้ประชาชนแล้ว จะไม่ให้ประชาชนพูดได้อย่างไร

นายวัฒนากล่าวย้ำว่า จากนี้ตนจะเดินทางไปที่ มทบ.11 โดยช่วงเช้านี้ขอมารายงานตัวต่อศาลก่อนเพราะเกรงจะผิดเงื่อนไขศาล ทั้งนี้หากไปที่ มทบ.11 แล้วจะคุมตัวตนไว้ก็ไม่ต่อรองอะไร เพราะเต็มที่คุมตัวได้ 7 วัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่วันนี้นายวัฒนาเดินทางมาศาลด้วยสียืดคอกลมสีเทาอ่อน สวมกางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน มีแกนนำพรรคเพื่อไทยมาร่วมติดตามสถานการณ์และให้กำลังใจด้วย เช่น นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีต รมว.ต่างประเทศ นายภูมิธรรม เวชยชัย นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตรองนายกฯ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกฯ และ อดีต รมว.คลัง รวมทั้งกลุ่มประชาชนกว่า 10 คน ได้นำดอกกุหลาบแดงมามอบให้นายวัฒนาด้วย ซึ่งนายวัฒนาก็มีสีหน้ายิ้มแย้มทักทายกลุ่มมวลชนก่อนจะเดินทางด้วยรถเบนซ์ส่วนตัวสีดำออกจากศาลเพื่อไปพบทหารที่ มท.บ.11 ตามที่แจ้งไว้

ต่อมาเมื่อเวลา 11.00 น.วันเดียวกัน นายวัฒนา เมืองสุข ได้เดินทางมาถึงด้านหน้าเรือนจำชั่วคราว กองพันทหารราบมณฑลทหารบกที่ 11 (พัน.ร.มทบ.11) แขวงนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ พร้อมนายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ ทนายความ อีกทั้งยังมีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เดินทางมาให้กำลังใจนายวัฒนาด้านหน้าหน้าเรือนจำชั่วคราว กองพันทหารราบมณฑลทหารบกที่ 11 (พัน.ร.มทบ.11) ในครั้งนี้ด้วย

นายวัฒนากล่าวว่า ตนคิดว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่เรียกว่าสังคมนิติรัฐ การกระทำอะไรที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายก็ต้องดำเนินคดี ไม่มีข้อยกเว้น ดำเนินคดีได้ทันที โดยเฉพาะข้อกล่าวหาที่มีการโพสต์ข้อความที่เป็นเท็จหรืออะไรก็แล้วแต่ ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ตำรวจก็ดำเนินคดีไป การใช้กำลังแบบนั้นผมว่าในสายตาประชาคมโลกมันไม่ดี เสียหายแก่ประเทศ

“ผมคิดว่าผมแสดงความคิดเห็นปกติด้วยความสุจริต ไม่ได้มีความคิดเห็นอะไรนอกเหนือเรื่องของการงาน ส่วนจะมีความกังวลว่าจะถูกคุมตัวนานแค่ไหนนั้นไม่มีความเห็นเพราะไม่ได้อยู่ในอำนาจของผม และสิ่งที่ทำมันไม่ได้ผิดกฎหมาย ผมก็ย้อนกลับไปดูหลายครั้งก็ไม่เห็นว่าจะมีข้อความอะไรทำให้ใครเสียหาย ซึ่งในสังคมมันต้องฟังความคิดเห็นต่างให้ได้ โดยเฉพาะวันนี้เราพูดถึงปฏิรูป การปฏิรูปมันต้องฟังความเห็นทุกด้าน การไม่ฟังความเห็นเลยแล้วจะมาอ้างการปฏิรูป แล้วจะปฏิรูปกันยังไง ผมคิดว่าสิ่งที่ดีที่สุดในวันนี้คือการรับฟังความเห็นกัน คิดเห็นเหมือนกันก็เป็นเรื่องดี คิดเห็นไม่เหมือนกันก็มาใช้เหตุใช้ผลตัดสินกันในสังคมประชาธิปไตยก็เป็นแบบนี้ เรากำลังอยู่ในระหว่างที่เราจะคืนอำนาจให้แก่ประชาชนไปสู่การเลือกตั้งไม่ใช่หรือ แล้วไม่เปิดโอกาสให้คนพูดบรรยากาศจะไปอย่างนั้นได้อย่างไร ระหว่างนี้รัฐธรรมนูญเป็นเรื่องใหญ่ของคนไทยเพราะเป็นกติกาของประเทศ จะให้ประเทศจะเดินหน้าต่อไปได้ หรือจมปลักอยู่ในความขัดแย้ง แล้วทำไมจะรับฟังกันไม่ได้”

นายวัฒนากล่าวต่อว่า ฝากบอกไปยังผู้มีอำนาจทุกท่านว่า รัฐธรรมนูญเป็นของคนไทยทุกคนแล้วเราก็จะนำมาใช้กับคนไทยซึ่งถือว่าเป็นกติกาของประเทศ ท่านเปิดโอกาสให้ทุกคนได้แสดงความคิดเห็นความเห็น ในขณะที่ คสช.และรัฐบาลบอกสนับสนุนรัฐธรรมนูญ ทำไมไม่ฟังอีกฝ่ายที่เขาพูดบ้าง การทำประชามติ เรื่องรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องใหญ่เรื่องสำคัญ คิดว่าการเปิดโอกาสให้ทั้งสองฝั่งได้รณรงค์เต็มที่ ผลการตัดสินของประชาชนออกมาอย่างไรจะได้รับการยอมรับ น่าจะเป็นอย่างนั้นมากกว่า มากว่าที่จะไม่ให้อีกฝ่ายแสดงความคิดเห็นเลย และท้ายสุดผลประชามติออกมาแล้วมันจะได้รับการยอมรับได้อย่างไร วันนี้ลองรับฟังความคิดเห็นให้ประชาชนเป็นคนตัดสิน ปล่อยให้มีการแข่งขันด้วยความเป็นธรรม ทุกอย่างอยู่ที่ประชาชนตนเสียงเดียวไปกำหนดเสียงของคนทั้งประเทศไม่ได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังนายวัฒนาให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนเป็นที่เรียบร้อยได้เดินเข้าไปภายในหน้าเรือนจำชั่วคราว โดยมีทนายความและผู้ที่มาให้กำลังใจเดินไปส่งด้านหน้าประตูทางเข้า ก่อนจะมีนายทหารออกมารับตัวนายวัฒนาเข้าไปด้านใน หลังจากนั้นทนายความและผู้ที่มาให้กำลังใจได้แยกย้ายกันกลับ