ศูนย์ข่าวภูเก็ต - แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต หารือแนวทางแก้ไขปัญหาด้านการท่องเที่ยวร่วมกับภาครัฐ-เอกชน ยันจัดระเบียบภูเก็ต ทุกเรื่องต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ยึดผลประโยชน์ของประชาชน และประเทศชาติเป็นหลัก สิ่งผิดกฎหมายจะต้องไม่มี พร้อมเดินหน้าทำให้ภูเก็ตดีขึ้น
เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (5 ก.พ.) ที่ห้องประชุมศาลากลาง จ.ภูเก็ต หลังใหม่ พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วย พล.ต.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 และคณะ ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ร่วมประชุมเพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหาด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยมี นายโชคชัย เดชอมรธัญ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายสนิท ศรีวิหค นายธีระ อนันตเสรีวิทยา และนางศิวพร ฉั่วสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ประธานหอการค้า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ตเป็นที่หมายปองของนักท่องเที่ยวทั้งในแง่ของการเดินทางมาท่องเที่ยว และการเดินทางมาประกอบธุรกิจ ดังนั้น การจัดระเบียบจังหวัดให้มีความสงบเรียบร้อยจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อทำให้ดียิ่งขึ้น สำหรับการเดินทางมาที่จังหวัดภูเก็ตในครั้งนี้ เพื่อมารับฟังความคิดเห็น และมาช่วยกันเพื่อการพัฒนาจังหวัดภูเก็ต รวมทั้งหาทางทำอย่างไรเพื่อให้ประชาชนชาวจังหวัดภูเก็ต ผู้ประกอบการอยู่ร่วมกันกับนักท่องเที่ยวได้อย่างมีความสุข รวมถึงการให้ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของรัฐสามารถปฏิบัติงานด้วยความเรียบร้อยเพื่อการพัฒนาจังหวัดภูเก็ต ทั้งนี้ การทำงานจะเน้นการใช้กฎหมายนำเป็นหลัก ยึดถือความถูกต้อง ทำให้ถูกกฎหมาย โดยมีหลายเรื่องที่จะต้องเร่งดำเนินการจัดระเบียบ ซึ่งประกอบด้วย
1.เร่งดำเนินการคือการจัดระเบียบชายหาด ทั้งการกำหนดพื้นที่ของการจอดเรือเจ็ตสกี เรือสำราญ ดังนั้น หากมีการจับจองชายหาดทำให้บดบังทัศนียภาพ จะต้องมีการดำเนินการให้ถูกต้อง ในส่วนของจังหวัดภูเก็ตที่มีการจัดสรรพื้นที่ 10% ให้มีการปักร่ม เป็นนโยบายที่ดีแต่เราต้องกำหนดให้อยู่ในกฎระเบียบ และจะต้องไม่กระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน 2.คือการจัดระเบียบรถรับจ้างรถโดยสารสาธารณะ รถแท็กซี่ ซึ่งจะต้องมีการจดทะเบียนควบคุมรถโดยสารสาธารณะ รถจักรยานยนต์รับจ้าง การควบคุมราคารถโดยสารสาธารณะ การให้บริการแก่ประชาชน และนักท่องเที่ยว
3.การดำเนินการต่อผู้บุกรุกพื้นที่สาธารณะ ซึ่งจะต้องดำเนินการต่อผู้บุกรุกตามที่กฎหมายกำหนด 4.เรื่องการจัดระเบียบสถานบริการสถานบันเทิงให้ดำเนินการตามกฎหมายโดยเฉพาะเรื่องการค้ามนุษย์ การค้าประเวณี หรือการดำเนินการอื่นที่ผิดกฎหมาย 5.คือการดำเนินการต่อกลุ่มผู้มีอิทธิพล เช่น เรื่องยาเสพติด การค้ามนุษย์แรงงานต่างด้าว กวดขันทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ และภาคเอกชนจะต้องไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกลุ่มผู้มีอิทธิพล ขอให้ตำรวจ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านจะต้องอยู่ในกรอบระเบียบที่กฎหมายกำหนด 6.คือการอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวให้ได้รับความเป็นธรรมไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบ และ 7.คือการจัดระเบียบท่าอากาศยานภูเก็ตให้มีความเรียบร้อยพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
พล.ท.ปิยวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดระเบียบจังหวัดภูเก็ต จะต้องใช้กฎหมายนำหน้า แต่ชาวบ้านอยู่ดีมีรายได้ นายทุน ผู้ประกอบการสามารถอยู่ด้วยกันได้อย่างเหมาะสม นักท่องเที่ยวได้รับการอำนวยความสะดวก และดูแลให้ได้รับความเป็นธรรม เพราะฉะนั้นแนวทางในการดำเนินการจะต้องไปตามนโยบายของรัฐบาล และ คสช. การทำงานแก้ไขปัญหาต่างๆ ของจังหวัดภูเก็ต ทั้งหมดจะดำเนินการโดยจัดตั้งคณะทำงานจัดระเบียบจังหวัดภูเก็ต โดยเป็นการบูรณาการทำงานระหว่างจังหวัดภูเก็ต ทหาร ตำรวจ ภาคเอกชน และความร่วมมือจากภาคประชาชน และผู้ประกอบการเพื่อเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไข โดยเฉพาะในส่วนของผู้ประกอบการที่ต้องให้ความสำคัญในการช่วยเหลือ และให้ความเป็นธรรมด้วย ขณะที่ภาครัฐเองจะได้กำหนดกรอบการทำงานที่กระชับ มีผลปฏิบัติภายในระยะอันสั้นเพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนจังหวัดภูเก็ตที่เป็นรูปธรรม โดยการเข้ามาจัดระเบียบตามนโยบายของรัฐบาล ไม่ได้ต้องการจะรังแกใคร เพียงแต่เข้ามาจัดระเบียบสังคมให้เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น เพื่อทำให้การเอารัดเอาเปรียบประชาชนลดน้อยลง โดยเป้าหมายของการพัฒนาเน้นประชาชน และประเทศชาติเป็นหลัก ประชาชนจะต้องอยู่ดีกินดีอยู่ได้ นักธุรกิจผู้ประกอบการมีกำไรแต่จะต้องมีการแบ่งปันสู่ประชาชนในพื้นที่ด้วย
ทางด้าน นายโชคชัย เดชอมรธัญ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ตเป็นเมืองการท่องเที่ยวระดับโลก มีประชากรตามทะเบียนราษฎรประมาณ 3 แสนคน มีประชากรแฝง และนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาในจังหวัดภูเก็ตปีละประมาณ 15 ล้านคน รายได้ส่วนใหญ่ 50% มาจากการประกอบกิจการด้านโรงแรมและอาหาร โดยรัฐบาลมีเป้าหมายพัฒนาจังหวัดภูเก็ตให้เป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก และเป็นเมืองครัวโลก สำหรับนโยบายการจัดตั้งคณะทำงานเพื่อจัดระเบียบจังหวัดภูเก็ตนั้น จังหวัดภูเก็ตพร้อมที่จะสนองนโยบายรัฐบาล และ คสช.เพื่อให้การแก้ปัญหาการจัดระเบียบชายหาด ซึ่งทางจังหวัดยังยึดเรื่องของการจัดพื้นที่ 10% สำหรับวางร่มเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการ การแก้ปัญหาการจอดรถเช่าในที่สาธารณะ การแก้ปัญหาการบุกรุกที่สาธารณะ การแก้ปัญหาสนามบินภูเก็ตและด่านตรวจคนเข้าเมือง การจัดระเบียบแรงงานต่างด้าว การแก้ปัญหาเรื่องมัคคุเทศก์เถื่อน การจัดระเบียบรถโดยสารสาธารณะ การกวดขันใบอนุญาตขับขี่รถของนักท่องเที่ยว การเพิ่มระบบรักษาความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว และการจัดระเบียบโรงแรมในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งปัจจุบันโรงแรมที่ไม่ถูกต้องในภูเก็ตมีจำนวนมาก นอกจากนั้น ยังมีเรื่องของสถานบริการและสถานบันเทิง ให้เกิดเป็นรูปธรรมให้เร็วที่สุด เพื่อให้จังหวัดภูเก็ต มีความปลอดภัยสงบเรียบร้อย สู่การเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลกต่อไป
ขณะที่ประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต ได้นำเสนอปัญหา ว่า ภูเก็ตยังเป็นที่ต้องการของนักท่องเที่ยว แต่ภูเก็ตจะต้องมีการจัดระเบียบเพื่อให้เกิดความสมดุล และควบคุมปริมาณรถ เรือ ซึ่งมีอยู่จำนวนมาก ควรจะต้องมีการควบคุม รถแท็กซี่ป้ายเขียวควรจะต้องมีมิเตอร์ เพื่อความเป็นธรรมต่อผู้ใช้บริการ นอกจากนั้น ยังรวมไปถึงรถเช่าที่ยึดที่สาธารณะในการจอดรถ โดยจะต้องเสียภาษีให้แก่จังหวัดภูเก็ต ส่วนเรื่องการจัดระเบียบชายหาดพื้นที่ 10% รายได้ไปอยู่ที่ใคร คิดว่าเงินจากส่วนนี้ควรจะทำเข้ารัฐ
ด้านนายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ปัญหาเรื่องของไกด์เป็นปัญหาอีกอย่างหนึ่งที่จะต้องได้รับการแก้ไข ปัจจุบันต้องยอมรับว่าได้ภาษาเฉพาะมีไม่เพียงพอ เราจะทำอย่างไรในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว และทำให้ไกด์ที่มีอยู่หันมาศึกษา และเรียนรู้ภาษาเฉพาะ เช่น รัสเซีย เกาหลี เพื่อให้มีจำนวนเพียงพอในการบริการนักท่องเที่ยว
ส่วนนายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ กล่าวว่า จากการรับฟังพบว่าปัญหาของจังหวัดภูเก็ตที่จะต้องมีการจัดระเบียบมีหลายปัญหา ไม่ว่าจะเป็นปัญหาจัดระเบียบชายหาด การจอดรถเช่า การบุกรุกที่ดินสาธารณะ ปัญหาที่เกิดขึ้นในท่าอากาศยาน ปัญหาแรงงาน มัคคุเทศก์ แท็กซี่ รถป้ายเขียว รถสาธารณะ รถให้เช่า นักท่องเที่ยวไม่มีใบขับขี่ และอื่นๆ การจัดระเบียบโรงแรมคอนโด คิดว่าควรจะต้องคณะทำงานขึ้นมาดูแลเป็นเรื่องๆ เพื่อให้สามารถติดตามตรวจสอบและดำเนินการแก้ไขปัญหาให้เห็นเป็นรูปธรรม
เช่นเดียวกับผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การดำเนินการนั้นจะต้องทำงานเป็นทีม เพื่อให้การแก้ไขปัญหาเห็นผล
ขณะที่แม่ทัพภาค 4 กล่าวสรุปก่อนที่จะปิดการประชุม ว่า การดำเนินการทุกอย่างจะต้องยึดกฎหมายเป็นหลัก หากมีการประท้วงปิดถนนก็ให้บังคับใช้กฎหมายเป็นหลัก ที่คุยไม่เข้าใจห้องขังมี ส่วนปัญหาเรื่องแรงงาน เป็นปัญหาโลกแตกมานานแล้ว ในส่วนของจังหวัดภูเก็ตมีคนที่เกี่ยวข้องต่อขบวนการค้ามนุษย์อยู่ 2-3 ราย ซึ่งบุคคลเหล่านี้จะต้องหาให้เจอ และจัดการขั้นเด็ดการจับทุกเม็ด เช่นเดียวกับบ่อนการพนันทุกชนิด จะต้องไม่มีในพื้นที่ ถ้ามีก็ขอให้หยุด เพราะทุกเรื่องยืนยันว่าจะต้องดำเนินการตามกฎหมาย โดยชั่งน้ำหนักเอาประโยชน์ของประชาชน และประเทศชาติเป็นหลัก นักท่องเที่ยวรองลงมา
อย่างไรก็ตาม หลังการประชุม พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน ว่า ในการเดินทางภูเก็ตครั้งนี้เพื่อมาช่วยผู้ว่าฯ ในการทำงาน และมาดูแลการจัดระเบียบที่ภูเก็ต ซึ่งนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต มีความห่วงใย ที่จริงไม่มีอะไร ปกติดี นักท่องเที่ยวก็เข้ามาเที่ยว ก็มาดูว่าทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต จะให้ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ไม่ว่าจะเรื่องการจัดระเบียบกลุ่มผู้มีอิทธิพล รถแท็กซี่ ทุกสิ่งทุกอย่างต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ไม่มีใครจะอยู่เหนือกฎหมาย ซึ่งในรายละเอียดต่างๆ จะมีการประชุมกันอีกในวันสองวันนี้ เพื่อหาผู้รับผิดชอบ เราจะทำให้ดีขึ้น โดยยึดชาวบ้านเป็นหลัก ต้องมีอาชีพมีรายได้ นักท่องเที่ยว ผู้ประกอบการ ต้องดูแลความปลอดภัยให้เขา
อย่างไรก็ตาม สำหรับภูเก็ตตอนนี้สิ่งที่ต้องทำเร่งด่วน คือ เรื่องของคน เอาคนมาทำงานให้ได้ อิทธิพลต้องไม่มี ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ หรือเอกชน ถ้ายังใช้อิทธิพลอยู่ขอให้หยุด ถ้ายังไม่หยุดก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย เอาคนทั้งภาครัฐ เอกชนมาช่วยงานผู้ว่าราชการจังหวัด และทางเราก็จะส่งเจ้าหน้าที่มาดูแลทุกวัน จะทำให้ดีที่สุด และเร็วที่สุด เพื่อประชาชนมีอาชีพ มีรายได้ ส่วนกรณีรถเช่าเราต้องมาจัดระเบียบกันใหม่ จะต้องมีมิเตอร์ให้เป็นสากล และการแก้ปัญหากรณีรถเช่า ซึ่งใช้ที่จอดรถสาธารณะริมชายหาดเป็นที่จอดรถเช่านั้น อย่างแรกตั้งคณะทำงาน เชิญผู้ประกอบการรถเช่า ซึ่งรถเช่า ผู้ประกอบการรถเช่าไม่น่าจะมีปัญหา แต่ผู้ที่อยู่เหนือผู้ประกอบการรถเช่า ก็จะเชิญมาคุยกัน ต้องอยู่ในโซนที่เราจัดไว้ ซึ่งจะมีการว่ากล่าวตักเตือน ครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 แต่ต้องไม่มีครั้งที่ 3 ส่วนการจัดเรียบชายหาด โซน 10 เปอร์เซ็นต์ ต้องเหมือนเดิมทุกอย่าง จะให้ประชาชนเป็นหลัก
ขณะที่กรณีกลุ่มผู้ประกอบการสถานบันเทิงหาดป่าตองขอขยายเวลาปิดสถานบันเทิงออกไป นั้น พล.ท.ปิยวัฒน์ กล่าวว่า ที่เปิดเกินก็ต้องปิดตามเวลาที่กฎหมายกำหนด แต่ก็ได้เรียนต่อทางผู้ว่าฯ ซึ่งเป็นการคุยกันในเบื้องต้น ถ้าจะให้เปิดเกินก็ต้องทำกฎหมายใหม่เพิ่มเติมเข้ามา ช่วงรอกฎหมายที่จะขยายเวลาปิดสถานบันเทิง จะมีการอะลุ่มอล่วยให้เปิดเกินเวลาได้หรือไม่นั้น รอพิจารณาอีกครั้ง เราจะประชุมกันทุกวันเป็นกลุ่มๆ กันไป ว่าใครทำอะไร ตรงไหน เมื่อไหร่ อย่างไร
ส่วนการรวมตัวกันประท้วงเมื่อมีการจัดระเบียบเกิดขึ้นนั้น พล.ท.ปิยวัฒน์ กล่าวว่า การประท้วงเป็นเรื่องของสิทธิของเขา เราก็ต้องคุยกันด้วยเหตุผล จะมีอยู่กลุ่มเดียวที่ประท้วงคือ กลุ่มมีอิทธิพล กลุ่มเสียผลประโยชน์ ซึ่งเรื่องนี้อาจจะใช้วิธีการพูดคุยก่อน แต่ถ้าคุยไม่รู้เองก็ต้องว่ากันตามกฎหมาย
เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (5 ก.พ.) ที่ห้องประชุมศาลากลาง จ.ภูเก็ต หลังใหม่ พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วย พล.ต.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 และคณะ ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ร่วมประชุมเพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหาด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยมี นายโชคชัย เดชอมรธัญ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายสนิท ศรีวิหค นายธีระ อนันตเสรีวิทยา และนางศิวพร ฉั่วสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ประธานหอการค้า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ตเป็นที่หมายปองของนักท่องเที่ยวทั้งในแง่ของการเดินทางมาท่องเที่ยว และการเดินทางมาประกอบธุรกิจ ดังนั้น การจัดระเบียบจังหวัดให้มีความสงบเรียบร้อยจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อทำให้ดียิ่งขึ้น สำหรับการเดินทางมาที่จังหวัดภูเก็ตในครั้งนี้ เพื่อมารับฟังความคิดเห็น และมาช่วยกันเพื่อการพัฒนาจังหวัดภูเก็ต รวมทั้งหาทางทำอย่างไรเพื่อให้ประชาชนชาวจังหวัดภูเก็ต ผู้ประกอบการอยู่ร่วมกันกับนักท่องเที่ยวได้อย่างมีความสุข รวมถึงการให้ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของรัฐสามารถปฏิบัติงานด้วยความเรียบร้อยเพื่อการพัฒนาจังหวัดภูเก็ต ทั้งนี้ การทำงานจะเน้นการใช้กฎหมายนำเป็นหลัก ยึดถือความถูกต้อง ทำให้ถูกกฎหมาย โดยมีหลายเรื่องที่จะต้องเร่งดำเนินการจัดระเบียบ ซึ่งประกอบด้วย
1.เร่งดำเนินการคือการจัดระเบียบชายหาด ทั้งการกำหนดพื้นที่ของการจอดเรือเจ็ตสกี เรือสำราญ ดังนั้น หากมีการจับจองชายหาดทำให้บดบังทัศนียภาพ จะต้องมีการดำเนินการให้ถูกต้อง ในส่วนของจังหวัดภูเก็ตที่มีการจัดสรรพื้นที่ 10% ให้มีการปักร่ม เป็นนโยบายที่ดีแต่เราต้องกำหนดให้อยู่ในกฎระเบียบ และจะต้องไม่กระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน 2.คือการจัดระเบียบรถรับจ้างรถโดยสารสาธารณะ รถแท็กซี่ ซึ่งจะต้องมีการจดทะเบียนควบคุมรถโดยสารสาธารณะ รถจักรยานยนต์รับจ้าง การควบคุมราคารถโดยสารสาธารณะ การให้บริการแก่ประชาชน และนักท่องเที่ยว
3.การดำเนินการต่อผู้บุกรุกพื้นที่สาธารณะ ซึ่งจะต้องดำเนินการต่อผู้บุกรุกตามที่กฎหมายกำหนด 4.เรื่องการจัดระเบียบสถานบริการสถานบันเทิงให้ดำเนินการตามกฎหมายโดยเฉพาะเรื่องการค้ามนุษย์ การค้าประเวณี หรือการดำเนินการอื่นที่ผิดกฎหมาย 5.คือการดำเนินการต่อกลุ่มผู้มีอิทธิพล เช่น เรื่องยาเสพติด การค้ามนุษย์แรงงานต่างด้าว กวดขันทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ และภาคเอกชนจะต้องไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกลุ่มผู้มีอิทธิพล ขอให้ตำรวจ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านจะต้องอยู่ในกรอบระเบียบที่กฎหมายกำหนด 6.คือการอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวให้ได้รับความเป็นธรรมไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบ และ 7.คือการจัดระเบียบท่าอากาศยานภูเก็ตให้มีความเรียบร้อยพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
พล.ท.ปิยวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดระเบียบจังหวัดภูเก็ต จะต้องใช้กฎหมายนำหน้า แต่ชาวบ้านอยู่ดีมีรายได้ นายทุน ผู้ประกอบการสามารถอยู่ด้วยกันได้อย่างเหมาะสม นักท่องเที่ยวได้รับการอำนวยความสะดวก และดูแลให้ได้รับความเป็นธรรม เพราะฉะนั้นแนวทางในการดำเนินการจะต้องไปตามนโยบายของรัฐบาล และ คสช. การทำงานแก้ไขปัญหาต่างๆ ของจังหวัดภูเก็ต ทั้งหมดจะดำเนินการโดยจัดตั้งคณะทำงานจัดระเบียบจังหวัดภูเก็ต โดยเป็นการบูรณาการทำงานระหว่างจังหวัดภูเก็ต ทหาร ตำรวจ ภาคเอกชน และความร่วมมือจากภาคประชาชน และผู้ประกอบการเพื่อเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไข โดยเฉพาะในส่วนของผู้ประกอบการที่ต้องให้ความสำคัญในการช่วยเหลือ และให้ความเป็นธรรมด้วย ขณะที่ภาครัฐเองจะได้กำหนดกรอบการทำงานที่กระชับ มีผลปฏิบัติภายในระยะอันสั้นเพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนจังหวัดภูเก็ตที่เป็นรูปธรรม โดยการเข้ามาจัดระเบียบตามนโยบายของรัฐบาล ไม่ได้ต้องการจะรังแกใคร เพียงแต่เข้ามาจัดระเบียบสังคมให้เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น เพื่อทำให้การเอารัดเอาเปรียบประชาชนลดน้อยลง โดยเป้าหมายของการพัฒนาเน้นประชาชน และประเทศชาติเป็นหลัก ประชาชนจะต้องอยู่ดีกินดีอยู่ได้ นักธุรกิจผู้ประกอบการมีกำไรแต่จะต้องมีการแบ่งปันสู่ประชาชนในพื้นที่ด้วย
ทางด้าน นายโชคชัย เดชอมรธัญ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ตเป็นเมืองการท่องเที่ยวระดับโลก มีประชากรตามทะเบียนราษฎรประมาณ 3 แสนคน มีประชากรแฝง และนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาในจังหวัดภูเก็ตปีละประมาณ 15 ล้านคน รายได้ส่วนใหญ่ 50% มาจากการประกอบกิจการด้านโรงแรมและอาหาร โดยรัฐบาลมีเป้าหมายพัฒนาจังหวัดภูเก็ตให้เป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก และเป็นเมืองครัวโลก สำหรับนโยบายการจัดตั้งคณะทำงานเพื่อจัดระเบียบจังหวัดภูเก็ตนั้น จังหวัดภูเก็ตพร้อมที่จะสนองนโยบายรัฐบาล และ คสช.เพื่อให้การแก้ปัญหาการจัดระเบียบชายหาด ซึ่งทางจังหวัดยังยึดเรื่องของการจัดพื้นที่ 10% สำหรับวางร่มเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการ การแก้ปัญหาการจอดรถเช่าในที่สาธารณะ การแก้ปัญหาการบุกรุกที่สาธารณะ การแก้ปัญหาสนามบินภูเก็ตและด่านตรวจคนเข้าเมือง การจัดระเบียบแรงงานต่างด้าว การแก้ปัญหาเรื่องมัคคุเทศก์เถื่อน การจัดระเบียบรถโดยสารสาธารณะ การกวดขันใบอนุญาตขับขี่รถของนักท่องเที่ยว การเพิ่มระบบรักษาความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว และการจัดระเบียบโรงแรมในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งปัจจุบันโรงแรมที่ไม่ถูกต้องในภูเก็ตมีจำนวนมาก นอกจากนั้น ยังมีเรื่องของสถานบริการและสถานบันเทิง ให้เกิดเป็นรูปธรรมให้เร็วที่สุด เพื่อให้จังหวัดภูเก็ต มีความปลอดภัยสงบเรียบร้อย สู่การเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลกต่อไป
ขณะที่ประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต ได้นำเสนอปัญหา ว่า ภูเก็ตยังเป็นที่ต้องการของนักท่องเที่ยว แต่ภูเก็ตจะต้องมีการจัดระเบียบเพื่อให้เกิดความสมดุล และควบคุมปริมาณรถ เรือ ซึ่งมีอยู่จำนวนมาก ควรจะต้องมีการควบคุม รถแท็กซี่ป้ายเขียวควรจะต้องมีมิเตอร์ เพื่อความเป็นธรรมต่อผู้ใช้บริการ นอกจากนั้น ยังรวมไปถึงรถเช่าที่ยึดที่สาธารณะในการจอดรถ โดยจะต้องเสียภาษีให้แก่จังหวัดภูเก็ต ส่วนเรื่องการจัดระเบียบชายหาดพื้นที่ 10% รายได้ไปอยู่ที่ใคร คิดว่าเงินจากส่วนนี้ควรจะทำเข้ารัฐ
ด้านนายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ปัญหาเรื่องของไกด์เป็นปัญหาอีกอย่างหนึ่งที่จะต้องได้รับการแก้ไข ปัจจุบันต้องยอมรับว่าได้ภาษาเฉพาะมีไม่เพียงพอ เราจะทำอย่างไรในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว และทำให้ไกด์ที่มีอยู่หันมาศึกษา และเรียนรู้ภาษาเฉพาะ เช่น รัสเซีย เกาหลี เพื่อให้มีจำนวนเพียงพอในการบริการนักท่องเที่ยว
ส่วนนายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ กล่าวว่า จากการรับฟังพบว่าปัญหาของจังหวัดภูเก็ตที่จะต้องมีการจัดระเบียบมีหลายปัญหา ไม่ว่าจะเป็นปัญหาจัดระเบียบชายหาด การจอดรถเช่า การบุกรุกที่ดินสาธารณะ ปัญหาที่เกิดขึ้นในท่าอากาศยาน ปัญหาแรงงาน มัคคุเทศก์ แท็กซี่ รถป้ายเขียว รถสาธารณะ รถให้เช่า นักท่องเที่ยวไม่มีใบขับขี่ และอื่นๆ การจัดระเบียบโรงแรมคอนโด คิดว่าควรจะต้องคณะทำงานขึ้นมาดูแลเป็นเรื่องๆ เพื่อให้สามารถติดตามตรวจสอบและดำเนินการแก้ไขปัญหาให้เห็นเป็นรูปธรรม
เช่นเดียวกับผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การดำเนินการนั้นจะต้องทำงานเป็นทีม เพื่อให้การแก้ไขปัญหาเห็นผล
ขณะที่แม่ทัพภาค 4 กล่าวสรุปก่อนที่จะปิดการประชุม ว่า การดำเนินการทุกอย่างจะต้องยึดกฎหมายเป็นหลัก หากมีการประท้วงปิดถนนก็ให้บังคับใช้กฎหมายเป็นหลัก ที่คุยไม่เข้าใจห้องขังมี ส่วนปัญหาเรื่องแรงงาน เป็นปัญหาโลกแตกมานานแล้ว ในส่วนของจังหวัดภูเก็ตมีคนที่เกี่ยวข้องต่อขบวนการค้ามนุษย์อยู่ 2-3 ราย ซึ่งบุคคลเหล่านี้จะต้องหาให้เจอ และจัดการขั้นเด็ดการจับทุกเม็ด เช่นเดียวกับบ่อนการพนันทุกชนิด จะต้องไม่มีในพื้นที่ ถ้ามีก็ขอให้หยุด เพราะทุกเรื่องยืนยันว่าจะต้องดำเนินการตามกฎหมาย โดยชั่งน้ำหนักเอาประโยชน์ของประชาชน และประเทศชาติเป็นหลัก นักท่องเที่ยวรองลงมา
อย่างไรก็ตาม หลังการประชุม พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน ว่า ในการเดินทางภูเก็ตครั้งนี้เพื่อมาช่วยผู้ว่าฯ ในการทำงาน และมาดูแลการจัดระเบียบที่ภูเก็ต ซึ่งนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต มีความห่วงใย ที่จริงไม่มีอะไร ปกติดี นักท่องเที่ยวก็เข้ามาเที่ยว ก็มาดูว่าทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต จะให้ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ไม่ว่าจะเรื่องการจัดระเบียบกลุ่มผู้มีอิทธิพล รถแท็กซี่ ทุกสิ่งทุกอย่างต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ไม่มีใครจะอยู่เหนือกฎหมาย ซึ่งในรายละเอียดต่างๆ จะมีการประชุมกันอีกในวันสองวันนี้ เพื่อหาผู้รับผิดชอบ เราจะทำให้ดีขึ้น โดยยึดชาวบ้านเป็นหลัก ต้องมีอาชีพมีรายได้ นักท่องเที่ยว ผู้ประกอบการ ต้องดูแลความปลอดภัยให้เขา
อย่างไรก็ตาม สำหรับภูเก็ตตอนนี้สิ่งที่ต้องทำเร่งด่วน คือ เรื่องของคน เอาคนมาทำงานให้ได้ อิทธิพลต้องไม่มี ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ หรือเอกชน ถ้ายังใช้อิทธิพลอยู่ขอให้หยุด ถ้ายังไม่หยุดก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย เอาคนทั้งภาครัฐ เอกชนมาช่วยงานผู้ว่าราชการจังหวัด และทางเราก็จะส่งเจ้าหน้าที่มาดูแลทุกวัน จะทำให้ดีที่สุด และเร็วที่สุด เพื่อประชาชนมีอาชีพ มีรายได้ ส่วนกรณีรถเช่าเราต้องมาจัดระเบียบกันใหม่ จะต้องมีมิเตอร์ให้เป็นสากล และการแก้ปัญหากรณีรถเช่า ซึ่งใช้ที่จอดรถสาธารณะริมชายหาดเป็นที่จอดรถเช่านั้น อย่างแรกตั้งคณะทำงาน เชิญผู้ประกอบการรถเช่า ซึ่งรถเช่า ผู้ประกอบการรถเช่าไม่น่าจะมีปัญหา แต่ผู้ที่อยู่เหนือผู้ประกอบการรถเช่า ก็จะเชิญมาคุยกัน ต้องอยู่ในโซนที่เราจัดไว้ ซึ่งจะมีการว่ากล่าวตักเตือน ครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 แต่ต้องไม่มีครั้งที่ 3 ส่วนการจัดเรียบชายหาด โซน 10 เปอร์เซ็นต์ ต้องเหมือนเดิมทุกอย่าง จะให้ประชาชนเป็นหลัก
ขณะที่กรณีกลุ่มผู้ประกอบการสถานบันเทิงหาดป่าตองขอขยายเวลาปิดสถานบันเทิงออกไป นั้น พล.ท.ปิยวัฒน์ กล่าวว่า ที่เปิดเกินก็ต้องปิดตามเวลาที่กฎหมายกำหนด แต่ก็ได้เรียนต่อทางผู้ว่าฯ ซึ่งเป็นการคุยกันในเบื้องต้น ถ้าจะให้เปิดเกินก็ต้องทำกฎหมายใหม่เพิ่มเติมเข้ามา ช่วงรอกฎหมายที่จะขยายเวลาปิดสถานบันเทิง จะมีการอะลุ่มอล่วยให้เปิดเกินเวลาได้หรือไม่นั้น รอพิจารณาอีกครั้ง เราจะประชุมกันทุกวันเป็นกลุ่มๆ กันไป ว่าใครทำอะไร ตรงไหน เมื่อไหร่ อย่างไร
ส่วนการรวมตัวกันประท้วงเมื่อมีการจัดระเบียบเกิดขึ้นนั้น พล.ท.ปิยวัฒน์ กล่าวว่า การประท้วงเป็นเรื่องของสิทธิของเขา เราก็ต้องคุยกันด้วยเหตุผล จะมีอยู่กลุ่มเดียวที่ประท้วงคือ กลุ่มมีอิทธิพล กลุ่มเสียผลประโยชน์ ซึ่งเรื่องนี้อาจจะใช้วิธีการพูดคุยก่อน แต่ถ้าคุยไม่รู้เองก็ต้องว่ากันตามกฎหมาย