ผู้จัดการรายวัน360-"บิ๊กแป๊ะ"พอใจผลการปราบปรามผู้มีอิทธิพล เผยได้ปรับย้ายตำรวจที่มีเอี่ยวกว่า 100 นายออกนอกพื้นที่ พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง "บิ๊กป้อม" ปัดปราบมาเฟียล้างอิทธิพลการเมือง แต่ทำบัญชีจากคนที่เอาเปรียบประชาชน ด้านรัฐบาลทำกราฟฟิกรูปการ์ตูน แจง 16 พฤติกรรมที่เข้าข่าย
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการปราบปรามผู้มีอิทธิพลตามนโยบายรัฐบาล ว่า ผลการปราบปรามเป็นที่น่าพอใจในระดับหนึ่ง เพราะเรื่องนี้ต้องค่อยๆ แก้ โดยขณะนี้ ทุกกองบัญชาการได้มีการปรับย้ายตำรวจที่มีรายชื่อเกี่ยวข้องใน 16 ฐานความผิดออกจากพื้นที่มาช่วยราชการที่กองบัญชาการแล้ว เพื่อความสบายใจ ลดความกังวลหรือหวาดกลัวของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ รวมถึงผู้ประกอบการต่างๆ ซึ่งตำรวจที่ถูกคำสั่งในส่วนนี้มีประมาณเกือบ 100 นาย ซึ่งหากใครมีรายชื่อจะถูกเรียกให้ออกนอกพื้นที่มาช่วยราชการหมด
สำหรับตำรวจเหล่านี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องควบคุมความประพฤติ ดูแลไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวกับพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพลอีก ซึ่งตำรวจกลุ่มนี้ มีความผิดใน 16 ฐานความผิดแตกต่างกันไป โดยได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. เป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินการ และหากพิจารณาดูแล้วพบว่าตำรวจกลุ่มนี้มีความประพฤติดี ไม่ยุ่งเกี่ยวแล้ว ก็ต้องให้โอกาสเขา
"การปรับย้ายตำรวจกว่า 100 นาย ออกนอกพื้นที่ หากให้เลือกขาดแคลนกำลังพลกับความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน หลายคนคงเลือกถูกว่าจะเลือกฝั่งไหน หากทำให้คนอื่นเดือดร้อน ก็ควรออกมาเสียดีกว่า ผมรักลูกน้อง แต่ผมก็รักพี่น้องประชาชนมากกว่า ใครทำผิดก็ว่าไปตามผิด"ผบ.ตร.กล่าว
สำหรับกระบวนการนอกจากถูกปรับย้ายแล้ว จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงด้วย เพราะถ้าย้ายมาเฉยๆ พอกลับไป ก็เป็นเหมือนเดิมอีก
ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าในการจัดบัญชีรายชื่อกลุ่มผู้มีอิทธิพล ว่า กำลังดำเนินการอยู่ในแต่ละจังหวัด และขอยืนยันว่าไม่มีการปราบอิทธิพลการเมือง เป็นการจัดทำจากบัญชีรายชื่อในส่วนของบุคคลที่ทำให้ประชาชนเดือดร้อน หรือไปเอาเปรียบประชาชน นอกจากนั้น ก็ไม่ไปยุ่งเกี่ยว
เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีบอกว่ามีกลุ่มการเมืองเริ่มขยับแล้วในทุกจังหวัด พล.อ.ประวิตร กล่าวยอมรับว่า ใช่ แต่ตนขอร้องว่า อย่าเพิ่งขยับ เพราะปีหน้าก็จะได้เลือกตั้งแล้ว คงไม่มีปัญหา
วันเดียวกันนี้ เว็ปไซต์รัฐบาล ได้เผยภาพกราฟฟิก โดยมีข้อความระบุว่า “REWARD WANTED” พฤติกรรมที่เข้าข่ายเป็นผู้ที่มีอิทธิพล 16 ข้อ ประกอบด้วย 1.นายทุนปล่อยเงินกู้นอกระบบ 2.ฮั้วประมูลงานราชการ 3.หักหัวคิดรถรับจ้าง 4.ขูดรีดผู้ประกอบการ 5.ลับลอบขนสินค้าหนีภาษี 6.เปิดบ่อนการพนัน 7.ลักลอบการค้าประเวณี 8.ลักลอบนำคนเข้า-ออกประเทศโดยผิดกฎหมาย 9.ล่อลวงแรงงานไปยังต่างประเทศ 10.แก๊งต้มตุ๋นนักท่องเที่ยว 11.มือปืนรับจ้าง 12.รับจ้างทวงหนี้ด้วยการข่มขู่ใช้กำลัง 13.ลักลอบค้าอาวุธสงคราม/ปืนเถื่อน 14.บุกรุกที่ดินสาธารณะ/ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ 15.เรียกรับผลประโยชน์บนเส้นทางหลวงสาธารณะ และ16.ผู้มีอิทธิพลที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยมีภาพการ์ตูนประกอบข้อความ ตามที่นายกรัฐมนตรีเคยให้แต่ละหน่วยงานประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินงานด้านต่างๆ ผ่านอินโฟกราฟฟิก สร้างการรับรู้ให้ประชาชน
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การทำกราฟฟิกเผยแพร่ทางโซเซียล เพื่อเป็นการทำให้คนรู้ว่าพฤติกรรมใดเข้าข่ายเป็นมาเฟียแบบเข้าใจได้ง่ายๆ และยังเป็นการยืนยันว่ารัฐบาลเอาจริง ใครที่เห็นพฤติกรรมเหล่านี้ก็ให้แจ้งรัฐบาล ส่วนบุคคลที่รู้สึกว่าตัวเองเข้าข่าย ก็อาจจะลดละเลิกพฤติกรรม ก็จะทำให้ตัวเองปลอดภัย
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการปราบปรามผู้มีอิทธิพลตามนโยบายรัฐบาล ว่า ผลการปราบปรามเป็นที่น่าพอใจในระดับหนึ่ง เพราะเรื่องนี้ต้องค่อยๆ แก้ โดยขณะนี้ ทุกกองบัญชาการได้มีการปรับย้ายตำรวจที่มีรายชื่อเกี่ยวข้องใน 16 ฐานความผิดออกจากพื้นที่มาช่วยราชการที่กองบัญชาการแล้ว เพื่อความสบายใจ ลดความกังวลหรือหวาดกลัวของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ รวมถึงผู้ประกอบการต่างๆ ซึ่งตำรวจที่ถูกคำสั่งในส่วนนี้มีประมาณเกือบ 100 นาย ซึ่งหากใครมีรายชื่อจะถูกเรียกให้ออกนอกพื้นที่มาช่วยราชการหมด
สำหรับตำรวจเหล่านี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องควบคุมความประพฤติ ดูแลไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวกับพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพลอีก ซึ่งตำรวจกลุ่มนี้ มีความผิดใน 16 ฐานความผิดแตกต่างกันไป โดยได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. เป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินการ และหากพิจารณาดูแล้วพบว่าตำรวจกลุ่มนี้มีความประพฤติดี ไม่ยุ่งเกี่ยวแล้ว ก็ต้องให้โอกาสเขา
"การปรับย้ายตำรวจกว่า 100 นาย ออกนอกพื้นที่ หากให้เลือกขาดแคลนกำลังพลกับความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน หลายคนคงเลือกถูกว่าจะเลือกฝั่งไหน หากทำให้คนอื่นเดือดร้อน ก็ควรออกมาเสียดีกว่า ผมรักลูกน้อง แต่ผมก็รักพี่น้องประชาชนมากกว่า ใครทำผิดก็ว่าไปตามผิด"ผบ.ตร.กล่าว
สำหรับกระบวนการนอกจากถูกปรับย้ายแล้ว จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงด้วย เพราะถ้าย้ายมาเฉยๆ พอกลับไป ก็เป็นเหมือนเดิมอีก
ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าในการจัดบัญชีรายชื่อกลุ่มผู้มีอิทธิพล ว่า กำลังดำเนินการอยู่ในแต่ละจังหวัด และขอยืนยันว่าไม่มีการปราบอิทธิพลการเมือง เป็นการจัดทำจากบัญชีรายชื่อในส่วนของบุคคลที่ทำให้ประชาชนเดือดร้อน หรือไปเอาเปรียบประชาชน นอกจากนั้น ก็ไม่ไปยุ่งเกี่ยว
เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีบอกว่ามีกลุ่มการเมืองเริ่มขยับแล้วในทุกจังหวัด พล.อ.ประวิตร กล่าวยอมรับว่า ใช่ แต่ตนขอร้องว่า อย่าเพิ่งขยับ เพราะปีหน้าก็จะได้เลือกตั้งแล้ว คงไม่มีปัญหา
วันเดียวกันนี้ เว็ปไซต์รัฐบาล ได้เผยภาพกราฟฟิก โดยมีข้อความระบุว่า “REWARD WANTED” พฤติกรรมที่เข้าข่ายเป็นผู้ที่มีอิทธิพล 16 ข้อ ประกอบด้วย 1.นายทุนปล่อยเงินกู้นอกระบบ 2.ฮั้วประมูลงานราชการ 3.หักหัวคิดรถรับจ้าง 4.ขูดรีดผู้ประกอบการ 5.ลับลอบขนสินค้าหนีภาษี 6.เปิดบ่อนการพนัน 7.ลักลอบการค้าประเวณี 8.ลักลอบนำคนเข้า-ออกประเทศโดยผิดกฎหมาย 9.ล่อลวงแรงงานไปยังต่างประเทศ 10.แก๊งต้มตุ๋นนักท่องเที่ยว 11.มือปืนรับจ้าง 12.รับจ้างทวงหนี้ด้วยการข่มขู่ใช้กำลัง 13.ลักลอบค้าอาวุธสงคราม/ปืนเถื่อน 14.บุกรุกที่ดินสาธารณะ/ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ 15.เรียกรับผลประโยชน์บนเส้นทางหลวงสาธารณะ และ16.ผู้มีอิทธิพลที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยมีภาพการ์ตูนประกอบข้อความ ตามที่นายกรัฐมนตรีเคยให้แต่ละหน่วยงานประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินงานด้านต่างๆ ผ่านอินโฟกราฟฟิก สร้างการรับรู้ให้ประชาชน
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การทำกราฟฟิกเผยแพร่ทางโซเซียล เพื่อเป็นการทำให้คนรู้ว่าพฤติกรรมใดเข้าข่ายเป็นมาเฟียแบบเข้าใจได้ง่ายๆ และยังเป็นการยืนยันว่ารัฐบาลเอาจริง ใครที่เห็นพฤติกรรมเหล่านี้ก็ให้แจ้งรัฐบาล ส่วนบุคคลที่รู้สึกว่าตัวเองเข้าข่าย ก็อาจจะลดละเลิกพฤติกรรม ก็จะทำให้ตัวเองปลอดภัย