MGR Online - “พล.ต.อ.สุวิระ” เรียกถกคดีเผา 3 ศพยกครัวที่สามร้อยยอด จ.ประจวบฯ คาดเป็นการฆ่าแล้วอำพรางศพ เนื่องจากที่เกิดเหตุพบศพมีคราบเลือดอยู่จำนวนมาก พร้อมคุมตัวผู้ต้องสงสัย หลังแม่พาเข้ามอบตัวแต่ให้การปฏิเสธ อ้างหนีเพราะมีปืนเถื่อน จนท.ไม่ปักใจเชื่อ หลังลงพื้นที่พบผู้ต้องสงสัยเคยมีปากเสียงกับผู้ตายแล้วขู่อาฆาตไว้ ขณะนี้รอผลชันสูตรศพกับผลของพิสูจน์หลักฐาน
วันนี้ (20 เม.ย.) พล.ต.อ.สุวิระ ทรงเมตตา ที่ปรึกษา (สบ 10) ลงพื้นที่ติดตามคดีเพลิงไหม้บ้านเลขที่ 100 หมู่ 7 ต.ศาลาลัย อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมาทำให้บ้านเสียหายทั้งหลัง ต่อมาพบศพนายสำราญ เพชรประดับ อายุ 44 ปี น.ส.รุ่งทิพย์ สายทอง อายุ 35 ปี และด.ญ.ประภัสสร เพชรประดับ อายุ 1 ปี 6 เดือน เสียชีวิตในกองเพลิง รถยนต์และจักรยานยนต์เสียหายทั้งหมด โดย พล.ต.อ.สุวิระ ได้รับคำสั่งจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร ให้เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้งเนื่องจากว่าสงสัยจะเป็นการฆ่าแล้วเผาอำพรางศพ โดยได้เข้าร่วมประชุมกับ พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ประเสริฐ ศิริพรรณาภิรัตน์ รรท.ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ และทีมสืบสวนสอบสวน โดยเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้รตรวจสอบที่เกิดเหตุใหม่อีกครั้งพร้อมกับหาพยานหลักฐานเพิ่ม
มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบห้องนอนแต่ละห้อง พร้อมทั้งร่วมกับเจ้าหน้าที่มูลนิธิช่วยกันรื้อหลังคาที่ตกลงมาทับพื้นดินภายในตัวบ้านและรอบตัวบ้าน โดยให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยใช้จอบขูดขี้เถ้าในจุดที่พบศพ พบว่าบนพื้นปูนจุดที่ศพเคยทับอยู่มีคราบเลือดอยู่จำนวนมาก นอกจากนี้ ได้ตรวจสอบภายในรถยนต์ที่ถูกเผา และหลายจุดที่สงสัยว่าอาจจะเป็นจุดที่วางเพลิง อย่างไรก็ดี ยังคงสั่งห้ามไม่ให้ใครที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในพื้นที่เกิดเหตุเนื่องจากเกรงว่าหลักฐานต่างๆ อาจถูกทำลาย
พล.ต.อ.สุวิระกล่าวว่า ได้มาตรวจที่เกิดเหตุอย่างละเอียดเพื่อพิสูจน์ให้แน่ชัดว่าสาเหตุเกิดจากไฟไหม้ หรือเหตุฆาตกรรมอำพราง เมื่อได้นำเถ้าถ่านในพื้นที่ออกพบว่ามีรอยคราบเลือดกองอยู่ที่พื้นบริเวณผู้เสียชีวิต แสดงว่าไม่ได้เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้ เพราะหากเป็นเพลิงไหม้ธรรมดาจะไม่มีเลือดออก ในกรณีนี้มีเลือดออกมากองอยู่จำนวนมากจึงสันนิษฐานได้ว่าน่าจะเป็นเหตุฆาตกรรม ทั้งนี้ต้องนำเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์อีกครั้ง ส่วนการพบปลอกกระสุนปืนในที่เกิดเหตุยังไม่ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานอย่างเป็นทางการ เพียงแต่ทราบว่าพบปลอกกระสุนปืนตกอยู่ อย่างไรก็ดีกรณีนี้ เชื่อได้ว่าไม่น่าจะเกิดเหตุเพลิงไหม้ธรรมดา เชื่อว่าน่าจะมีการฆาตกรรมก่อนแล้วเกิดเหตุเพลิงไหม้
พล.ต.อ.สุวิระกล่าวว่า ด้านการติดตามตัวผู้ต้องสงสัย ขณะนี้ ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ ได้ระดมกำลังตำรวจสืบสวนเร่งคลี่คลายคดีให้เร็วที่สุด โดยควานหาตัวผู้ต้องสงสัยสถานที่กบดาน ส่วนศพของผู้เสียชีวิตที่ส่งไปตรวจอย่างละเอียดที่สถาบันนิติเวชวิทยาว่าเสียชีวิตด้วยสาเหตุใด มาจากการฆาตกรรม หรืออุบัติเหตุ และผลพิสูจน์หลักฐานในที่เกิดเหตุมาประกอบกัน
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการปิดล้อมหมู่บ้านลุ่มแสล ต.หาดขาม อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อหาเบาะแสคนร้ายหลังจากมีผู้พบเห็นภายในหมู่บ้าน และได้พูดคุยกับนางฉลวย ช้างแก้ว มารดานายนิพนธ์ หรือใหญ่ ช้างแก้ว อายุ 38 ปี ที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัย เพื่อให้ช่วยเจรจาให้ลูกชายเข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยนางฉลวยได้เข้าไปนำตัวนายนิพนธ์ที่หลบซ่อนอยู่ในชายป่ามามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ เบื้องต้น นายนิพนธ์ให้การปฏิเสธว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุไฟไหม้ แต่ที่ต้องหลบหนีเพราะก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุไฟไหม้ 1 วัน มีตำรวจเข้ามาขอตรวจค้นยาเสพติด ระหว่างนั้นตนเองมีปืนอยู่จึงกลัวความผิดจึงได้เอาปืนใส่กระเป๋าแล้วโยนลงไปในบ่อพักน้ำแล้ววิ่งหลบหนีไป
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายนิพนธ์ส่ง สภ.สามร้อยยอด เพื่อสอบสวน ซึ่งก่อนหน้านี้นายนิพนธ์ หรือใหญ่ เคยมีปากเสียงกับ น.ส.รุ่งทิพย์ สายทอง ผู้ตายและได้ขู่อาฆาตไว้ เพื่อประกอบสำนวนการสอบสวนว่าจะเกี่ยวข้องกับไฟไหม้หรือไม่ และต้องรอผลตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์