ผู้จัดการรายวัน 360 - ปอศ.ยึดตุ๊กตาลูกเทพหนีภาษีกว่า 100 ตัวย่านสำเพ็ง วังบูรพา บางแค และปริมณฑล รวม 6 จุด ระบุโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับเป็นเงิน 4 เท่าราคาของ ด้านตำรวจปราบปรามยาเสพติดภูธร ภาค 5 เจอทันทียาบ้า 200 เม็ดยัดไส้ตุ๊กตาลูกเทพคาลานจอดรถสนามบินเชียงใหม่ ฟาก กพท. เรียกสายการบินร่วมหารือวันที่ 27 ม.ค. ส่วน กระทรวงวัฒนธรรม ติงวัดที่ปลุกเสกลูกเทพ
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 26 ม.ค. ที่กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) พ.ต.อ.ณพวัฒน์ อารยางกรู รอง ผบก.ปอศ. และ พ.ต.อ.เกรียงศักดิ์ กัลยาวัฒนเจริญ ผกก.1 บก.ปอศ. ร่วมกันแถลงข่าวผลการตรวจยึดตุ๊กตาลูกเทพหนีภาษี จำนวนกว่า 100 ตัว จากการระดมเข้าตรวจค้นตามแหล่งจำหน่ายสินค้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวม 6 จุด
พ.ต.อ.เกรียงศักดิ์ เปิดเผยว่า การเข้าตรวจยึดครั้งนี้สืบเนื่องจากในขณะนี้มีการนิยมซื้อขายตุ๊กตาลูกเทพกันอย่างกว้างขวางจึงอาจเป็นช่องทางให้แก่มิจฉาชีพในการนำไปเป็นเครื่องมือในการกระทำผิดกฎหมาย พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. และ พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง ผบก.ปอศ. จึงสั่งการให้ กก.1 บก.ปอศ. ดำเนินการเข้าตรวจสอบถึงแหล่งผลิตและแหล่งจัดจำหน่ายตุ๊กตาดังกล่าวในย่านตลาดสำเพ็ง ศูนย์การค้าย่านวังบูรพา ร้านค้าย่านบางแค และในปริมณฑล รวม 6 จุด ผลการตรวจสอบปรากฏว่า พบตุ๊กตาที่มีแหล่งกำเนิดจากต่างประเทศซึ่งจะต้องเสียภาษีนำเข้าให้ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ร้านค้าที่ถูกตรวจสอบยังไม่สามารถนำเอกสารการเสียภาษีมาแสดงกับเจ้าหน้าที่ได้ จึงทำการตรวจยึดไว้เพื่อรอการตรวจสอบเป็นจำนวนกว่า 100 ตัว
ทั้งนี้ หากเจ้าของร้านค้าที่ถูกเจ้าหน้าที่เข้าตรวจยึดในครั้งนี้ไม่สามารถนำเอกสารหลักฐานการเสียภาษีมาแสดงได้ก็จะดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2469 ในข้อหาซื้อ หรือรับไว้ด้วยประการใดๆ ซึ่งของอันตนรู้ว่านำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงอากร ข้อห้าม ข้อจำกัด มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับเป็นเงิน 4 เท่าราคาของซึ่งได้รวมค่าอากรเข้าด้วยแล้ว หรือทั้งจำทั้งปรับ เนื่องจากสร้างความเสียหายเป็นเงินที่จะต้องเสียภาษีเป็นรายได้ให้รัฐเป็นเงินประมาณหลายแสนบาท
*** พบยัดไส้ “ยาบ้า” คาลานจอดรถสนามบินเชียงใหม่ ***
ทางด้าน พ.ต.ท.ประหยัวช์ บุญศรี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พร้อมเจ้าหน้าที่ ร่วมแถลงข่าวการตรวจยึดยาบ้าในตุ๊กตาลูกเทพที่กลุ่มผู้ค้ายาเสพติดรายย่อยนำมาวางไว้บริเวณใต้โค่นเสาศาลา ลานจอดรถ ในท่าอากาศยานนานาชาติจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อค่ำวานนี้ (25 ม.ค.) โดยยึดของกลางยาบ้าได้ 200 เม็ด แต่กลุ่มคนร้ายไหวตัวทันไม่ยอมมารับยาบ้า
การจับกุมมีขึ้นหลัง พ.ต.ท.คม เชษฐขุนทด หัวหน้าชุดปราบปรามยาเสพติดภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ได้รับแจ้งจากสายลับว่าในวันที่ 25 ม.ค.จะมีการซื้อขายยาบ้าและนัดหมายส่งมอบกันที่บริเวณท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ โดยจะนำซุกซ่อนมากับตุ๊กตาเด็กผู้หญิงซึ่งบรรจุไว้ในกระเป๋าหิ้ว จึงได้วางกำลังและตรวจสอบบริเวณรอบๆ ท่าอากาศยานฯ
ต่อมาได้พบวัตถุต้องสงสัยตามที่สายลับแจ้งที่โคนเสาของศาลาที่พักภายในลานจอดรถของท่าอากาศยานฯ จึงได้เข้าตรวจสอบโดยเปิดกระเป๋าหิ้วแบบผู้หญิงสีดำหูหิ้วสีชมพู พบว่ามีตุ๊กตาเด็กผู้หญิงมีกำไลประดับแขนซ้ายบรรจุอยู่ภายใน โดยบริเวณหน้าอกของตุ๊กตาพบยาบ้าเม็ดสีส้ม 198 เม็ด และยาบ้าเม็ดสีเขียว 2 เม็ด รวม 200 เม็ด เชื่อว่ากลุ่มผู้ค้ารายย่อยน่าจะนำมาส่งมอบเพื่อเตรียมนำขึ้นเครื่องบินเดินทางไปกรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดเป็นของกลางและนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ เจ้าของพื้นที่ เพื่อทำการสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิดกฎหมายต่อไป
ด้าน พ.ต.อ.จีรัฐติกุล อรุณจันทร์ภักดี ผกก.สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ จังหวัดเชียงใหม่ เจ้าของพื้นที่ได้สั่งการขยายผลตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อหาตัวผู้กระทำผิดต่อไป ทั้งนี้ เชื่อว่าคนร้ายอาจจะนำขึ้นเครื่องโดยอำพรางซุกซ่อนในตุ๊กตา แต่เจ้าหน้าที่มีการเข้มงวดจึงไม่ยอมมารับยาบ้า พร้อมได้มีการกำชับเจ้าหน้าที่เข้มงวดเกี่ยวกับสิ่งของ หรือตุ๊กตาให้มากขึ้น
*** เร่งหารือสายการบิน 27 ม.ค. ***
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงกรณีที่มีผู้โดยสารนำตุ๊กตาลูกเทพขึ้นเครื่องบินว่า ได้มอบหมายให้ นายจุฬา สุขมานพ อธิบดีกรมการท่าอากาศยานและรักษาการผู้อำนวยการ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) หารือกับผู้ประกอบการสายการบินต่างๆ เพื่อให้มีแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน โดยจะมีการประชุมร่วมกันในวันที่ 27 ม.ค.59
*** วธ.ไม่เห็นด้วย วัดปลุกเสกลูกเทพ ***
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า ปัจจุบันคนไทยขาดที่พึ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ โดยในส่วนของการเลี้ยงลูกเทพถือเป็นเรื่องของความเชื่อของแต่ละบุคคลที่หาเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจให้ตนเองและไม่ใช่เรื่องใหม่ที่เกิดขึ้นในสังคมไทย เหมือนในอดีตที่คลั่งจตุคามรามเทพที่เป็นกระแสขึ้นมาแล้วสักพักก็เงียบหายไป ส่วนที่ดารานักแสดง หรือผู้มีชื่อเสียงออกมาโปรโมตลูกเทพกันมากนั้นอาจจะเป็นเรื่องการตลาดที่นำบุคคลสาธารณะมาโน้มน้าวและสร้างกระแสให้คนเชื่อและคล้อยตาม แต่ในส่วนของวัดที่มีการทำพิธีปลุกเสกลูกเทพนั้นถือเป็นเรื่องไม่เหมาะสม เพราะพระสงฆ์ควรทำหน้าที่ในการส่งเสริมสนับสนุนให้ประชาชนนำหลักธรรมคำสอนมาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ โดยเฉพาะเรื่องการทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่วมากกว่า
*** จิตแพทย์แนะให้ใช้เป็นประโยชน์ทางการแพทย์ ***
นพ.วรตม์ โชติพิทยสุนนท์ จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น กรมสุขภาพจิต กล่าวว่า กระแสต่างๆ ในประเทศไทยมักจะมาไวไปไว เชื่อว่าสักวันหนึ่งตุ๊กตาลูกเทพก็คงจะเป็นเหมือนตุ๊กตาบลายท์และเฟอร์บี้ที่เป็นกระแสฮิตอยู่ช่วงหนึ่งแล้วก็หายไป อย่างไรก็ตาม ตุ๊กตาลูกเทพมีลักษณะเป็น “ตุ๊กตาเสมือนมนุษย์” (Reborn Doll) ซึ่งเมื่อวันใดที่หมดประโยชน์จากการกราบไหว้บูชาแล้วหากทิ้งไปก็น่าเสียดาย เพราะยังสามารถนำไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้อีกหลายอย่าง เช่น นำไปให้เด็กเล่นต่อ หรือนำไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ เช่น กุมารแพทย์และจิตแพทย์ หรือสูตินรีแพทย์ที่นำตุ๊กตาเสมือนเด็กในการสอนคุณแม่มือใหม่ แต่ที่น่าสนใจคือการนำตุ๊กตาเสมือนมนุษย์ช่วยบำบัดผู้ป่วยสมองเสื่อมซึ่งเพิ่งได้รับความนิยมในแถบยุโรปเมื่อช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 26 ม.ค. ที่กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) พ.ต.อ.ณพวัฒน์ อารยางกรู รอง ผบก.ปอศ. และ พ.ต.อ.เกรียงศักดิ์ กัลยาวัฒนเจริญ ผกก.1 บก.ปอศ. ร่วมกันแถลงข่าวผลการตรวจยึดตุ๊กตาลูกเทพหนีภาษี จำนวนกว่า 100 ตัว จากการระดมเข้าตรวจค้นตามแหล่งจำหน่ายสินค้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวม 6 จุด
พ.ต.อ.เกรียงศักดิ์ เปิดเผยว่า การเข้าตรวจยึดครั้งนี้สืบเนื่องจากในขณะนี้มีการนิยมซื้อขายตุ๊กตาลูกเทพกันอย่างกว้างขวางจึงอาจเป็นช่องทางให้แก่มิจฉาชีพในการนำไปเป็นเครื่องมือในการกระทำผิดกฎหมาย พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. และ พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง ผบก.ปอศ. จึงสั่งการให้ กก.1 บก.ปอศ. ดำเนินการเข้าตรวจสอบถึงแหล่งผลิตและแหล่งจัดจำหน่ายตุ๊กตาดังกล่าวในย่านตลาดสำเพ็ง ศูนย์การค้าย่านวังบูรพา ร้านค้าย่านบางแค และในปริมณฑล รวม 6 จุด ผลการตรวจสอบปรากฏว่า พบตุ๊กตาที่มีแหล่งกำเนิดจากต่างประเทศซึ่งจะต้องเสียภาษีนำเข้าให้ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ร้านค้าที่ถูกตรวจสอบยังไม่สามารถนำเอกสารการเสียภาษีมาแสดงกับเจ้าหน้าที่ได้ จึงทำการตรวจยึดไว้เพื่อรอการตรวจสอบเป็นจำนวนกว่า 100 ตัว
ทั้งนี้ หากเจ้าของร้านค้าที่ถูกเจ้าหน้าที่เข้าตรวจยึดในครั้งนี้ไม่สามารถนำเอกสารหลักฐานการเสียภาษีมาแสดงได้ก็จะดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2469 ในข้อหาซื้อ หรือรับไว้ด้วยประการใดๆ ซึ่งของอันตนรู้ว่านำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงอากร ข้อห้าม ข้อจำกัด มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับเป็นเงิน 4 เท่าราคาของซึ่งได้รวมค่าอากรเข้าด้วยแล้ว หรือทั้งจำทั้งปรับ เนื่องจากสร้างความเสียหายเป็นเงินที่จะต้องเสียภาษีเป็นรายได้ให้รัฐเป็นเงินประมาณหลายแสนบาท
*** พบยัดไส้ “ยาบ้า” คาลานจอดรถสนามบินเชียงใหม่ ***
ทางด้าน พ.ต.ท.ประหยัวช์ บุญศรี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พร้อมเจ้าหน้าที่ ร่วมแถลงข่าวการตรวจยึดยาบ้าในตุ๊กตาลูกเทพที่กลุ่มผู้ค้ายาเสพติดรายย่อยนำมาวางไว้บริเวณใต้โค่นเสาศาลา ลานจอดรถ ในท่าอากาศยานนานาชาติจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อค่ำวานนี้ (25 ม.ค.) โดยยึดของกลางยาบ้าได้ 200 เม็ด แต่กลุ่มคนร้ายไหวตัวทันไม่ยอมมารับยาบ้า
การจับกุมมีขึ้นหลัง พ.ต.ท.คม เชษฐขุนทด หัวหน้าชุดปราบปรามยาเสพติดภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ได้รับแจ้งจากสายลับว่าในวันที่ 25 ม.ค.จะมีการซื้อขายยาบ้าและนัดหมายส่งมอบกันที่บริเวณท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ โดยจะนำซุกซ่อนมากับตุ๊กตาเด็กผู้หญิงซึ่งบรรจุไว้ในกระเป๋าหิ้ว จึงได้วางกำลังและตรวจสอบบริเวณรอบๆ ท่าอากาศยานฯ
ต่อมาได้พบวัตถุต้องสงสัยตามที่สายลับแจ้งที่โคนเสาของศาลาที่พักภายในลานจอดรถของท่าอากาศยานฯ จึงได้เข้าตรวจสอบโดยเปิดกระเป๋าหิ้วแบบผู้หญิงสีดำหูหิ้วสีชมพู พบว่ามีตุ๊กตาเด็กผู้หญิงมีกำไลประดับแขนซ้ายบรรจุอยู่ภายใน โดยบริเวณหน้าอกของตุ๊กตาพบยาบ้าเม็ดสีส้ม 198 เม็ด และยาบ้าเม็ดสีเขียว 2 เม็ด รวม 200 เม็ด เชื่อว่ากลุ่มผู้ค้ารายย่อยน่าจะนำมาส่งมอบเพื่อเตรียมนำขึ้นเครื่องบินเดินทางไปกรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดเป็นของกลางและนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ เจ้าของพื้นที่ เพื่อทำการสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิดกฎหมายต่อไป
ด้าน พ.ต.อ.จีรัฐติกุล อรุณจันทร์ภักดี ผกก.สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ จังหวัดเชียงใหม่ เจ้าของพื้นที่ได้สั่งการขยายผลตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อหาตัวผู้กระทำผิดต่อไป ทั้งนี้ เชื่อว่าคนร้ายอาจจะนำขึ้นเครื่องโดยอำพรางซุกซ่อนในตุ๊กตา แต่เจ้าหน้าที่มีการเข้มงวดจึงไม่ยอมมารับยาบ้า พร้อมได้มีการกำชับเจ้าหน้าที่เข้มงวดเกี่ยวกับสิ่งของ หรือตุ๊กตาให้มากขึ้น
*** เร่งหารือสายการบิน 27 ม.ค. ***
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงกรณีที่มีผู้โดยสารนำตุ๊กตาลูกเทพขึ้นเครื่องบินว่า ได้มอบหมายให้ นายจุฬา สุขมานพ อธิบดีกรมการท่าอากาศยานและรักษาการผู้อำนวยการ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) หารือกับผู้ประกอบการสายการบินต่างๆ เพื่อให้มีแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน โดยจะมีการประชุมร่วมกันในวันที่ 27 ม.ค.59
*** วธ.ไม่เห็นด้วย วัดปลุกเสกลูกเทพ ***
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า ปัจจุบันคนไทยขาดที่พึ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ โดยในส่วนของการเลี้ยงลูกเทพถือเป็นเรื่องของความเชื่อของแต่ละบุคคลที่หาเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจให้ตนเองและไม่ใช่เรื่องใหม่ที่เกิดขึ้นในสังคมไทย เหมือนในอดีตที่คลั่งจตุคามรามเทพที่เป็นกระแสขึ้นมาแล้วสักพักก็เงียบหายไป ส่วนที่ดารานักแสดง หรือผู้มีชื่อเสียงออกมาโปรโมตลูกเทพกันมากนั้นอาจจะเป็นเรื่องการตลาดที่นำบุคคลสาธารณะมาโน้มน้าวและสร้างกระแสให้คนเชื่อและคล้อยตาม แต่ในส่วนของวัดที่มีการทำพิธีปลุกเสกลูกเทพนั้นถือเป็นเรื่องไม่เหมาะสม เพราะพระสงฆ์ควรทำหน้าที่ในการส่งเสริมสนับสนุนให้ประชาชนนำหลักธรรมคำสอนมาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ โดยเฉพาะเรื่องการทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่วมากกว่า
*** จิตแพทย์แนะให้ใช้เป็นประโยชน์ทางการแพทย์ ***
นพ.วรตม์ โชติพิทยสุนนท์ จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น กรมสุขภาพจิต กล่าวว่า กระแสต่างๆ ในประเทศไทยมักจะมาไวไปไว เชื่อว่าสักวันหนึ่งตุ๊กตาลูกเทพก็คงจะเป็นเหมือนตุ๊กตาบลายท์และเฟอร์บี้ที่เป็นกระแสฮิตอยู่ช่วงหนึ่งแล้วก็หายไป อย่างไรก็ตาม ตุ๊กตาลูกเทพมีลักษณะเป็น “ตุ๊กตาเสมือนมนุษย์” (Reborn Doll) ซึ่งเมื่อวันใดที่หมดประโยชน์จากการกราบไหว้บูชาแล้วหากทิ้งไปก็น่าเสียดาย เพราะยังสามารถนำไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้อีกหลายอย่าง เช่น นำไปให้เด็กเล่นต่อ หรือนำไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ เช่น กุมารแพทย์และจิตแพทย์ หรือสูตินรีแพทย์ที่นำตุ๊กตาเสมือนเด็กในการสอนคุณแม่มือใหม่ แต่ที่น่าสนใจคือการนำตุ๊กตาเสมือนมนุษย์ช่วยบำบัดผู้ป่วยสมองเสื่อมซึ่งเพิ่งได้รับความนิยมในแถบยุโรปเมื่อช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
