สื่อมวลชนที่ไปไปรอลูกสาวคนโตแม่ประนอมแถลงข่าว แต่สุดท้ายแห้ว ทนายอ้างพร้อมคุยแบบแม่ลูก เผยแม่ประนอมเคยถอนฟ้องแล้ว แต่ยื่นฟ้องใหม่ ด้านแม่ประนอมเครียดอาการป่วยทรุด
จากกรณีพิพาทเกี่ยวกับการฮุบกิจการน้ำพริกเผาแม่ประนอม มูลค่ากว่า 5 พันล้านบาท ระหว่างนางศิริพร แดงสุภา ลูกสาวคนโตกับมารดาคือ นางประนอม แดงสุภา กระทั่งมีเรื่องฟ้องร้องที่ชั้นศาล และนางประนอมได้เข้าร้องทุกข์กับนายกรัฐมนตรีนั้น ช่วงสายวานนี้ (27 มี.ค.) มีกระแสข่าวว่านางศิริพรจะมีการแถลงข่าว แต่เมื่อผู้สื่อข่าวไปเดินทางไปยัง บริษัท พิบูลย์ชัยน้ำพริกเผาไทยแม่ประนอม จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 68/10 ถนนบรมราชชนนี แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กทม. ปรากฏว่ามีเพียง คุณทวิชา หวังโภคา ทนายความของ นางศิริพรที่เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า นางศิริพร ยังยืนยันคำเดิม คือจะไม่มีการแถลงข่าวถึงรายละเอียดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากเกรงว่าจะเป็นการก้าวล่วงอำนาจศาล รวมทั้งมีผลต่อรูปคดีได้
เรื่องราวก่อนหน้านี้ นางประนอมได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนางศิริพร พร้อมสามี ต่อศาลจังหวัดนครปฐม ฐานร่วมกันปลอมแปลงเอกสารเกี่ยวกับที่ดิน ซึ่งในชั้นไต่สวนมูลฟ้องศาลจังหวัดนครปฐมได้ยกฟ้องเฉพาะสามีของนางศิริพร โดยรับฟ้องเฉพาะในส่วนของนางศิริพรและทนายความ ซึ่งคดีอยู่ในขั้นตอนการนัดสืบพยานโจทก์ นอกจากนี้ นางประนอม ยังได้ยื่นฟ้องนางศิริพร เป็นจำเลยต่อศาลจังหวัดตลิ่งชัน เรื่องเรียกคืนทรัพย์มรดก โดยทางศาลได้ทำการไกล่เกลี่ยทั้งสองฝ่ายแล้ว จำนวน 2 ครั้ง แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ เรื่องจึงดำเนินการต่อไปตามกระบวนการของศาล กระทั่งล่าสุด นางประนอม ได้มีการนำผู้หลักผู้ใหญ่ที่นับถือกันทั้ง 2 ฝ่ายมาขอคุยไกล่เกลี่ยกันนอกรอบ จนมีการเซ็นหนังสือและตกลงการยอมความกันเกิดขึ้น
"แต่จู่ๆ นางศิริพร ก็ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับทางนางประนอม และผู้ใหญ่ที่พามาคุยด้วย ซึ่งได้มีการทำหนังสือร้องต่อศาลทั้งสองใหม่ โดยให้มีการยกเลิกการฟ้องร้อง และเข้าร้องเรียนต่อนายกรัฐมนตรี อีกทั้งมีการให้ข่าวต่อสื่อมวลชน โดยทางนางประนอม กลับยื่นคำร้องใหม่ต่อทั้งสองศาลทำนองว่า สาเหตุที่ถอนฟ้องไม่ได้เกิดจากเจตนาที่แท้จริง ศาลจังหวัดนครปฐมจึงนัดไต่สวนนางประนอม กรณียื่นคำร้องใหม่ วันที่ 4 เม.ย.นี้ ส่วนศาลจังหวัดตลิ่งชันนัดไต่สวนนางประนอม วันที่ 11 เม.ย." นายทวิชากล่าว
โดยนางประนอม ต้องเดินทางไปศาลด้วยตนเอง เพื่อไต่สวนว่าเหตุผลใดจึงมีการขอยกเลิก การยกเลิก การถอนคำฟ้อง และต้องนำมาพยานมารวมไต่สวนด้วย ซึ่งทาง นางศิริพร จะเดินทางไปให้เหตุผลในเรื่องนี้ต่อศาลทั้งสองด้วยในวันและเวลาดังกล่าว
นายทวิชากล่าวอีกว่า หากทางฝั่งนางประนอม จะมีการนัดแนะเข้าเจรจาหรือไกลเกลี่ยกันอีกครั้ง ไม่ว่าจะมีตัวแทนของรัฐหรือฝ่ายไหนนำพาเข้าพูดคุยไกล่เกลี่ยก็ยินดีเสมอ แต่ตอนนี้ทางฝ่ายผู้ใหญ่ที่เป็นตัวกลางในการพูดคุยครั้งก่อนยังไม่มีการติดต่อมาแต่อย่างใด ว่าจะเอาอย่างไร ซึ่งฝั่งนางศิริพร ก็ไม่สามารถติดต่อไปนัดพูดคุยกับนางประนอมได้ จากหลายเหตุผล แต่ถ้าหากนางประนอมติดต่อมา เพื่อพูดคุยไกล่เกลี่ยยินดีที่จะไม่ต้องมีนักกฎหมายหรือทนายความเข้าร่วมด้วยก็ได้ จะเป็นการพูดคุยกันส่วนตัวระหว่างแม่กับลูกสาว ซึ่งยืนยันว่าทางฝ่าย นางศิริพร พร้อมที่จะพูดคุยทั้งให้ศาลเป็นคนนัดไกล่เกลี่ย หรือไม่ว่าจะฝ่ายใดก็แล้วแต่
ต่อมาผู้สื่อข่าวรายงานได้ติดต่อไปทางนางประนอม คนใกล้ชิดบอกว่า ขณะนี้นางประนอมอยากจะพักผ่อนอยู่ที่บ้าน ของดการให้สัมภาษณ์ พร้อมยอมรับว่านางประนอมเกิดอาการเครียด ทำให้อาการป่วยที่เป็นอยู่แล้วหนักขึ้น.
จากกรณีพิพาทเกี่ยวกับการฮุบกิจการน้ำพริกเผาแม่ประนอม มูลค่ากว่า 5 พันล้านบาท ระหว่างนางศิริพร แดงสุภา ลูกสาวคนโตกับมารดาคือ นางประนอม แดงสุภา กระทั่งมีเรื่องฟ้องร้องที่ชั้นศาล และนางประนอมได้เข้าร้องทุกข์กับนายกรัฐมนตรีนั้น ช่วงสายวานนี้ (27 มี.ค.) มีกระแสข่าวว่านางศิริพรจะมีการแถลงข่าว แต่เมื่อผู้สื่อข่าวไปเดินทางไปยัง บริษัท พิบูลย์ชัยน้ำพริกเผาไทยแม่ประนอม จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 68/10 ถนนบรมราชชนนี แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กทม. ปรากฏว่ามีเพียง คุณทวิชา หวังโภคา ทนายความของ นางศิริพรที่เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า นางศิริพร ยังยืนยันคำเดิม คือจะไม่มีการแถลงข่าวถึงรายละเอียดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากเกรงว่าจะเป็นการก้าวล่วงอำนาจศาล รวมทั้งมีผลต่อรูปคดีได้
เรื่องราวก่อนหน้านี้ นางประนอมได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนางศิริพร พร้อมสามี ต่อศาลจังหวัดนครปฐม ฐานร่วมกันปลอมแปลงเอกสารเกี่ยวกับที่ดิน ซึ่งในชั้นไต่สวนมูลฟ้องศาลจังหวัดนครปฐมได้ยกฟ้องเฉพาะสามีของนางศิริพร โดยรับฟ้องเฉพาะในส่วนของนางศิริพรและทนายความ ซึ่งคดีอยู่ในขั้นตอนการนัดสืบพยานโจทก์ นอกจากนี้ นางประนอม ยังได้ยื่นฟ้องนางศิริพร เป็นจำเลยต่อศาลจังหวัดตลิ่งชัน เรื่องเรียกคืนทรัพย์มรดก โดยทางศาลได้ทำการไกล่เกลี่ยทั้งสองฝ่ายแล้ว จำนวน 2 ครั้ง แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ เรื่องจึงดำเนินการต่อไปตามกระบวนการของศาล กระทั่งล่าสุด นางประนอม ได้มีการนำผู้หลักผู้ใหญ่ที่นับถือกันทั้ง 2 ฝ่ายมาขอคุยไกล่เกลี่ยกันนอกรอบ จนมีการเซ็นหนังสือและตกลงการยอมความกันเกิดขึ้น
"แต่จู่ๆ นางศิริพร ก็ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับทางนางประนอม และผู้ใหญ่ที่พามาคุยด้วย ซึ่งได้มีการทำหนังสือร้องต่อศาลทั้งสองใหม่ โดยให้มีการยกเลิกการฟ้องร้อง และเข้าร้องเรียนต่อนายกรัฐมนตรี อีกทั้งมีการให้ข่าวต่อสื่อมวลชน โดยทางนางประนอม กลับยื่นคำร้องใหม่ต่อทั้งสองศาลทำนองว่า สาเหตุที่ถอนฟ้องไม่ได้เกิดจากเจตนาที่แท้จริง ศาลจังหวัดนครปฐมจึงนัดไต่สวนนางประนอม กรณียื่นคำร้องใหม่ วันที่ 4 เม.ย.นี้ ส่วนศาลจังหวัดตลิ่งชันนัดไต่สวนนางประนอม วันที่ 11 เม.ย." นายทวิชากล่าว
โดยนางประนอม ต้องเดินทางไปศาลด้วยตนเอง เพื่อไต่สวนว่าเหตุผลใดจึงมีการขอยกเลิก การยกเลิก การถอนคำฟ้อง และต้องนำมาพยานมารวมไต่สวนด้วย ซึ่งทาง นางศิริพร จะเดินทางไปให้เหตุผลในเรื่องนี้ต่อศาลทั้งสองด้วยในวันและเวลาดังกล่าว
นายทวิชากล่าวอีกว่า หากทางฝั่งนางประนอม จะมีการนัดแนะเข้าเจรจาหรือไกลเกลี่ยกันอีกครั้ง ไม่ว่าจะมีตัวแทนของรัฐหรือฝ่ายไหนนำพาเข้าพูดคุยไกล่เกลี่ยก็ยินดีเสมอ แต่ตอนนี้ทางฝ่ายผู้ใหญ่ที่เป็นตัวกลางในการพูดคุยครั้งก่อนยังไม่มีการติดต่อมาแต่อย่างใด ว่าจะเอาอย่างไร ซึ่งฝั่งนางศิริพร ก็ไม่สามารถติดต่อไปนัดพูดคุยกับนางประนอมได้ จากหลายเหตุผล แต่ถ้าหากนางประนอมติดต่อมา เพื่อพูดคุยไกล่เกลี่ยยินดีที่จะไม่ต้องมีนักกฎหมายหรือทนายความเข้าร่วมด้วยก็ได้ จะเป็นการพูดคุยกันส่วนตัวระหว่างแม่กับลูกสาว ซึ่งยืนยันว่าทางฝ่าย นางศิริพร พร้อมที่จะพูดคุยทั้งให้ศาลเป็นคนนัดไกล่เกลี่ย หรือไม่ว่าจะฝ่ายใดก็แล้วแต่
ต่อมาผู้สื่อข่าวรายงานได้ติดต่อไปทางนางประนอม คนใกล้ชิดบอกว่า ขณะนี้นางประนอมอยากจะพักผ่อนอยู่ที่บ้าน ของดการให้สัมภาษณ์ พร้อมยอมรับว่านางประนอมเกิดอาการเครียด ทำให้อาการป่วยที่เป็นอยู่แล้วหนักขึ้น.