เมื่อเวลา 15.00 น. วานนี้ (1ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลัง นายอะคิโอะ มิมุระ ประธานสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมญี่ปุ่น(Japan Chamber of Commerce and Industry: JCCI) และผู้บริหารระดับสูงภาคเอกชนญี่ปุ่น เข้าเยี่ยมคารวะ ว่า มีการประชุมร่วมกับคณะนักธุรกิจใหญ่ของญี่ปุ่นในการประสานความร่วมมือต่อกัน ครั้งนี้เขามากันคณะใหญ่ และยังเป็นเจ้าของกิจการบริษัทเป็นแสนบริษัททั่วโลก ซึ่งที่อยู่ในเมืองไทย มีประมาณ 1,600 กว่าบริษัท เพราะฉะนั้น ถือว่าเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในการลงทุนต่อไปในหลายๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการสร้างความเชื่อมโยงของ เอสเอ็มอี ให้ความรู้การพัฒนาเทคโนโลยี และสนับสนุนให้ไทยเป็นฐานการผลิตของภูมิภาค สิ่งเหล่านี้ขึ้นอยู่กับความไว้วางใจ และความเชื่อมั่นของเขา
นายกฯ กล่าวว่า อยากให้คนไทยได้เรียนรู้ว่า เราจะอยู่กันอย่างไรในโลกใบนี้ ใครที่เป็นมิตรกับเรา เราจะต้องพูดคุยกันให้อยู่ในกรอบ ภายใต้กฎหมาย ภายใต้ความสุจริต และโปร่งใส รัฐบาลจะทำแบบนี้ทุกเรื่อง จะเห็นได้ว่าเขาไว้วางใจเรามากขึ้น ทั้งนี้ต้องขอบคุณไปยัง นายชินโซ อะเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ตนเจอกัน 6 ครั้ง มีความก้าวหน้าไปตามลำดับ และได้ขอร้องให้ปีนี้ เขาช่วยเรา ถ้าจะสามารถเสริมสร้างความเข้มแข็ง สร้างความเชื่อมโยง ให้เป็นฐานการผลิตได้ โดยที่ไทยมีส่วนร่วมกับฐานการผลิตดังกล่าวด้วย
พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าวันนี้ (2ก.พ.) เซอร์ไซมอน แมคโดนัลด์ ปลัด กต. สหราชอาณาจักร จะเข้าเยี่ยมคารวะ นายกรัฐมนตรี และ หารือถึงความสัมพันธ์ ความร่วมมือระหว่างไทย-อังกฤษ
ส่วนวันพุธที่ 3 ก.พ. นายกรัฐมนตรี จะให้การต้อนรับการเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ของ รองประธานาธิบดีอินเดีย หนึ่งในประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ และการเมืองของภูมิภาค ถือเป็นการเยือนไทย ในระดับสูงของรัฐบาลอินเดียในรอบ 6 ทศวรรษ ยืนยันนโยบายมองตะวันออก Look-East ซึ่งสอดรับกับนโยบายมองตะวันตกของไทย เพื่อรองรับบทบาทศูนย์กลางของอาเซียนอย่างแท้จริง
โอกาสนี้ รองประธานาธิบดี ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลอินเดีย ให้ดูแลงานด้านต่างประเทศ และมองว่าไทย เป็นหนึ่งในประเทศที่มีบทบาทนำในอาเซียน และต้องการที่จะร่วมมือกับไทยในเรื่องต่างๆ โดยใช้ประโยชน์จากที่ตั้งของไทยเพื่อเป็นจุดเชื่อมโยงทางคมนาคมระหว่างอินเดียกับเอเชียตะวันออก
วันที่ 4 ก.พ. เอกอัครราชทูตจากสาธารณรัฐเกาหลี จะเข้าพบ นายกรัฐมนตรี เพื่อรับฟังนโยบาย และทิศทางบริหารประเทศ พร้อมรับทราบศักยภาพของไทยด้านเศรษฐกิจ และต้องการกระชับความร่วมมือด้านอื่นๆ ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
นายกฯ กล่าวว่า อยากให้คนไทยได้เรียนรู้ว่า เราจะอยู่กันอย่างไรในโลกใบนี้ ใครที่เป็นมิตรกับเรา เราจะต้องพูดคุยกันให้อยู่ในกรอบ ภายใต้กฎหมาย ภายใต้ความสุจริต และโปร่งใส รัฐบาลจะทำแบบนี้ทุกเรื่อง จะเห็นได้ว่าเขาไว้วางใจเรามากขึ้น ทั้งนี้ต้องขอบคุณไปยัง นายชินโซ อะเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ตนเจอกัน 6 ครั้ง มีความก้าวหน้าไปตามลำดับ และได้ขอร้องให้ปีนี้ เขาช่วยเรา ถ้าจะสามารถเสริมสร้างความเข้มแข็ง สร้างความเชื่อมโยง ให้เป็นฐานการผลิตได้ โดยที่ไทยมีส่วนร่วมกับฐานการผลิตดังกล่าวด้วย
พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าวันนี้ (2ก.พ.) เซอร์ไซมอน แมคโดนัลด์ ปลัด กต. สหราชอาณาจักร จะเข้าเยี่ยมคารวะ นายกรัฐมนตรี และ หารือถึงความสัมพันธ์ ความร่วมมือระหว่างไทย-อังกฤษ
ส่วนวันพุธที่ 3 ก.พ. นายกรัฐมนตรี จะให้การต้อนรับการเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ของ รองประธานาธิบดีอินเดีย หนึ่งในประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ และการเมืองของภูมิภาค ถือเป็นการเยือนไทย ในระดับสูงของรัฐบาลอินเดียในรอบ 6 ทศวรรษ ยืนยันนโยบายมองตะวันออก Look-East ซึ่งสอดรับกับนโยบายมองตะวันตกของไทย เพื่อรองรับบทบาทศูนย์กลางของอาเซียนอย่างแท้จริง
โอกาสนี้ รองประธานาธิบดี ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลอินเดีย ให้ดูแลงานด้านต่างประเทศ และมองว่าไทย เป็นหนึ่งในประเทศที่มีบทบาทนำในอาเซียน และต้องการที่จะร่วมมือกับไทยในเรื่องต่างๆ โดยใช้ประโยชน์จากที่ตั้งของไทยเพื่อเป็นจุดเชื่อมโยงทางคมนาคมระหว่างอินเดียกับเอเชียตะวันออก
วันที่ 4 ก.พ. เอกอัครราชทูตจากสาธารณรัฐเกาหลี จะเข้าพบ นายกรัฐมนตรี เพื่อรับฟังนโยบาย และทิศทางบริหารประเทศ พร้อมรับทราบศักยภาพของไทยด้านเศรษฐกิจ และต้องการกระชับความร่วมมือด้านอื่นๆ ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น