พระเมธีธรรมาจารย์ จี้รัฐบาลคุมเข้มหลวงปู่ยุติการเคลื่อนไหว ขู่คณะสงฆ์จะออกมาชุมนุมอีก ขณะที่ฝ่ายกฎหมายวัดปากน้ำ โบ้ยให้เอาผิดอู่รถ - ผู้นำเข้า และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
พระเมธีธรรมาจารย์ เลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 15 ก.พ. ที่ผ่านมา คณะสงฆ์ได้มาประชุมกันที่พุทธมณฑล จ.นครปฐม ได้มีสังฆามติ 5 ข้อ เสนอต่อรัฐบาล โดยขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ดำเนินการตามข้อเสนอนั้น และคณะสงฆ์ได้ยุติการประชุมไปแล้ว แต่ขณะนี้ยังมีกลุ่มผู้คัดค้านการเสนอสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช พระองค์ที่ 20 ตามที่ มส. เสนอชื่อ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ ออกมาเคลื่อนไหวยื่นเรื่องคัดค้านต่อหน่วยงานต่าง ๆ ขอเรียกร้องให้รัฐบาลดูแลให้กลุ่มผู้คัดค้านยุติการเคลื่อนไหวต่าง ๆ เช่นกัน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อคณะสงฆ์ ไม่ใช่ขอให้คณะสงฆ์ยุติการเคลื่อนไหว แต่รัฐบาลปล่อยให้กลุ่มผู้คัดค้านเคลื่อนไหว อย่างเช่น เมื่อวันที่ 16 ก.พ. พระพุทธะอิสระ ยังไปแจ้งความดำเนินคดีกับพระสงฆ์ที่มาประชุมที่พุทธมณฑล จะต้องปล่อยให้กระบวนการเสนอสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 20 และการพิจารณาสอบสวนคดีต่าง ๆ เป็นไปตามขั้นตอน ตามกฎหมาย โดยไม่มีการเมืองและฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเข้ามาแทรกแซง
พระเมธีธรรมาจารย์ กล่าวว่า หากรัฐบาลปล่อยให้กลุ่มผู้คัดค้านเคลื่อนไหว และคณะสงฆ์จะออกมาประชุมกันอีกครั้ง คงจะไปห้ามไม่ได้ เพราะรัฐบาลยังไม่ให้ความเป็นธรรม อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้จะรอดูท่าทีของรัฐบาลจะดำเนินการเช่นไร รวมถึงการเสนอสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 20 ซึ่งเข้าใจดีว่า มีกระบวนการขั้นตอน และระยะเวลาก็ต้องดูตามความเหมาะสม ซึ่งคณะสงฆ์รู้ว่าควรใช้เวลาขนาดไหน
“คณะสงฆ์รับปากรัฐบาลยุติการประชุม ฉะนั้น รัฐบาลต้องให้กลุ่มผู้คัดค้านยุติการเคลื่อนไหวต่าง ๆ เช่นกัน อยากให้รัฐบาลดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง ไม่ใช่รับข้อเรียกร้องคณะสงฆ์เพียงเพื่อต้องการให้ยุติการประชุมเท่านั้น” พระเมธีธรรมาจารย์ กล่าว
นายศุภภัทร์พจน์ นิติศธร ฝ่ายกฎหมายวัดปากน้ำภาษีเจริญ กล่าวว่า ตามที่ พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม แถลงข่าว เรื่องรถโบราณของวัดปากน้ำ นำเข้าไม่ถูกต้องตามกฏหมายนั้น กระบวนการการนำเข้า อะไหล่รถ เป็นเรื่องของอู่วิชาญ และผู้นำเข้า ดำเนินการเองทั้งหมด ซึ่งยืนยันมาโดยตลอดว่า ไม่เกี่ยวข้องกับผู้บริจาครถให้ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ถ้าการนำเข้ารถไม่ถูกต้องตามกฎหมายจริง เป็นเรื่องที่ดีเอสไอ จะต้องตรวจสอบและดำเนินการเอาผิด กับผู้นำเข้า กรมศุลกากร กรมสรรพสามิต และกรมการขนส่งทางบก โดยเฉพาะกรมสรรพสามิตและกรมศุลกากร เป็นหน่วยงานที่ต้องตรวจสอบและประเมิน รวมถึงเรียกเก็บภาษีสินค้าที่นำเข้า
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
พระเมธีธรรมาจารย์ เลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 15 ก.พ. ที่ผ่านมา คณะสงฆ์ได้มาประชุมกันที่พุทธมณฑล จ.นครปฐม ได้มีสังฆามติ 5 ข้อ เสนอต่อรัฐบาล โดยขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ดำเนินการตามข้อเสนอนั้น และคณะสงฆ์ได้ยุติการประชุมไปแล้ว แต่ขณะนี้ยังมีกลุ่มผู้คัดค้านการเสนอสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช พระองค์ที่ 20 ตามที่ มส. เสนอชื่อ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ ออกมาเคลื่อนไหวยื่นเรื่องคัดค้านต่อหน่วยงานต่าง ๆ ขอเรียกร้องให้รัฐบาลดูแลให้กลุ่มผู้คัดค้านยุติการเคลื่อนไหวต่าง ๆ เช่นกัน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อคณะสงฆ์ ไม่ใช่ขอให้คณะสงฆ์ยุติการเคลื่อนไหว แต่รัฐบาลปล่อยให้กลุ่มผู้คัดค้านเคลื่อนไหว อย่างเช่น เมื่อวันที่ 16 ก.พ. พระพุทธะอิสระ ยังไปแจ้งความดำเนินคดีกับพระสงฆ์ที่มาประชุมที่พุทธมณฑล จะต้องปล่อยให้กระบวนการเสนอสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 20 และการพิจารณาสอบสวนคดีต่าง ๆ เป็นไปตามขั้นตอน ตามกฎหมาย โดยไม่มีการเมืองและฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเข้ามาแทรกแซง
พระเมธีธรรมาจารย์ กล่าวว่า หากรัฐบาลปล่อยให้กลุ่มผู้คัดค้านเคลื่อนไหว และคณะสงฆ์จะออกมาประชุมกันอีกครั้ง คงจะไปห้ามไม่ได้ เพราะรัฐบาลยังไม่ให้ความเป็นธรรม อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้จะรอดูท่าทีของรัฐบาลจะดำเนินการเช่นไร รวมถึงการเสนอสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 20 ซึ่งเข้าใจดีว่า มีกระบวนการขั้นตอน และระยะเวลาก็ต้องดูตามความเหมาะสม ซึ่งคณะสงฆ์รู้ว่าควรใช้เวลาขนาดไหน
“คณะสงฆ์รับปากรัฐบาลยุติการประชุม ฉะนั้น รัฐบาลต้องให้กลุ่มผู้คัดค้านยุติการเคลื่อนไหวต่าง ๆ เช่นกัน อยากให้รัฐบาลดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง ไม่ใช่รับข้อเรียกร้องคณะสงฆ์เพียงเพื่อต้องการให้ยุติการประชุมเท่านั้น” พระเมธีธรรมาจารย์ กล่าว
นายศุภภัทร์พจน์ นิติศธร ฝ่ายกฎหมายวัดปากน้ำภาษีเจริญ กล่าวว่า ตามที่ พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม แถลงข่าว เรื่องรถโบราณของวัดปากน้ำ นำเข้าไม่ถูกต้องตามกฏหมายนั้น กระบวนการการนำเข้า อะไหล่รถ เป็นเรื่องของอู่วิชาญ และผู้นำเข้า ดำเนินการเองทั้งหมด ซึ่งยืนยันมาโดยตลอดว่า ไม่เกี่ยวข้องกับผู้บริจาครถให้ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ถ้าการนำเข้ารถไม่ถูกต้องตามกฎหมายจริง เป็นเรื่องที่ดีเอสไอ จะต้องตรวจสอบและดำเนินการเอาผิด กับผู้นำเข้า กรมศุลกากร กรมสรรพสามิต และกรมการขนส่งทางบก โดยเฉพาะกรมสรรพสามิตและกรมศุลกากร เป็นหน่วยงานที่ต้องตรวจสอบและประเมิน รวมถึงเรียกเก็บภาษีสินค้าที่นำเข้า
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่