“การบินไทย”ยังไม่พ้นน้ำ ปิดงบปี 58 ขาดทุนสุทธิ 1.3 หมื่นล. ลดลงจากปีก่อนกว่า2.5 พันล. ขณะที่ราคาน้ำมันลดลงไม่ช่วยมาก เหตุธุรกิจการบินแข่งขันราคารุนแรง แถมรายได้ค่าธรรมเนียมน้ำมันลดลงด้วย ด้าน“จรัมพร”เผยปี 59 เดินเครื่องเต็มสูบ รุกเปิดบินตลาดอาเซียน ฟื้นเส้นทางมอสโก ตั้งงบ 2พันล.ลดพนักงาน พร้อมเร่งขายเครื่องปลดระวาง 14 ลำ หวั่นขายไม่ออกทำบันทึกด้อยค่าฯเพิ่ม ฉุดปี 59 ไม่เข้าเป้า
นายจรัพร โชติกเสถียร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดว่า ในปี 58 บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 13,047 ล้านบาท คิดเป็นขาดทุนต่อหุ้น 5.99 บาท ลดลงจากปีก่อน 2,526 ล้านบาท โดยมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 3,512 ล้านบาท และมีผลขาดทุนจากการด้อยค่าของทรัพย์สินและเครื่องบินถึง 12,157 ล้านบาท โดยในปี 2558 มีรายได้รวม 188,747 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 1.2% ซึ่งในส่วนนี้เป็นรายได้จากค่าโดยสารและค่าน้ำหนักส่วนเกิน 152,488 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 1.5% มีอัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) เฉลี่ยที่ 72.9%เพิ่มขึ้นจากปีก่อนซึ่งมี Cabin Factor เฉลี่ย 68.9% มีจำนวนผู้โดยสาร 21.25 ล้านคนเพิ่มขึ้น 11.3% แต่รายได้ต่อคนต่อกิโลเมตร (Yield) ลดลงประมาณ 7%
ในขณะที่รายได้รวมลดลง 1.2% โดยรายได้จากค่าโดยสารลดลง 1.5% และรายได้ค่าระวางขนส่งและไปรษณียภัณฑ์ลดลง 21.0% เนื่องจากการแข่งขันด้านราคา และค่าธรรมเนียมชดเชยค่าน้ำมันลดลง,การแข็งค่าของเงินบาท ส่วนค่าใช้จ่ายดำเนินงานไม่รวมน้ำมันอยู่ที่ 121,242 ล้านบาท ลดลง 7,739 ล้านบาท หรือลดลง6%ขณะค่าใช้จ่ายเฉพาะน้ำมันเครื่องบินลดลง 15,988 ล้านบาท หรือลดลง 20.2%
สำหรับในปี 59 ตามแผนปฏิรูปองค์กรนั้น จะมุ่งการเพิ่มรายได้และขยายธุรกิจมากขึ้น จากปี 2558 ที่เน้นลดรายจ่ายทั้งบุคลากร การปรับลดเส้นทางบิน จำหน่ายเครื่องบิน ซึ่งเชื่อว่าในปี 2559 ผลประกอบการจะมีกำไร โดยตั้งเป้า Cabin Factor เฉลี่ยไว้ที่ 80% โดยมีแผนจะเปิดเส้นทางบินใหม่ และมีแผนจะเปิดบินเส้นทางมอสโกประเทศรัสเซียอีกครั้ง หลังจากหยุดบินไปเมื่อวันที่ 29 มี.ค. 2558 คาดว่าจะเริ่มให้บริการได้ช่วงตารางการบินฤดูหนาวเดือนต.ค.นี้
ซึ่งตามแผนปรับปรุงฝูงบิน (Fleet Strategy) ทำให้ฝูงบิน ณ 31 ธ.ค. 2558 มีจำนวน 95 ลำ ลดลงจากปีก่อนที่มีจำนวน 102 ลำ โดยยังคงเดินหน้า แผนลดค่าใช้จ่ายต่อไปแต่ไม่ถึง 10% เท่ากับปี 2558 ส่วนโครงการร่วมใจจากองค์กร (MSP) สำหรับพนักงานทั่วไป และโครงการ Golden Handshake สำหรับพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินที่มีผู้เข้าร่วมโครงการ 1,401 คน มีผลแล้วในปี 2558 จำนวน 1,277 คน และในปีนี้เตรียมเงินสำหรับการปรับลดพนักงานประมาณ 2,000 ล้านบาท
ด้านนายณรงค์ชัย ว่องธนะวิโมกษ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายการเงินและบัญชี การบินไทย กล่าวเสริมว่า ผลขาดทุนจากการด้อยค่าของทรัพย์สินและเครื่องบินที่สูงถึง 12,157 ล้านบาทนั้น เพราะยังมีเครื่องบินปลดระวางที่รอการขายอีก 14 ลำ ซึ่งเป็นเครื่องบินพิสัยไกลที่เคยใช้บินเส้นทางลอสแองเจลิสกับนิวยอร์ก รวม 10 ลำ คือ แอร์บัส A 340-500 จำนวน 4 ลำ และ A 340-600 จำนวน 6 ลำ และหากในปี 2559 ยังไม่สามารถจำหน่ายได้ การบันทึกด้อยค่าฯก็จะเพิ่มสูงขึ้นอีก.
นายจรัพร โชติกเสถียร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดว่า ในปี 58 บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 13,047 ล้านบาท คิดเป็นขาดทุนต่อหุ้น 5.99 บาท ลดลงจากปีก่อน 2,526 ล้านบาท โดยมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 3,512 ล้านบาท และมีผลขาดทุนจากการด้อยค่าของทรัพย์สินและเครื่องบินถึง 12,157 ล้านบาท โดยในปี 2558 มีรายได้รวม 188,747 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 1.2% ซึ่งในส่วนนี้เป็นรายได้จากค่าโดยสารและค่าน้ำหนักส่วนเกิน 152,488 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 1.5% มีอัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) เฉลี่ยที่ 72.9%เพิ่มขึ้นจากปีก่อนซึ่งมี Cabin Factor เฉลี่ย 68.9% มีจำนวนผู้โดยสาร 21.25 ล้านคนเพิ่มขึ้น 11.3% แต่รายได้ต่อคนต่อกิโลเมตร (Yield) ลดลงประมาณ 7%
ในขณะที่รายได้รวมลดลง 1.2% โดยรายได้จากค่าโดยสารลดลง 1.5% และรายได้ค่าระวางขนส่งและไปรษณียภัณฑ์ลดลง 21.0% เนื่องจากการแข่งขันด้านราคา และค่าธรรมเนียมชดเชยค่าน้ำมันลดลง,การแข็งค่าของเงินบาท ส่วนค่าใช้จ่ายดำเนินงานไม่รวมน้ำมันอยู่ที่ 121,242 ล้านบาท ลดลง 7,739 ล้านบาท หรือลดลง6%ขณะค่าใช้จ่ายเฉพาะน้ำมันเครื่องบินลดลง 15,988 ล้านบาท หรือลดลง 20.2%
สำหรับในปี 59 ตามแผนปฏิรูปองค์กรนั้น จะมุ่งการเพิ่มรายได้และขยายธุรกิจมากขึ้น จากปี 2558 ที่เน้นลดรายจ่ายทั้งบุคลากร การปรับลดเส้นทางบิน จำหน่ายเครื่องบิน ซึ่งเชื่อว่าในปี 2559 ผลประกอบการจะมีกำไร โดยตั้งเป้า Cabin Factor เฉลี่ยไว้ที่ 80% โดยมีแผนจะเปิดเส้นทางบินใหม่ และมีแผนจะเปิดบินเส้นทางมอสโกประเทศรัสเซียอีกครั้ง หลังจากหยุดบินไปเมื่อวันที่ 29 มี.ค. 2558 คาดว่าจะเริ่มให้บริการได้ช่วงตารางการบินฤดูหนาวเดือนต.ค.นี้
ซึ่งตามแผนปรับปรุงฝูงบิน (Fleet Strategy) ทำให้ฝูงบิน ณ 31 ธ.ค. 2558 มีจำนวน 95 ลำ ลดลงจากปีก่อนที่มีจำนวน 102 ลำ โดยยังคงเดินหน้า แผนลดค่าใช้จ่ายต่อไปแต่ไม่ถึง 10% เท่ากับปี 2558 ส่วนโครงการร่วมใจจากองค์กร (MSP) สำหรับพนักงานทั่วไป และโครงการ Golden Handshake สำหรับพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินที่มีผู้เข้าร่วมโครงการ 1,401 คน มีผลแล้วในปี 2558 จำนวน 1,277 คน และในปีนี้เตรียมเงินสำหรับการปรับลดพนักงานประมาณ 2,000 ล้านบาท
ด้านนายณรงค์ชัย ว่องธนะวิโมกษ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายการเงินและบัญชี การบินไทย กล่าวเสริมว่า ผลขาดทุนจากการด้อยค่าของทรัพย์สินและเครื่องบินที่สูงถึง 12,157 ล้านบาทนั้น เพราะยังมีเครื่องบินปลดระวางที่รอการขายอีก 14 ลำ ซึ่งเป็นเครื่องบินพิสัยไกลที่เคยใช้บินเส้นทางลอสแองเจลิสกับนิวยอร์ก รวม 10 ลำ คือ แอร์บัส A 340-500 จำนวน 4 ลำ และ A 340-600 จำนวน 6 ลำ และหากในปี 2559 ยังไม่สามารถจำหน่ายได้ การบันทึกด้อยค่าฯก็จะเพิ่มสูงขึ้นอีก.