วานนี้ (28ก.พ.) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานคร พร้อมคณะผู้บริหาร ได้เข้าร่วมพิธีบวงสรวงอาคาร "หอสมุดเมืองกรุงเทพมหานคร" ณ บริเวณสี่แยกคอกวัว ถนนราชดำเนิน ซึ่งโครงการหอสมุดเมืองกรุงเทพมหานคร จัดสร้างขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้แห่งใหม่ สำหรับเด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วไป และเป็นต้นแบบหอสมุดระดับประเทศ ที่รวบรวมเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม และมรดกอันเป็นเอกลักษณ์ของกรุงเทพมหานคร ที่มีมาอย่างยาวนาน กว่า 2 ศตวรรษไว้อย่างครบครัน
"สำหรับความเป็นมาของการจัดสร้าง"หอสมุดเมืองกรุงเทพมหานคร" นั้นถือเป็น 1 ใน 9 พันธกิจ ของกรุงเทพมหานคร ที่ได้รับการคัดเลือกจาก องค์การยูเนสโกให้เป็น "เมืองหนังสือโลก ประจำปี 2556" โดยมีจุดเริ่มต้นมาจาก แนวคิดและนโยบายของคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ที่จะผลักดันให้เมืองหลวงของประเทศไทยเป็น"มหานครแห่งการเรียนรู้" โดยแท้จริง
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า "สำหรับอาคารที่จะนำมาใช้สร้างหอสมุดเมืองกรุงเทพมหานคร เป็นอาคารเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในช่วงหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 จนถึงช่วงสงครามโลก (พ.ศ. 2482-2488) ซึ่งเป็นช่วงการออกแบบที่ยังยึดแนวสถาปัตยกรรม Art Deco ดังนั้น การออกแบบหอสมุดเมืองกรุงเทพมหานคร จึงเป็นการผสมผสานระหว่างโครงสร้างอาคารแบบตะวันตก กับศิลปะไทยเข้าด้วยกัน โดยตัวอาคารได้จัดสรรพื้นที่ไว้ทั้งหมด 4 ชั้น (รวมชั้นลอย)
ชั้น 1 ประกอบไปด้วย นิทรรศการหมุนเวียน นิทรรศการถาวร ข้อมูลข่าวสารสำหรับนักท่องเที่ยว ห้องสมุดสำหรับคนพิการ E-Book Internetและ Wi-fi ส่วนชั้นลอย เป็นในส่วนของห้องสมุดสำหรับเด็ก รวบรวมวรรณกรรมสำหรับเด็กและเยาวชน ชั้น 2 มีการรวบรวมหนังสือต่างประเทศ หนังสือทั่วไป หนังสืออ้างอิง มุมศึกษาค้นคว้า และห้องเอนกประสงค์ ชั้น 3 ประกอบไปด้วยหนังสือเพื่อนบ้านอาเซียน ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ หนังสือหายาก หนังสือวรรณกรรมไทย วรรณกรรมอาเซียน และ วรรณกรรมโลก หอจดหมายเหตุ อีกทั้งยังเป็นส่วนของ หอเกียรติยศ (Hall of Fame)ที่รวบรวมประวัติของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร รวมไปถึงประวัติของนักประพันธ์ และกวีแห่งชาติ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังทั้งในอดีตและปัจจุบัน" ผู้ว่าฯกทม. กล่าว
"สำหรับความเป็นมาของการจัดสร้าง"หอสมุดเมืองกรุงเทพมหานคร" นั้นถือเป็น 1 ใน 9 พันธกิจ ของกรุงเทพมหานคร ที่ได้รับการคัดเลือกจาก องค์การยูเนสโกให้เป็น "เมืองหนังสือโลก ประจำปี 2556" โดยมีจุดเริ่มต้นมาจาก แนวคิดและนโยบายของคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ที่จะผลักดันให้เมืองหลวงของประเทศไทยเป็น"มหานครแห่งการเรียนรู้" โดยแท้จริง
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า "สำหรับอาคารที่จะนำมาใช้สร้างหอสมุดเมืองกรุงเทพมหานคร เป็นอาคารเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในช่วงหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 จนถึงช่วงสงครามโลก (พ.ศ. 2482-2488) ซึ่งเป็นช่วงการออกแบบที่ยังยึดแนวสถาปัตยกรรม Art Deco ดังนั้น การออกแบบหอสมุดเมืองกรุงเทพมหานคร จึงเป็นการผสมผสานระหว่างโครงสร้างอาคารแบบตะวันตก กับศิลปะไทยเข้าด้วยกัน โดยตัวอาคารได้จัดสรรพื้นที่ไว้ทั้งหมด 4 ชั้น (รวมชั้นลอย)
ชั้น 1 ประกอบไปด้วย นิทรรศการหมุนเวียน นิทรรศการถาวร ข้อมูลข่าวสารสำหรับนักท่องเที่ยว ห้องสมุดสำหรับคนพิการ E-Book Internetและ Wi-fi ส่วนชั้นลอย เป็นในส่วนของห้องสมุดสำหรับเด็ก รวบรวมวรรณกรรมสำหรับเด็กและเยาวชน ชั้น 2 มีการรวบรวมหนังสือต่างประเทศ หนังสือทั่วไป หนังสืออ้างอิง มุมศึกษาค้นคว้า และห้องเอนกประสงค์ ชั้น 3 ประกอบไปด้วยหนังสือเพื่อนบ้านอาเซียน ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ หนังสือหายาก หนังสือวรรณกรรมไทย วรรณกรรมอาเซียน และ วรรณกรรมโลก หอจดหมายเหตุ อีกทั้งยังเป็นส่วนของ หอเกียรติยศ (Hall of Fame)ที่รวบรวมประวัติของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร รวมไปถึงประวัติของนักประพันธ์ และกวีแห่งชาติ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังทั้งในอดีตและปัจจุบัน" ผู้ว่าฯกทม. กล่าว
