xs
xsm
sm
md
lg

หม่อมอุ๋ยเบรกรัฐอัดฉีดมั่ว จังหวะศก.ขาลงทำหนี้พุ่ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน360 - ม.ร.ว.ปรีดิยาธรเผยภาคเอกชนไทยปรับตัวได้ดีกับภาวะชะลอตัวของเศรฐกิจ เตือนรัฐกระตุ้นการบริโภคช่วงเศรษฐกิจขาลงเป็นการสร้างหนี้เพิ่ม หนุนให้จ่ายเงินตรงให้เกษตรกร

ในงาน 100 ปีชาตกาลศาสตราจารย์ ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วานนี้ (10 มี.ค.) ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตผู้ว่าการ ธปท. กล่าวถึงเศรษฐกิจไทยว่า ยังคงชะลอตัว เนื่องจากขาดกำลังซื้อ เป็นไปตามเศรษฐกิจโลกที่คำสั่งซื้อลดลง ภาคเอกชนไทยได้ปรับตัวและระมัดระวังด้วยการดูแลสินค้าคงคลังไม่ให้สูงเกินไปและไม่ก่อหนี้เพิ่ม ซึ่งเอกชนไทยปรับตัวรับกับสถานการณ์ได้ดี ดังนั้นรัฐบาลจึงไม่ต้องกังวลมากนักและปล่อยให้เอกชนดำเนินธุรกิจไปตามปกติ

ทั้งนี้ สิ่งที่รัฐบาลต้องดำเนินการคือดูแลเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากราคาพืชผลทางการเกษตรที่ตกต่ำ ทั้งข้าวและยางพารา ซึ่งการให้เงินช่วยเหลือโดยตรง แต่รัฐควรระมัดระวังมาตรการกระตุ้นการบริโภคในภาวะเศรษฐกิจขาลง โดยเฉพาะการกระตุ้นการซื้อที่อยู่อาศัย หรือการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตที่จะส่งผลให้เกิดการก่อหนี้เพิ่ม ทำให้หนี้ครัวเรือนสูงขึ้น"

ม.ร.ว.ปรีดิยาธรมองว่า การใช้มาตรการในการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงขาลง ต้องใช้อย่างฉลาดและเหมาะสม เพราะหากใช้ในทางที่ผิด จะเกิดผลลบมากกว่า ซึ่งในภาวะเศรษฐกิจขาลง ควรกระตุ้นให้เอกชนลงทุนในอุตสาหกรรมใหม่ที่มีเทคโนโลยีสูงเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เตรียมพร้อมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกในอีก 2 ปีข้างหน้า เพื่อให้การผลิตสินค้าของไทยทำได้ตามความต้องการของตลาดยุคใหม่ นอกจากนี้ให้จับตาสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่เป็นปัจจัยหลักในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ หากราคาน้ำมันยังไม่สูงขึ้น เศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวได้ยาก

"เศรษฐกิจขณะนี้แก้ปัญหาด้วยนโยบายการเงินไม่น่าจะได้ผล เพราะปัญหาไม่ได้เป็นเพราะดอกเบี้ยแพง หรือขาดสินเชื่อ แต่เป็นเพราะขาดคำสั่งซื้อ ขายของได้น้อยลง จากภาวะเศรษฐกิจและตลาดการค้าโลก โดยขณะนี้การดำเนินนโยบายการเงินยังเป็นไปได้ดี ซึ่งผมไม่เป็นห่วงและผมเชื่อมั่นการทำงานของผู้ว่าการคนปัจจุบัน"

อดีตผู้ว่าการ ธปท.ยังกล่าวในฐานะผู้จัดงานว่า ขอเป็นตัวแทนของลูกหลานและลูกศิษย์ ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ และขอขอบคุณ นายอัมมาร สยามวาลา ที่เป็นผู้เขียนประวัติของ ดร.ป๋วย เพื่อเสนอต่ออยู่ ยูเนสโก จนได้รับประกาศให้เป็นบุคคลดีเด่นทางด้านการศึกษาในปีนี้ จากผู้เสนอทั้งหมด 58 คน30 ประเทศทั่วโลก

“อาจารย์อัมมารได้ดึงจุดเด่นของ ดร.ป๋วย โดยเฉพาะบทบาทด้านการศึกษา นำมาร้อยเรียงเขียนในบันทึกประวัติ คือ การรักความถูกต้อง ความซื่อสัตย์และสุจริต พร้อมทั้งการยืนหยัดต่อผู้มีอำนาจเพื่อความถูกต้องของงานที่ทำ”

ขณะที่ การเสวนาในหัวข้อเรื่อง แนวคิดทางด้านการศึกษาของ ดร.ป๋วย นั้น ศ.เกริกเกียรติ พิพัฒน์เสรีธรรม กล่าวว่า เด็กทุกคนต้องได้รับการศึกษา ซึ่งที่ผ่านมาระบบการศึกษาของไทยถือว่ามีปัญหาสะสมมากมาย ทั้งด้านโครงสร้างการบริหารจัดการการศึกษาที่ไม่สอดคล้องกัน จนทำให้คุณภาพการศึกษาของไทยด้อยลง

“หากเปรียบเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้ว จะให้ความสำคัญกับงบประมาณในการพัฒนาด้านการศึกษา ถึงร้อยละ 60 - 70 ขณะที่ไทยอยู่ที่ประมาณร้อยละ 30 - 40 ดังนั้นไทยจึงต้องเพิ่มงบประมาณเพื่อการพัฒนาทางด้านการศึกษา ดังนั้นต้องเริ่มจากการวางรากฐานด้านเศรษฐกิจให้มั่นคง เมื่อเศรษฐกิจดีก็จะมีงบประมาณเพียงพอ” ศ.เกริกเกียรติกล่าว.
กำลังโหลดความคิดเห็น