xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯชูปรัชญาศก.พอเพียง ตัวแทนG-77ชื่นชมพูดเก่ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เมื่อเวลา 09.00 น. วานนี้ (29ก.พ.) ที่โรงแรมสยามแคมเปนสกี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานกล่าวสุนทรพจน์ ในพิธีเปิดการประชุม“G-77 Bangkok Roundtable on Sufficiency Economy: an Approach to Implementing the Sustainable Development Goals”ตอนหนึ่งว่า นับว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ประเทศไทยได้รับความไว้วางใจให้รับหน้าที่ ประธานกลุ่ม 77 ในปี 2559 นี้ เราจะทำหน้าให้ดีที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการนำวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2030 มาปฏิบัติ
วันนี้โลกของเราประสบความท้าทายเร่งด่วนหลายประการ ทั้งความยากจน ความเหลื่อมล้ำ ภัยพิบัติทางธรรมชาติ ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ระบบการเงินโลกที่อ่อนไหว การแย่งชิงทรัพยากร ความมั่นคงด้านอาหาร พลังงาน การสู้รบ ความรุนแรงทางสังคม และการเมือง และการที่ผู้คนจำนวนมาก ต้องทั้งบ้านเรือนและประเทศชาติของตน อพยพไปยังสังคมอื่นเพื่อความอยู่รอด ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องง่าย หากเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนเป็นสิ่งที่ไกลเกินเอื้อม สำหรับหลายๆ ประเทศ หากเราไม่ช่วยกัน
สำหรับประเทศไทย เรื่องความเหลื่อมล้ำ ยังคงเป็นปัญหาสำคัญของสังคมไทย ช่องว่างระหว่างคนรวยและคนจนกว้างขึ้นทุกที ปัญหาทรัพยากรธรรมชาติ ป่าไม้ถูกทำลาย สิ่งแวดล้อมถูกกระทบ เป็นความท้าทายที่ประเทศไทยมีเช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ และทำให้เราต้องยิ่งให้ความสำคัญกับการพัฒนาเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ และการพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ จุดเปลี่ยนสำคัญของไทยคือ วิกฤติเศรษฐกิจ เมื่อปี 2540 ซึ่งทำให้ไทยตระหนักว่า การพึ่งพาเศรษฐกิจโลก ตลาดส่งออก ตลาดการเงินโลก โดยไม่สร้างความเข้มแข็งและภูมิต้านทานจากภายใน จะทำให้ประเทศไทยอ่อนไหว อ่อนแอ และถูกกระทบได้ง่าย แต่ประเทศไทยโชคดีที่เป็นประเทศที่มีพื้นที่เพาะปลูกกว้างขวาง คนจำนวนมากกลับคืนสู่ชนบท สามารถอยู่ได้อย่างมีความสุข และพอเพียง และไม่ต้องตกเป็นเหยื่อของความไม่แน่นอนของตลาดโลก แต่เราไม่ได้หมายถึงว่าจะปิดประเทศหรือไม่เห็นความสำคัญของตลาดโลก และนี่มักจะเป็นข้อที่คนเข้าใจหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอ เพียงคลาดเคลื่อน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของความรู้ ความเข้าใจ เป็นความพอดี และพอประมาณบนพื้นฐานของเหตุและผลของแต่ละบุคคลซึ่งแตกต่างกันไปตามสถานะ ต้องทำอย่างรู้เท่าทัน และต้องมีคุณธรรม ไม่ทำให้ตัวเองได้ดี แต่ผู้อื่นหรือสังคมเดือดร้อน หรือสิ่งแวดล้อมได้รับผลกระทบ การพัฒนาจะยั่งยืนได้ ต้องมาจากรากฐานของความคิด โดยปัจจัยความสำเร็จของการพัฒนาที่ยั่งยืนทั้งในระดับบุคคล ชุมชน และประเทศชาติ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การปลูกฝังทัศนคติและพฤติกรรมที่เริ่มตั้งแต่ในระดับบุคคล ทั้งในเรื่องการบริโภค การผลิต การดำเนินธุรกิจ การพัฒนาการเกษตร และอุตสาหกรรม ที่คำนึงถึงความยั่งยืน
ประเทศไทยได้น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาเป็นแนวทางในการพัฒนาโดยมีคนเป็นศูนย์กลางมาอย่างยาวนานกว่า 40 ปี เพราะคนเป็นตัวขับเคลื่อนการพัฒนาที่สำคัญที่สุด ประชาชนต้องเข้มแข็ง ตั้งแต่ระดับปัจเจกบุคคล ครอบครัวต้องเข้มแข็ง เมื่อสมาชิกในสังคมเข้มแข็ง ชุมชนเข้มแข็ง ประเทศชาติก็ย่อมเข้มแข็งตามไปด้วย
แนวคิดของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง หรืออีกอย่างหนึ่งเรียกว่า "การระเบิดจากข้างใน" คือพัฒนาชุมชนให้อยู่รอด พอมีพอกิน เข้มแข็ง และมีความพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงเสียก่อน รัฐบาลไทยได้ขับเคลื่อนการพัฒนาตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อสร้างความเข้มแข็งเริ่มจากในระดับหมู่บ้านอย่างเป็นรูปธรรมกว่า 25,000 หมู่บ้าน สร้างวิสาหกิจชุมชน ธุรกิจชุมชน สหกรณ์ สร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น จัดสรรกองทุนหมู่บ้าน เมื่อระบบเศรษฐกิจและสังคมในระดับพื้นฐานของประเทศมีความเข้มแข็งแล้ว ก็จะขยายผลในวงกว้างออกไปสู่ระดับจังหวัด ภูมิภาค ทั้งประเทศ จนถึงขยายสู่ประเทศเพื่อนบ้าน ระบบเศรษฐกิจของภูมิภาคและของโลกต่อไป
ประเทศไทยเชื่อว่า หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มีความเป็นสากล เปรียบเสมือนวัคซีน ที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันจาก “โรค”ที่เกิดจากความประมาท ความไม่แน่นอน และความเสื่อมโทรม อันสืบเนื่องจากผลกระทบทางลบด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ประเทศไทยยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่จะสามารถแบ่งปันตัวอย่างการนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงให้ประเทศต่างๆนำไปประยุกต์ใช้
"ไทยตระหนักดีว่า หลายประเทศมีแนวทาง และหลักปรัชญาในการสนับสนุนการบรรลุการพัฒนาที่ยั่งยืนเป็นของตนเอง ซึ่งไทยพร้อมที่จะแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับประเทศสมาชิกกลุ่ม 77 เพื่อแสวงหา “ความเหมือนในความต่าง”ซึ่งจะเป็นพื้นฐานและโอกาสที่สำคัญในการสนับสนุนกันและกัน ในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน และมุ่งสู่การพัฒนาทางเศรษฐกิจที่ทำให้คนมีความสุขร่วมกัน" นายกฯ กล่าวทิ้งท้าย
นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม กลุ่มที่เป็นผู้แทนต่างประเทศได้เข้ามาแสดงความชื่นชม ในตัว พล.อ.ประยุทธ์ บอกไม่นึกเลยว่า นายกฯของไทยจะรู้เรื่องทุกอย่าง แบบบายฮาร์ท จากหัวใจ คือพูดออกมาได้หมด ทุกเรื่องราวมีการเชื่อมโยงและยังมีผู้แทน ไม่ขอเปิดเผยชื่อจากประเทศตะวันตก บอกว่า อยากให้นายกฯไทย ไปเป็นนายกฯบ้านเขา
"การพูดของนายกฯ ออกนอกสคริปต์เกือบทั้งหมดที่เราได้เขียนไว้ให้ แต่ด้วยความที่รู้เรื่องราวเหล่านี้อย่างลึกซึ้ง ประกอบกับเป็นนโยบายรัฐบาล พร้อมทั้งเปิดโอกาสในนานาประเทศได้นำเสนอวิธีการต่างๆด้วย" รมว.ต่างประเทศ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น