ผู้จัดการรายวัน360-"บิ๊กต๊อก"สั่งกรมควบคุมประพฤติพิจารณา "แพรวา" ทำตามหลักเกณฑ์หรือไม่ หลังโผล่ทำงานบริการสังคมใน รพ.พระมงกุฎฯ ย้ำต้องทำให้ชัด และถูกต้องตามเงื่อนไข ลั่นกรณีอ้างถูกข่มขู่ ลวนลาม ขอให้ชี้ตัวมา จะปลดให้ดู อย่าพูดลอยๆ เหตุทำให้คนดีเสียหาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี น.ส.แพรวา เทพหัสดิน ณ อยุธยา อดีตเยาวชน ขับรถยนต์ฮอนด้า ซีวิค ด้วยความเร็วสูงพุ่งชนรถตู้โดยสาร จนเสียหลักหมุนชนขอบกั้นทางโทลล์เวย์พลิกคว่ำ มีผู้เสียชีวิตรวม 9 คน เมื่อปี 2553 และศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาจำคุก 2 ปี แต่ให้รอลงอาญา 4 ปี และเพิ่มเวลาบำเพ็ญประโยชน์เป็นปีละ 48 ชั่วโมง รวม 4 ปี และห้ามขับรถจนอายุ 25 ปี และล่าสุดภายหลังถูกศาลตัดสิน มีกระแสข่าวว่า น.ส.แพรวา ไม่ยอมมารายงานตัวและทำตามเงื่อนไขของกรมคุมประพฤติตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
วานนี้ (23 มี.ค.) ที่กระทรวงยุติธรรม พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า น่าเห็นใจ น.ส.แพรวา หากเจ้าตัวได้ทำงานบริการสังคมใน รพ.พระมงกุฎเกล้าจริง แต่เรื่องกฎระเบียบก็เป็นอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งตนไม่ได้ลงไปดูรายละเอียดมากนัก ได้ให้ พ.ต.อ.ดร.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมคุมประพฤติ ไปพิจารณาเรื่องกฎเกณฑ์ทำได้หรือไม่ และต้องเป็นผู้เซ็นอนุมัติ แต่ยืนยันว่าระบบต้องเป็นระบบ เพราะแต่ละปีมีผู้ถูกคุมประพฤติเป็นจำนวนมาก และไม่อยากทำให้ระบบต้องเสียหาย
ทั้งนี้ ตามขั้นตอน เมื่อศาลตัดสินแล้ว จะส่งผู้ถูกคุมประพฤติมาอยู่ในความควบคุมดูแลของกรมคุมประพฤติ โดยกรมคุมประพฤติต้องรายงานกลับไปยังศาล หากไม่ทำตามระเบียบแล้วเกิดมีการแจ้งเท็จต่อศาล ก็จะส่งผลให้มีปัญหาตามมา ซึ่งตนไม่เข้าใจว่าขั้นตอนหลังศาลตัดสินแล้วส่งมายังกรมคุมประพฤติจะเป็นหน้าที่ของกรมคุมประพฤติหรือศาลมีอำนาจควบคุมด้วยหรือไม่ โดยจะต้องไปพูดคุยกับศาลให้ชัดเจนถึงอำนาจหน้าที่ในการดูแลผู้ถูกคุมประพฤติ
ส่วนกรณีที่น.ส.แพรวา อ้างว่าถูกข่มขู่และถูกลวนลามนั้น พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า อยากให้ชี้มาเลยว่าเป็นใคร ผมจะปลดให้ดู อย่าพูดลอยๆ เพราะทำให้ข้าราชการดีๆ เสียหาย ต้องกล้า ใครลวนลามแล้วผมไม่ปลดหรือไม่ลงโทษ ค่อยมาตำหนิ ซึ่งผมได้สั่งให้ไปหาบุคคลที่ถูกกล่าวอ้างมาแล้ว เดี๋ยวจะลงโทษให้ดู
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี น.ส.แพรวา เทพหัสดิน ณ อยุธยา อดีตเยาวชน ขับรถยนต์ฮอนด้า ซีวิค ด้วยความเร็วสูงพุ่งชนรถตู้โดยสาร จนเสียหลักหมุนชนขอบกั้นทางโทลล์เวย์พลิกคว่ำ มีผู้เสียชีวิตรวม 9 คน เมื่อปี 2553 และศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาจำคุก 2 ปี แต่ให้รอลงอาญา 4 ปี และเพิ่มเวลาบำเพ็ญประโยชน์เป็นปีละ 48 ชั่วโมง รวม 4 ปี และห้ามขับรถจนอายุ 25 ปี และล่าสุดภายหลังถูกศาลตัดสิน มีกระแสข่าวว่า น.ส.แพรวา ไม่ยอมมารายงานตัวและทำตามเงื่อนไขของกรมคุมประพฤติตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
วานนี้ (23 มี.ค.) ที่กระทรวงยุติธรรม พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า น่าเห็นใจ น.ส.แพรวา หากเจ้าตัวได้ทำงานบริการสังคมใน รพ.พระมงกุฎเกล้าจริง แต่เรื่องกฎระเบียบก็เป็นอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งตนไม่ได้ลงไปดูรายละเอียดมากนัก ได้ให้ พ.ต.อ.ดร.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมคุมประพฤติ ไปพิจารณาเรื่องกฎเกณฑ์ทำได้หรือไม่ และต้องเป็นผู้เซ็นอนุมัติ แต่ยืนยันว่าระบบต้องเป็นระบบ เพราะแต่ละปีมีผู้ถูกคุมประพฤติเป็นจำนวนมาก และไม่อยากทำให้ระบบต้องเสียหาย
ทั้งนี้ ตามขั้นตอน เมื่อศาลตัดสินแล้ว จะส่งผู้ถูกคุมประพฤติมาอยู่ในความควบคุมดูแลของกรมคุมประพฤติ โดยกรมคุมประพฤติต้องรายงานกลับไปยังศาล หากไม่ทำตามระเบียบแล้วเกิดมีการแจ้งเท็จต่อศาล ก็จะส่งผลให้มีปัญหาตามมา ซึ่งตนไม่เข้าใจว่าขั้นตอนหลังศาลตัดสินแล้วส่งมายังกรมคุมประพฤติจะเป็นหน้าที่ของกรมคุมประพฤติหรือศาลมีอำนาจควบคุมด้วยหรือไม่ โดยจะต้องไปพูดคุยกับศาลให้ชัดเจนถึงอำนาจหน้าที่ในการดูแลผู้ถูกคุมประพฤติ
ส่วนกรณีที่น.ส.แพรวา อ้างว่าถูกข่มขู่และถูกลวนลามนั้น พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า อยากให้ชี้มาเลยว่าเป็นใคร ผมจะปลดให้ดู อย่าพูดลอยๆ เพราะทำให้ข้าราชการดีๆ เสียหาย ต้องกล้า ใครลวนลามแล้วผมไม่ปลดหรือไม่ลงโทษ ค่อยมาตำหนิ ซึ่งผมได้สั่งให้ไปหาบุคคลที่ถูกกล่าวอ้างมาแล้ว เดี๋ยวจะลงโทษให้ดู