นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง ข้อเสนอแนะต่อร่างรัฐธรรมนูญ ของคสช. ที่ส่งไปให้ กรธ. ว่า เป็นการบอกให้ทราบว่า มีอะไรที่ แม่น้ำ 4 สาย ยังวิตก ต่อสถานการณ์หลังจากวันเลือกตั้งไปแล้ว ว่ามีอะไรที่อาจจะเกิด หรือไม่เกิด เมื่อบอกความวิตกตรงนี้ให้ทราบแล้ว ก็ช่วยกรุณารับไว้พิจารณาเพื่อดำเนินการ จึงไม่ใช่การบังคับ และบังคับไม่ได้ อย่าลืมว่า นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. เป็นสมาชิก คสช. คนหนึ่ง แต่การส่งเป็นข้อเสนอครั้งนี้ เพราะต้องการส่งสัญญาณไปถึง กรธ. 21 คน มากกว่า ว่ามีอะไรที่เราวิตกกังวล เนื่องจากอีก 20 คน ไม่ได้มาเป็นคสช. ด้วย จะได้เห็นพร้อมกันทั้งหมด 21 คน ไม่เช่นนั้น นายมีชัย จะแบกภาระอยู่คนเดียว
ส่วนที่นายกฯระบุว่า จะส่งไปจนกว่า กรธ.จะพิจารณานั้น เป็นสไตล์ของท่าน ถ้าสื่อต่อปากมา ท่านก็ต่อคำไป ไม่ใช่การกดดัน กรธ.
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุใดจึงให้มี ส.ว.จำนวนมากถึง 250 คน นายวิษณุ กล่าวว่า การเลือกตั้งนั้น เป็นสิ่งที่ควรเคารพ แต่ไม่อยากบิดเบือนเสียงที่มาจากการเลือกตั้งไปสู่ประโยชน์ส่วนตัว ดังนั้นจึงต้องให้สมาชิกสภาในระยะแต่งตั้งชุดหนึ่ง จำนวนหนึ่ง เข้ามามีส่วนที่จำนวนมากพอประมาณ แต่ไม่เอาเรื่องสิทธิ การเลือกนายกฯ
ส่วนที่ต้องให้มี ผบ.เหล่าทัพไปเป็น ส.ว. เพราะว่า เมื่อจะต้องใช้ระบบแต่งตั้ง แทนที่จะไปแต่งตั้งใคร ก็ขอเอาไว้ 6 ที่ จากจำนวน 250 คน เพื่ออย่างน้อยทำให้อุ่นใจ เกิดความรู้สึกว่าถ้าจะปรองดองกัน จะแก้ไขสถานการณ์กัน จะมีคนที่เป็นหลักประกันความมั่นคงของชาติอยู่ เมื่อผบ.เหล่าทัพ เกษียณก็ต้องพ้นจากส.ว.ไป เพราะเป็นส.ว.โดยตำแหน่ง จะว่าดีหรือไม่ดี ก็แล้วแต่ แต่เจตนาคือ เพื่อรับประกันด้านความมั่นคง นอกจากนี้ แม้ ผบ.เหล่าทัพจะมีสิทธิ์เป็นประธานวุฒิสภา แต่คงไม่มีใครเอา เพราะเป็นข้าราชการประจำ งานต่างๆ มากมาย คงดูไม่จืด
เมื่อถามว่า จะถูกมองว่าฝ่ายความมั่นคง เข้าไปแทรกแซงงานนิติบัญญัติ หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ถ้ารัฐธรรมนูญให้สามารถทำได้ ไม่ถือเป็นการแทรกแซง เมื่อถามว่าคณะกรรมการสรรหา ส.ว. จะเป็นรูปแบบใด นายวิษณุ กล่าวว่า ถ้า กรธ.ยอมรับตามความคิดตรงนี้ของคสช. กรธ.จะต้องไปกำหนดเองว่า จะคัดสรรอย่างไร เป็นใครมาจากไหน คสช. คิดให้ไม่ออก และไม่กล้าคิด
เมื่อถามว่า เป็นห่วงหรือไม่ว่า ข้อเสนอของ คสช. จะทำให้ร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติ รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่มีใครพูดเรื่องนี้ เพราะที่สุดจะต้องเข้าสู่ประชามติ แต่เราอยากจะเห็นรัฐธรรมนูญผ่าน โดยที่สามารถเอาไปใช้กับสถานการณ์บ้านเมืองได้โดยเรียบร้อย ถ้าจะไม่ผ่านมาตรการทั้งหมด จะไม่ได้นำมาใช้ ก็ต้องทำรัฐธรรมนูญใหม่อยู่ดี และต้องเอาสิ่งอย่างเดียวกันไปคิดอยู่ดี
อย่างไรก็ตาม เราจะตั้งหลักด้วยความรู้สึกว่า ไม่ผ่านได้อย่างไร ต้องพูดในความรู้สึกว่า มันผ่าน ซึ่งแม่น้ำ 4 สาย มีความรู้สึกว่าน่าจะผ่าน
เมื่อถามว่า หากต้องร่างรัฐธรรมนูญใหม่ จะไม่กระทบโรดแมป ใช่หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า อาจจะยืดไปหน่อยได้ แต่ถึงอย่างไรต้องเลือกตั้งในปี 60
เมื่อถามว่า การยกเว้นไม่ต้องเสนอชื่อผู้ที่จะมาเป็นนายกฯ 3 รายชื่อ ก่อนจะเป็นการเปิดช่องให้สภาผู้แทนราษฎร สามารถหยิบจับชื่อใครก็ได้มาเป็นนายกฯ หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ถูก ไม่ได้ห้ามใครเลย แต่นายกฯ จะมาจากพวกที่มาจากการเลือกตั้งเป็นคนเลือก คือ ส.ส. ไม่เกี่ยวกับ ส.ว. ซึ่งในเมื่อส.ส.มี 500 คน แล้วยังจะไปเลือกข้างนอกอีก แล้วจะทำอย่างไร โดยหลักแล้วก็ควรจะเลือกคนใน เลือกคนในพรรคของคุณ
ต่อข้อถามว่า เมื่อมีการเลือกตั้งแล้ว อดีต คสช. และ ส.ว. ก็เป็นนายกฯได้ ใช่หรือไม่ รองนายกฯย้ำว่า ใช่ เพราะไม่ได้ห้ามใครนอกจากข้าราชการประจำ แต่การไม่ได้ห้าม ไม่ได้แปลว่าเชียร์ที่จะให้มาเป็น
เมื่อถามว่า ถ้านายกฯ เป็นคนที่ ส.ว.ไม่ชอบ ก็มีสิทธิ์จะถูกถอดถอนได้ รองนายกฯ กล่าวว่า เสียงแค่นั้นเอาออกได้หรือ เพราะครึ่งหนึ่งของเสียงทั้งหมดของสภามี 750 คือ 375 แต่ ส.ว.มี 250 คน เมื่อถามย้ำว่า แต่ถ้ารวมกับฝ่ายค้าน เสียงก็จะถึงครึ่งหนึ่ง รองนายกฯ กล่าวว่า ก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะแค่ลำพังส.ส. ที่มี 500 คน ถ้าฝ่ายค้านมีมาก ก็เอาออกได้อยู่ดี ซึ่งเหมือนกัน ความเสี่ยงเกิดได้ทั้งหมด แต่ถ้ารัฐบาลดี มีธรรมาภิบาล ส.ว.จะได้ช่วยประคับประคอง แต่ถ้าเป็นรัฐบาลไม่ดี แต่ ส.ส.ปกป้อง เสียงส.ส.ส่วนหนึ่งเอาออกไม่ได้ ส.ว.ก็อาจจะเข้ามาได้ ดังนั้น มันเกิดได้ทั้งหมดถ้าจะสมมุติ
ส่วนที่นายกฯระบุว่า จะส่งไปจนกว่า กรธ.จะพิจารณานั้น เป็นสไตล์ของท่าน ถ้าสื่อต่อปากมา ท่านก็ต่อคำไป ไม่ใช่การกดดัน กรธ.
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุใดจึงให้มี ส.ว.จำนวนมากถึง 250 คน นายวิษณุ กล่าวว่า การเลือกตั้งนั้น เป็นสิ่งที่ควรเคารพ แต่ไม่อยากบิดเบือนเสียงที่มาจากการเลือกตั้งไปสู่ประโยชน์ส่วนตัว ดังนั้นจึงต้องให้สมาชิกสภาในระยะแต่งตั้งชุดหนึ่ง จำนวนหนึ่ง เข้ามามีส่วนที่จำนวนมากพอประมาณ แต่ไม่เอาเรื่องสิทธิ การเลือกนายกฯ
ส่วนที่ต้องให้มี ผบ.เหล่าทัพไปเป็น ส.ว. เพราะว่า เมื่อจะต้องใช้ระบบแต่งตั้ง แทนที่จะไปแต่งตั้งใคร ก็ขอเอาไว้ 6 ที่ จากจำนวน 250 คน เพื่ออย่างน้อยทำให้อุ่นใจ เกิดความรู้สึกว่าถ้าจะปรองดองกัน จะแก้ไขสถานการณ์กัน จะมีคนที่เป็นหลักประกันความมั่นคงของชาติอยู่ เมื่อผบ.เหล่าทัพ เกษียณก็ต้องพ้นจากส.ว.ไป เพราะเป็นส.ว.โดยตำแหน่ง จะว่าดีหรือไม่ดี ก็แล้วแต่ แต่เจตนาคือ เพื่อรับประกันด้านความมั่นคง นอกจากนี้ แม้ ผบ.เหล่าทัพจะมีสิทธิ์เป็นประธานวุฒิสภา แต่คงไม่มีใครเอา เพราะเป็นข้าราชการประจำ งานต่างๆ มากมาย คงดูไม่จืด
เมื่อถามว่า จะถูกมองว่าฝ่ายความมั่นคง เข้าไปแทรกแซงงานนิติบัญญัติ หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ถ้ารัฐธรรมนูญให้สามารถทำได้ ไม่ถือเป็นการแทรกแซง เมื่อถามว่าคณะกรรมการสรรหา ส.ว. จะเป็นรูปแบบใด นายวิษณุ กล่าวว่า ถ้า กรธ.ยอมรับตามความคิดตรงนี้ของคสช. กรธ.จะต้องไปกำหนดเองว่า จะคัดสรรอย่างไร เป็นใครมาจากไหน คสช. คิดให้ไม่ออก และไม่กล้าคิด
เมื่อถามว่า เป็นห่วงหรือไม่ว่า ข้อเสนอของ คสช. จะทำให้ร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติ รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่มีใครพูดเรื่องนี้ เพราะที่สุดจะต้องเข้าสู่ประชามติ แต่เราอยากจะเห็นรัฐธรรมนูญผ่าน โดยที่สามารถเอาไปใช้กับสถานการณ์บ้านเมืองได้โดยเรียบร้อย ถ้าจะไม่ผ่านมาตรการทั้งหมด จะไม่ได้นำมาใช้ ก็ต้องทำรัฐธรรมนูญใหม่อยู่ดี และต้องเอาสิ่งอย่างเดียวกันไปคิดอยู่ดี
อย่างไรก็ตาม เราจะตั้งหลักด้วยความรู้สึกว่า ไม่ผ่านได้อย่างไร ต้องพูดในความรู้สึกว่า มันผ่าน ซึ่งแม่น้ำ 4 สาย มีความรู้สึกว่าน่าจะผ่าน
เมื่อถามว่า หากต้องร่างรัฐธรรมนูญใหม่ จะไม่กระทบโรดแมป ใช่หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า อาจจะยืดไปหน่อยได้ แต่ถึงอย่างไรต้องเลือกตั้งในปี 60
เมื่อถามว่า การยกเว้นไม่ต้องเสนอชื่อผู้ที่จะมาเป็นนายกฯ 3 รายชื่อ ก่อนจะเป็นการเปิดช่องให้สภาผู้แทนราษฎร สามารถหยิบจับชื่อใครก็ได้มาเป็นนายกฯ หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ถูก ไม่ได้ห้ามใครเลย แต่นายกฯ จะมาจากพวกที่มาจากการเลือกตั้งเป็นคนเลือก คือ ส.ส. ไม่เกี่ยวกับ ส.ว. ซึ่งในเมื่อส.ส.มี 500 คน แล้วยังจะไปเลือกข้างนอกอีก แล้วจะทำอย่างไร โดยหลักแล้วก็ควรจะเลือกคนใน เลือกคนในพรรคของคุณ
ต่อข้อถามว่า เมื่อมีการเลือกตั้งแล้ว อดีต คสช. และ ส.ว. ก็เป็นนายกฯได้ ใช่หรือไม่ รองนายกฯย้ำว่า ใช่ เพราะไม่ได้ห้ามใครนอกจากข้าราชการประจำ แต่การไม่ได้ห้าม ไม่ได้แปลว่าเชียร์ที่จะให้มาเป็น
เมื่อถามว่า ถ้านายกฯ เป็นคนที่ ส.ว.ไม่ชอบ ก็มีสิทธิ์จะถูกถอดถอนได้ รองนายกฯ กล่าวว่า เสียงแค่นั้นเอาออกได้หรือ เพราะครึ่งหนึ่งของเสียงทั้งหมดของสภามี 750 คือ 375 แต่ ส.ว.มี 250 คน เมื่อถามย้ำว่า แต่ถ้ารวมกับฝ่ายค้าน เสียงก็จะถึงครึ่งหนึ่ง รองนายกฯ กล่าวว่า ก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะแค่ลำพังส.ส. ที่มี 500 คน ถ้าฝ่ายค้านมีมาก ก็เอาออกได้อยู่ดี ซึ่งเหมือนกัน ความเสี่ยงเกิดได้ทั้งหมด แต่ถ้ารัฐบาลดี มีธรรมาภิบาล ส.ว.จะได้ช่วยประคับประคอง แต่ถ้าเป็นรัฐบาลไม่ดี แต่ ส.ส.ปกป้อง เสียงส.ส.ส่วนหนึ่งเอาออกไม่ได้ ส.ว.ก็อาจจะเข้ามาได้ ดังนั้น มันเกิดได้ทั้งหมดถ้าจะสมมุติ