ผู้จัดการรายวัน360-กองแผนงานอาชญากรรม สตช. ยัน "พล.ร.อ.พะจุณณ์" เข้าข่ายกระทำความผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กรณีแชทกล่าวหาซื้อขายเก้าอี้ ออกหมายเรียกให้มาพบ 10 มี.ค.นี้ "จักรทิพย์"ยันแม้จะเคารพรัก แต่ต้องทำเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีองค์กร ด้าน "บิ๊กป้อม"ถามหาหลักฐาน ขณะที่ "ชาญชัย" ยันอีกรอบ มีซื้อขายตำแหน่งจริง
พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผู้บังคับการกองแผนงานอาชญากรรม สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีการออกหมายเรียก พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ และอดีตหัวหน้าสำนักงานมูลนิธิรัฐบุรุษ เข้าพบเพื่อแจ้งข้อหาในฐานความผิดตาม พ.ร.บ.การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ หลังพบการแชทในแอปพลิเคชั่นไลน์ ระบุว่า มีพล.อ. เข้าไปเกี่ยวข้องการซื้อขายตำแหน่งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้สอบสวนพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องไปแล้วทั้งสิ้น 8 ราย โดยข้อมูลที่สอบสวนมีความชัดเจนและเชื่อได้ว่าบุคลที่โพสต์ข้อความมีความผิดจริง พนักงานสอบสวนจึงออกหมายเรียกให้มีพบในวันที่ 10 มี.ค.2559 ในเวลา 10.00 น. โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานและหลักฐานทางเทคนิคอีกเล็กน้อย
"จากการรวบรวมพยานหลักฐาน เบื้องต้นพบว่า มีการกระทำความผิดฐานเผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จ ตามพ.ร.บ.การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14 มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงมีการร้องทุกข์ให้ดำเนินคดี โดยพนักงานสอบสวนของ บก.ปอท. รับคำร้องทุกข์ไว้ ตามคดีอาญาที่ 10/2559 ลงวันที่ 19 ก.พ.2559 ที่ผ่านมา โดยมี พ.ต.ท.อุทัย เหล่าสิล พนักงานสอบสวน บก.ปอท. เป็นผู้ร้องทุกข์ให้ดำเนินคดี โดยมีผู้เสียหายคือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ"
สำหรับคดีดังกล่าว เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นเดือนก.พ.2559 โดยมีข้อความปรากฎอยู่ในกลุ่มไลน์ของอนุกรรมาธิการกิจการตำรวจ ซึ่งมีสมาชิกอยู่ทั้งสิ้น 24 คน ระบุว่ามีการซื้อขายตำแหน่งข้าราชการตำรวจในระดับต่างๆ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) จึงได้สั่งการให้มีการสืบสวนสอบสวนข้อความดังกล่าวจนพบว่ามีการกระทำความผิดจริง จึงได้มอบให้พนักงานสอบสวนบก.ปอท. รับไปดำเนินคดี
พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า ตนยังไม่ได้พูดคุยกับ พล.ร.อ.พะจุณณ์ แม้โดยส่วนตัวแล้ว ตนเองให้ความเคารพพล.ร.อ.พะจุณณ์ มาโดยตลอด แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องขององค์กรที่ถูกกล่าวหาและย่ำยี ซึ่งในฐานะผู้นำองค์กร หากนิ่งเฉย ผู้ใต้บังคับบัญชากว่า 2 แสนนายจะคิดอย่างไร และไม่ทราบว่า พล.ร.อ. พะจุณณ์ ได้ข้อมูลดังกล่าวมาจากไหน
"องค์กรตำรวจมีศักดิ์ศรี จะกล่าวหาลอยๆ ไม่ได้ ส่วนตัวแล้ว ไม่อยากไปกระทบกระทั่งกับใคร รวมถึงอยากฝากไปถึงสื่อมวลชนให้นำเสนอข่าวอย่างสร้างสรรค์ ตรงไปตรงมา ตามจรรยาบรรณ ไม่ยุแยงให้เกิดความขัดแย้งในสังคม"พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าว
ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีตเลขานุการคณะอนุกรรมาธิการปฏิรูปอำนาจหน้าที่และกระบวนการทำงานตำรวจ เพื่อประโยชน์ของประชาชน สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ออกมาเปิดเผยว่ามีการซื้อขายตำแหน่งในวงการตำรวจ ว่า ยืนยันว่าช่วงที่ตนเข้ามา ไม่มีการซื้อขายตำแหน่ง เพราะตั้งแต่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติลงไป เขาต้องดูแลเรื่องนี้ ไม่ใช่เอาตำแหน่งมาขายกัน ถ้ามี คงเป็นการตกเบ็ด และคงไม่ตรวจสอบ เพราะมันไม่มี พอให้เอาหลักฐานมาดู ก็ไม่มี แต่ถ้ามีหลักฐาน ก็บอกมา คนที่เสียเงินให้บอกมา จะได้รู้ว่าเป็นใคร
ขณะที่นายชาญชัย ได้ออกมายืนยันอีกครั้งว่า ไม่ใช่การพูดลอยๆ แต่เป็นการพูดที่มีบันทึกเป็นหลักฐานชัดเจนในที่ประชุมคณะอนุกรรมาธิการ และคนพูดเป็นอดีตตำรวจยศ พล.ต.ท. ที่ใกล้ชิดกับทั้ง พล.อ.ประวิตร และ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. หากอยากทราบว่าเป็นใคร ชื่ออะไร พูดรายละเอียดว่าอย่างไร ในเรื่องการซื้อขายตำแหน่งตำรวจ ตนจะรวบรวมข้อมูลบันทึกการประชุมให้ พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป ประธานอนุกมธ.ฯ เพื่อทำหนังสือพร้อมหลักฐานส่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ต่อไป
ทั้งนี้ ยังได้รับการติดต่อจาก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส อดีต ผบ.ตร. ที่ยืนยันว่าพร้อมจะนำพยานบุคคลที่เป็นตำรวจ ที่เคยเสียเงินในการซื้อตำแหน่งมาเบิกความเป็นพยานในชั้นศาลให้ด้วย
พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผู้บังคับการกองแผนงานอาชญากรรม สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีการออกหมายเรียก พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ และอดีตหัวหน้าสำนักงานมูลนิธิรัฐบุรุษ เข้าพบเพื่อแจ้งข้อหาในฐานความผิดตาม พ.ร.บ.การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ หลังพบการแชทในแอปพลิเคชั่นไลน์ ระบุว่า มีพล.อ. เข้าไปเกี่ยวข้องการซื้อขายตำแหน่งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้สอบสวนพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องไปแล้วทั้งสิ้น 8 ราย โดยข้อมูลที่สอบสวนมีความชัดเจนและเชื่อได้ว่าบุคลที่โพสต์ข้อความมีความผิดจริง พนักงานสอบสวนจึงออกหมายเรียกให้มีพบในวันที่ 10 มี.ค.2559 ในเวลา 10.00 น. โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานและหลักฐานทางเทคนิคอีกเล็กน้อย
"จากการรวบรวมพยานหลักฐาน เบื้องต้นพบว่า มีการกระทำความผิดฐานเผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จ ตามพ.ร.บ.การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14 มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงมีการร้องทุกข์ให้ดำเนินคดี โดยพนักงานสอบสวนของ บก.ปอท. รับคำร้องทุกข์ไว้ ตามคดีอาญาที่ 10/2559 ลงวันที่ 19 ก.พ.2559 ที่ผ่านมา โดยมี พ.ต.ท.อุทัย เหล่าสิล พนักงานสอบสวน บก.ปอท. เป็นผู้ร้องทุกข์ให้ดำเนินคดี โดยมีผู้เสียหายคือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ"
สำหรับคดีดังกล่าว เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นเดือนก.พ.2559 โดยมีข้อความปรากฎอยู่ในกลุ่มไลน์ของอนุกรรมาธิการกิจการตำรวจ ซึ่งมีสมาชิกอยู่ทั้งสิ้น 24 คน ระบุว่ามีการซื้อขายตำแหน่งข้าราชการตำรวจในระดับต่างๆ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) จึงได้สั่งการให้มีการสืบสวนสอบสวนข้อความดังกล่าวจนพบว่ามีการกระทำความผิดจริง จึงได้มอบให้พนักงานสอบสวนบก.ปอท. รับไปดำเนินคดี
พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า ตนยังไม่ได้พูดคุยกับ พล.ร.อ.พะจุณณ์ แม้โดยส่วนตัวแล้ว ตนเองให้ความเคารพพล.ร.อ.พะจุณณ์ มาโดยตลอด แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องขององค์กรที่ถูกกล่าวหาและย่ำยี ซึ่งในฐานะผู้นำองค์กร หากนิ่งเฉย ผู้ใต้บังคับบัญชากว่า 2 แสนนายจะคิดอย่างไร และไม่ทราบว่า พล.ร.อ. พะจุณณ์ ได้ข้อมูลดังกล่าวมาจากไหน
"องค์กรตำรวจมีศักดิ์ศรี จะกล่าวหาลอยๆ ไม่ได้ ส่วนตัวแล้ว ไม่อยากไปกระทบกระทั่งกับใคร รวมถึงอยากฝากไปถึงสื่อมวลชนให้นำเสนอข่าวอย่างสร้างสรรค์ ตรงไปตรงมา ตามจรรยาบรรณ ไม่ยุแยงให้เกิดความขัดแย้งในสังคม"พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าว
ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีตเลขานุการคณะอนุกรรมาธิการปฏิรูปอำนาจหน้าที่และกระบวนการทำงานตำรวจ เพื่อประโยชน์ของประชาชน สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ออกมาเปิดเผยว่ามีการซื้อขายตำแหน่งในวงการตำรวจ ว่า ยืนยันว่าช่วงที่ตนเข้ามา ไม่มีการซื้อขายตำแหน่ง เพราะตั้งแต่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติลงไป เขาต้องดูแลเรื่องนี้ ไม่ใช่เอาตำแหน่งมาขายกัน ถ้ามี คงเป็นการตกเบ็ด และคงไม่ตรวจสอบ เพราะมันไม่มี พอให้เอาหลักฐานมาดู ก็ไม่มี แต่ถ้ามีหลักฐาน ก็บอกมา คนที่เสียเงินให้บอกมา จะได้รู้ว่าเป็นใคร
ขณะที่นายชาญชัย ได้ออกมายืนยันอีกครั้งว่า ไม่ใช่การพูดลอยๆ แต่เป็นการพูดที่มีบันทึกเป็นหลักฐานชัดเจนในที่ประชุมคณะอนุกรรมาธิการ และคนพูดเป็นอดีตตำรวจยศ พล.ต.ท. ที่ใกล้ชิดกับทั้ง พล.อ.ประวิตร และ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. หากอยากทราบว่าเป็นใคร ชื่ออะไร พูดรายละเอียดว่าอย่างไร ในเรื่องการซื้อขายตำแหน่งตำรวจ ตนจะรวบรวมข้อมูลบันทึกการประชุมให้ พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป ประธานอนุกมธ.ฯ เพื่อทำหนังสือพร้อมหลักฐานส่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ต่อไป
ทั้งนี้ ยังได้รับการติดต่อจาก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส อดีต ผบ.ตร. ที่ยืนยันว่าพร้อมจะนำพยานบุคคลที่เป็นตำรวจ ที่เคยเสียเงินในการซื้อตำแหน่งมาเบิกความเป็นพยานในชั้นศาลให้ด้วย