วีรบุรุษ “ป๊อปคอร์น”

ริมฝั่งเจ้าพระยา
โดย...สุนันท์ ศรีจันทรา

หลังศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาจำคุก37ปี4เดือน ธารน้ำใจที่แสดงความห่วงใยในชะตากรรมของ นายวิวัฒน์ ยอดประสิทธิ์หรือ “ท๊อป” เจ้าของฉายามือปืนป๊อปคอร์น ได้หลั่งไหลจากทั่วสารทิศ

คดีมือปืนป๊อปคอร์นยังต้องสู้ต่อไปในชั้นอุทธรณ์และฎีกา แต่ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร นายวิวัฒน์ประกาศออกมาแล้ว พร้อมยอมรับในกระบวนการยุติธรรม

ไม่เหมือนคนในตระกูลนายทักษิณ ชินวัตรและบรรดาลูกสมุน ซึ่งพยายามกลบเกลื่อนความผิด บิดเบือนข้อเท็จจริง โจมตีกระบวนการยุติธรรม กล่าวหาว่า สองมาตรฐาน เพื่อสร้างความชอบธรรมให้ตัวเอง

นายวิวัฒน์ได้รับการยกย่องให้เป็นวีรบุรุษ เพราะเหตุการณ์เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2557 บริเวณแยกหลักสี่ ถ้ากลุ่มมือปืนป๊อปคอร์นไม่ออกมาปฏิบัติการ ผู้ชุมนุมขับไล่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยกลุ่มหลวงปู่พุทธิอิสระ คงบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก

เพราะนายโกตี๋หรือวุฒิพงษ์ กชธรรมคุณ หัวโจกเสื้อแดง ปทุมธานี นำคนเสื้อแดงมายิงถล่มขบวนของผู้ชุมนุมกลุ่มหลวงปู่พุทธะอิสระอย่างหนัก แต่ถูกกลุ่มมือปืนป๊อปคอร์นตอบโต้ จึงยกกำลังมาช่วย จนต้องหนีกันกระเจิง

ประชาชนที่ลุกฮือกันโค่นล้มระบอบทักษิณ ถูกหมายหัวทำร้ายจากจอมบงการที่ใจอำมหิตมาตลอด โดยใช้ทั้งอำนาจรัฐและกลุ่มอันธพาลคนเสื้อแดง เพื่อทำลายล้างประชาชนที่ออกมาไล่รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

แต่หลายเหตุการณ์ที่กลุ่มผู้ชุมนุมโค่นล้มระบอบทักษิณตกอยู่ในภาวะคับขัน ได้มีวีรบุรุษมาช่วยพลิกสถานการณ์ เพราะทนเห็นเจ้าหน้าที่รัฐทำร้ายประชาชนที่ชุมนุมกันอย่างสงบและปราศจากอาวุธไม่ไหว ทนเห็นคนเสื้อแดงอาละวาดเผาบ้านเผาเมืองไม่ได้

และทนเห็นพี่น้องร่วมอุดมการณ์ตกอยู่ในอันตรายไม่ได้ จึงลุกขึ้นตอบโต้แบบตาต่อตาฟันต่อฟัน จนทั้งตำรวจและคนเสื้อแดงต้องแตกพ่ายหลายครั้ง

ก่อนเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมืองเดือนพฤษภาคม 2553 คนเสื้อแดงถูกสั่งให้บุกยึดกทม. โดยระดมอันธพาลขับมอเตอร์ไซค์ชูธงแดง นำคนปิดถนนสายต่างๆ สร้างความเดือดร้อนไปทั่ว แต่มีคนที่ไม่ยอมก้มหัวให้คนเสื้อแดงเหมือนกัน

ต้นปี 2553 ช่วงที่คนเสื้อแดงบุกยึดเมือง บริเวณถนนสีลมแยกตัดถนนนราธิวาส ชายเพียงคนเดียวได้ออกไปเผชิญหน้ากับคนเสื้อแดงนับสิบ ซึ่งขนกำลังมาปิดถนน โดยรื้อสิ่งกีดขวางออกหมด ไม่ยอมอ่อนข้อให้คนเสื้อแดง -จนคนเสื้อแดงต้องถอยจากพื้นที่ มีภาพเหตุการณ์ปรากฏบนจอทีวีหลบายช่อง และทำให้เกิดเสียงสรรเสริญในวีรกรรมของชายคนเดียวที่ยืดหยัดสู้กับคนเสื้อแดง

เหตุการณ์ต่อมา เกิดขึ้นบริเวณถนนนราธิวาสแยกตัดถนนจันทร์ ประมาณบ่ายวันที่ 20 พฤษภาคม 2553 หลังการเผาบ้านเผาเมืองเพียง 1 วัน กลุ่มเสื้อแดงยกกำลังมาหลายสิบคน ทุบทำลายป้อมตำรวจกลางสี่แยก และกำลังจุดไฟเผาธนาคารกรุงเทพสาขาถนนจันทร์

ชาวบ้านตื่นตระหนกในเหตุการณ์ เพราะเพลิงอาจลุกลามสร้างความเสียหายในชีวิตและทรัพย์สินชาวบ้านย่านนั้น แต่ก็ไม่มีใครกล้าขัดขวางพฤติกรรมถ่อยของกลุ่มคนเสื้อแดง

แต่ก่อนสถานการณ์จะบานปลาย คนเพียงคนเดียวอีกเหมือนกันที่ทำให้คนเสื้อแดงวิ่งหนีตายกันหางชี้ โดยสาดกระสุนปืนใส่กลุ่มคนเสื้อแดงไม่ยั้ง ชาวบ้านย่านนั้นจึงยกย่องชายให้เป็นวีรบุรุษที่ช่วยปราบคนเสื้อแดง

และปิดฉากด้วยการสลายการชุมนุมกลุ่ม กปปส.ที่บริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ช่วงเช่าวันที่ 18 กากุมภาพันธ์ 2557 โดยตำรวจจากชลบุรีถูกสั่งให้เข้ามาปฏิบัติการ สลายการชุมนุมของกลุ่ม กปปส. โดยเป้าหมายคือ กวาดกลุ่มผู้ชุมนุมตลอดแนวถนนราชดำเนินทั้งหมด ไล่ตั้งแต่เวทีกองทัพธรรม จนถึงเวทีของ “ทนายนกเขา” หน้าทำเนียบรัฐบาล

ตำรวจดาหน้ารื้อทำลายเวทีและทรัพย์สินของกลุ่มผู้ชุมนุม ทำร้ายประชาชนที่ขวางทาง แม้จะเป็นคนแก่และสตรีก็ไม่เว้น แต่ระหว่างที่ย่ามใจในการทำร้ายกลุ่มผู้ชุมนุมที่ไม่มีทางสู้ ได้เกิดเหตุระเบิดตกกลางกลุ่มตำรวจบนสะพานผ่านฟ้าฯ

ระเบิดเพียงลูกเดียว ทำให้สถานการณ์บริเวณสะพานผ่านฟ้าฯ เปลี่ยนทันที โดยตำรวจทำร้ายกลุ่มผู้ขุมนุมอย่างเมามัน เมื่อเจอสวน จึงวิ่งหนีตายกันแน่บ แต่ก็ยิงกลุ่มผู้ชุมนุมเสียชีวิต 3 ศพ

ระเบิดเพียงลูกเดียว ช่วยให้เวทีชุมนุมของกลุ่มประชาชนที่ขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์บนถนนราชดำเนิน ไม่ถูกถล่มราบเป็นหน้ากลอง ช่วยไม่ให้ถนนราชดำเนินต้องนองไปด้วยเลือดของพี่น้องประชาชนที่รักชาติ

มีวีรบุรุษนิรนามจำนวนไม่น้อยที่ออกมาช่วยปกป้องประชาชนที่ออกมาชุมนุมขับไล่รัฐบาลทรราช ช่วยให้พี่น้องร่วมอุดมการณ์รอดเจ็บรอดตายหลายครั้ง

แต่ไม่มีวีรกรรมใดจะอยู่ในความทรงจำมากกว่า การที่กลุ่มมือปืนป๊อบคอร์นออกมาไล่ถล่มกลุ่ม “โกตี๋” ซึ่งเตรียมอาวุธครบมือมาบุกทำร้ายหลวงปู่พุทธะอิสระและขบวนกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.บริเวณสี่แยกหลักสี่

นายวิวัฒน์ไม่เพียงเป็นวีรบุรุษที่มีความกล้าแกร่ง พร้อมเผชิญหน้ากับชะตากรรมในทุกรูปแบบเท่านั้น แต่ยังมีจิตใจงามด้วย เพราะแม้ชีวิตจะเดือดร้อน แต่ก็ประกาศไม่ขอรับเงินช่วยเหลือใด โดยเพราะถือว่า หลวงปู่พุทธะอิสระให้ความดูแลอยู่แล้ว

ประชาชนลุกขึ้นมาร่วมโค่นล้มระบอบทักษิณถือว่า นายวิวัฒน์เป็นพี่น้อง ซึ่งไม่เพียงไม่ทอดทิ้งกันเท่านั้น แต่ต้องดูแลกันตลอดไป

วีรบุรุษ “ป๊อปคอร์น” เป็นสิ่งพิสูจน์ว่า คนดีๆ พี่น้องร่วมอุดมการณ์ขับไล่ทรราช ต่อสู่ร่วมเป็นร่วมตายมาด้วยกัน จะไม่มีวันถูกทอดทิ้งให้เผชิญชะตากรรมอย่างโดดเดี่ยว