ฝ่ายกฎหมายวัดปากน้ำ ออกมายืนยันพร้อมให้อายัดรถหรู เพียงแต่ยังไม่มีหนังสืออย่างเป็นทางการจากดีเอสไอ ขณะที่พระเมธีธรรมาจารย์ เผยชาวพุทธทั่วโลกจับตาสังฆราชองค์ใหม่ของไทย ย้ำคณะสงฆ์ต้องมีผู้นำ เหมือนนายกฯเป็นผู้นำประเทศ พร้อมลุ้นโดนหมายเรียกกรณีที่พุทธมณฑล ด้านนายอำพล เสนาณรงค์ องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ ในการเวียนเทียนรอบพระประธานพุทธมณฑล เนื่องในวันมาฆบูชา โดยภาพรวมเป็นปกติ
วานนี้(22 ก.พ.) นายศุภภัทร์พจน์ นิติศศธร ฝ่ายกฎหมายวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ กล่าวถึงที่มีกระแสข่าว ทางวัดปากน้ำภาษีเจริญไม่ยินยอมให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เข้ามาอายัดรถเบนซ์โบราณที่อยู่ในความครอบครองของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์(ช่วง วรปุญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญว่า ตนยืนยันว่าเมื่อดีเอสไอหรือหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องมีหนังสือแจ้งมาอย่างไร ทางวัดก็พร้อมปฏิบัติตาม หากดีเอสไอจะเข้ามาขออายัดรถเพื่อเป็นของกลางก็ยินดีให้ดำเนินการ เพียงแต่ขณะนี้หนังสือดังกล่าวยังไม่ได้มีมาถึงวัดอย่างเป็นทางการ จึงยังไม่รู้ว่าจะให้ทางวัดปฏิบัติอย่างไร
ส่วนกรณีดีเอสไอจะเข้ามาสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์และพระมหาศาสนมุนี(ธนกิจ สุภาโว)หรือหลวงพี่แป๊ะกรณีสมเด็จฯเป็นผู้ครอบครองรถนั้น ขณะนี้ดีเอสไอก็ยังไม่ได้มีหนังสือแจ้งเข้ามาเช่นกัน คาดว่าน่าจะมีหนังสือแจ้งมาในวันที่ 23 ก.พ.นี้ ส่วนจะมีการสอบถามข้อมูลจากสมเด็จฯและหลวงพี่แป๊ะโดยตรงหรือไม่นั้น ตนยังไม่ทราบ จะต้องรอหนังสือมาถึงวัดก่อน
พระเมธีฯชี้ชาวพุทธทั่วโลกจับตาตั้งสังฆราช
วานนี้(22 ก.พ.) พระเมธีธรรมาจารย์ หรือเจ้าคุณประสาน เลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การปกครองคณะสงฆ์ไทยต้องมีผู้ปกครองรับผิดชอบกิจการคณะสงฆ์ เหมือนกับประเทศต้องมีนายกรัฐมนตรี ส่วนที่ใครระบุว่า การปกครองคณะสงฆ์ไม่จำเป็นจะต้องมีสมเด็จพระสังฆราช แต่ให้ใช้พระธรรมวินัย เข้ามาปกครองคณะสงฆ์แทนนั้น ก่อนพระพุทธองค์ปรินิพพาน ได้ฝากให้พุทธบริษัท 4 ดูแลพระพุทธศาสนา ให้พระธรรมวินัยเป็นศาสดา แต่การไปเผยแผ่ที่ไหนของพระสงฆ์สาวก ก็จะมีหัวหน้าคณะสงฆ์มาโดยตลอด ซึ่งการปกครองคณะสงฆ์ไทยนั้นมีความจำเป็นต้องมีผู้ปกครองตั้งแต่ระดับวัด ตำบล อำเภอ จังหวัด ระดับชาติ คือ สมเด็จพระสังฆราช เหมือนกับฝ่ายบ้านเมือง ซึ่งทุกประเทศที่มีคณะสงฆ์ล้วนแล้วแต่มีประมุขสงฆ์ทั้งสิ้น
“ทั่วโลกที่นับถือพระพุทธศาสนาไม่ว่าเถรวาท มหายาน ได้ร่วมกันลงนามในปฏิญญาให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาของโลก ให้พุทธมณฑลเป็นสำนักงานกลางตั้งแต่ปี 2548 ยกย่อง สมเด็จพระสังฆราช เป็นประมุขสงฆ์ของโลก การมีสมเด็จพระสังฆราช จะเป็นประโยชน์ต่อคณะสงฆ์ ชาวพุทธในประเทศและต่างประเทศ เป็นที่พึ่ง ที่เคารพ เป็นหน้าตาในระดับนานาชาติ หากรัฐบาลปล่อยให้เกิดปัญหาการตั้งสมเด็จพระสังฆราชและปล่อยให้เนิ่นนาน ชาวพุทธทั่วโลกจะเห็นความเสื่อมการเคารพของรัฐบาลต่อคณะสงฆ์ จะเป็นการหล่อเลี้ยงความขัดแย้งของผู้คนที่มีศรัทธาให้ขยายออกไปอีก ซึ่งต่างประเทศได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารก็จะไม่เป็นผลดีต่อประเทศที่ได้ชื่อว่า ศูนย์กลางพระพุทธศาสนาของโลก”
ส่วนกรณีที่มีการแจ้งความต่อสถานีตำรวจภูธรพุทธมณฑลว่า ตนจัดชุมชุมที่พุทธมณฑลนั้น ทราบเบื้องต้นว่าทางตำรวจจะส่งหมายเรียกในวัน 23 ก.พ.นี้ ก็จะรอดูว่า มีหมายเรียกมาหรือไม่อย่างไร ถ้ามีหมายเรียกมาจริงก็จะมีการชี้แจงรายละเอียดให้ทราบอีกครั้ง
องคมนตรีนำปชช.เวียนเทียนพุทธมณฑล
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2559 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ นายอำพล เสนาณรงค์ องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ ในการเวียนเทียนรอบพระประธานพุทธมณฑล เนื่องในวันมาฆบูชา ที่พุทธมณฑล จ.นครปฐม และโอกาสนี้ พุทธศาสนิกชนจะได้ร่วมเวียนเทียน จนมีพิธีปิดในเวลา 23.00 น. โดยตลอดงาน เป็นไปด้วยความสงบ ไม่มีเหตุการณ์อย่างที่หลายฝ่ายกังวล
วานนี้(22 ก.พ.) นายศุภภัทร์พจน์ นิติศศธร ฝ่ายกฎหมายวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ กล่าวถึงที่มีกระแสข่าว ทางวัดปากน้ำภาษีเจริญไม่ยินยอมให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เข้ามาอายัดรถเบนซ์โบราณที่อยู่ในความครอบครองของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์(ช่วง วรปุญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญว่า ตนยืนยันว่าเมื่อดีเอสไอหรือหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องมีหนังสือแจ้งมาอย่างไร ทางวัดก็พร้อมปฏิบัติตาม หากดีเอสไอจะเข้ามาขออายัดรถเพื่อเป็นของกลางก็ยินดีให้ดำเนินการ เพียงแต่ขณะนี้หนังสือดังกล่าวยังไม่ได้มีมาถึงวัดอย่างเป็นทางการ จึงยังไม่รู้ว่าจะให้ทางวัดปฏิบัติอย่างไร
ส่วนกรณีดีเอสไอจะเข้ามาสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์และพระมหาศาสนมุนี(ธนกิจ สุภาโว)หรือหลวงพี่แป๊ะกรณีสมเด็จฯเป็นผู้ครอบครองรถนั้น ขณะนี้ดีเอสไอก็ยังไม่ได้มีหนังสือแจ้งเข้ามาเช่นกัน คาดว่าน่าจะมีหนังสือแจ้งมาในวันที่ 23 ก.พ.นี้ ส่วนจะมีการสอบถามข้อมูลจากสมเด็จฯและหลวงพี่แป๊ะโดยตรงหรือไม่นั้น ตนยังไม่ทราบ จะต้องรอหนังสือมาถึงวัดก่อน
พระเมธีฯชี้ชาวพุทธทั่วโลกจับตาตั้งสังฆราช
วานนี้(22 ก.พ.) พระเมธีธรรมาจารย์ หรือเจ้าคุณประสาน เลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การปกครองคณะสงฆ์ไทยต้องมีผู้ปกครองรับผิดชอบกิจการคณะสงฆ์ เหมือนกับประเทศต้องมีนายกรัฐมนตรี ส่วนที่ใครระบุว่า การปกครองคณะสงฆ์ไม่จำเป็นจะต้องมีสมเด็จพระสังฆราช แต่ให้ใช้พระธรรมวินัย เข้ามาปกครองคณะสงฆ์แทนนั้น ก่อนพระพุทธองค์ปรินิพพาน ได้ฝากให้พุทธบริษัท 4 ดูแลพระพุทธศาสนา ให้พระธรรมวินัยเป็นศาสดา แต่การไปเผยแผ่ที่ไหนของพระสงฆ์สาวก ก็จะมีหัวหน้าคณะสงฆ์มาโดยตลอด ซึ่งการปกครองคณะสงฆ์ไทยนั้นมีความจำเป็นต้องมีผู้ปกครองตั้งแต่ระดับวัด ตำบล อำเภอ จังหวัด ระดับชาติ คือ สมเด็จพระสังฆราช เหมือนกับฝ่ายบ้านเมือง ซึ่งทุกประเทศที่มีคณะสงฆ์ล้วนแล้วแต่มีประมุขสงฆ์ทั้งสิ้น
“ทั่วโลกที่นับถือพระพุทธศาสนาไม่ว่าเถรวาท มหายาน ได้ร่วมกันลงนามในปฏิญญาให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาของโลก ให้พุทธมณฑลเป็นสำนักงานกลางตั้งแต่ปี 2548 ยกย่อง สมเด็จพระสังฆราช เป็นประมุขสงฆ์ของโลก การมีสมเด็จพระสังฆราช จะเป็นประโยชน์ต่อคณะสงฆ์ ชาวพุทธในประเทศและต่างประเทศ เป็นที่พึ่ง ที่เคารพ เป็นหน้าตาในระดับนานาชาติ หากรัฐบาลปล่อยให้เกิดปัญหาการตั้งสมเด็จพระสังฆราชและปล่อยให้เนิ่นนาน ชาวพุทธทั่วโลกจะเห็นความเสื่อมการเคารพของรัฐบาลต่อคณะสงฆ์ จะเป็นการหล่อเลี้ยงความขัดแย้งของผู้คนที่มีศรัทธาให้ขยายออกไปอีก ซึ่งต่างประเทศได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารก็จะไม่เป็นผลดีต่อประเทศที่ได้ชื่อว่า ศูนย์กลางพระพุทธศาสนาของโลก”
ส่วนกรณีที่มีการแจ้งความต่อสถานีตำรวจภูธรพุทธมณฑลว่า ตนจัดชุมชุมที่พุทธมณฑลนั้น ทราบเบื้องต้นว่าทางตำรวจจะส่งหมายเรียกในวัน 23 ก.พ.นี้ ก็จะรอดูว่า มีหมายเรียกมาหรือไม่อย่างไร ถ้ามีหมายเรียกมาจริงก็จะมีการชี้แจงรายละเอียดให้ทราบอีกครั้ง
องคมนตรีนำปชช.เวียนเทียนพุทธมณฑล
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2559 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ นายอำพล เสนาณรงค์ องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ ในการเวียนเทียนรอบพระประธานพุทธมณฑล เนื่องในวันมาฆบูชา ที่พุทธมณฑล จ.นครปฐม และโอกาสนี้ พุทธศาสนิกชนจะได้ร่วมเวียนเทียน จนมีพิธีปิดในเวลา 23.00 น. โดยตลอดงาน เป็นไปด้วยความสงบ ไม่มีเหตุการณ์อย่างที่หลายฝ่ายกังวล