"อากู๋" ฟันธงทีวีดิจิตอลเหลือรอดแค่ 10 ราย ยันไม่คืน2ช่องที่ทำอยู่แน่ จี้ กสทช. เร่งแก้ 3 ปมใหญ่ พร้อมออกลายให้เลื่อนจ่ายค่าสัมปทานรอบ3
นายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจทีวีดิจิตอล ถือเป็นธุรกิจที่มีอนาคตมีโอกาส และยังไม่เคยเห็นธุรกิจไหนที่มีอัตราการเติบโตเร็วแบบ100% ได้ขนาดนี้ เมื่อเทียบปีแรกกับปีที่2 เชื่อว่าจะเป็นอีกปีที่ยังมีอัตราการเติบโตเป็น100% แม้ว่าจะยังขาดทุนอยู่ แกรมมี่เองไม่มีแนวความคิดจะคืนช่อง 2 ช่อง ทั้งช่องone เป็นช่องที่จับกลุ่มแมส ส่วนช่องจีเอ็มเอ็ม25 เป็นช่องจับกลุ่มวัยรุ่น แฟนเพลงแกรมมี่
"แม้หลายฝ่ายจะมองว่าทิศทางทีวีดิจิตอลจะไม่ค่อยดี จากปัญหาความไม่พร้อมในการทำงานของ กสทช.เป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องมัค(mux),เรตติ้ง, การแจกกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอล แต่เชื่อว่าปีนี้หากกสทช.ดำเนินงานเป็นไปตามสัญญา และทางศาลปกครองรวมถึงหน่วยงานภาครัฐให้ความสำคัญและร่วมผลักดัน อนาคตของทีวีดิจิตอลจะดีขึ้นอย่างมาก และมีอัตราการเติบโตเป็น100% "
สุดท้ายแล้วจะมีเพียง 10 รายเท่านั้นที่จะอยู่รอดในธุรกิจนี้ ดังนั้นจึงเห็นด้วยกับมาตราการการเยียวยาที่จะช่วยเหลือผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลในปีนี้ เช่น เรื่องการคืนช่อง เป็นอีกหนึ่งวิธีการที่ช่วยแก้ปัญหาได้ แต่ไม่ควรที่จะทำให้เกิดการแข่งขันขึ้นมาอีก ไม่ควรมีคู่แข่งเข้ามาใหม่และควรให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ประกอบการที่มีอยู่เดิมด้วย
อย่างไรก็ตาม ทีวีดิจิตอลปีนี้จะเติบโตได้ ขึ้นอยู่กับการทำงานของกสทช.ที่ต้องเน้น 3 ข้อ คือ 1.กสทช.ต้องแจกกล่องรับสัญญาทีวีดิจิตอลภาคพื้นดินให้เกิดขึ้นให้ได้ตามสัญญา และควรมีหน่วยงานชี้วัดได้ 2.การเรียงช่องควรทำให้เกิดขึ้นได้ทั้งระบบ มีหน่วยงานวัดได้จริง ให้เหมาะสมกับที่ผู้ประกอบการได้ประมูลคลื่นความถี่นี้มาในราคาแพง 3.มัค ค่าเช่าโครงข่ายดิจิตอล จากราคาที่เกินควร กำไรเกินควร สามารถใช้เสาร่วมกันได้ ราคามัคควรปรับให้เหมาะสม และมีหน่วยงานควบคุม
"ความล่าช้าในการทำงานของกสทช.ทำให้ทีวีดิจิตอลไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ ขณะที่ผู้ประกอบการได้จ่ายค่าสัมปทานไปแล้วมากกว่า 50% ดังนั้นจึงมองว่า การจ่ายสัมปทานครั้งที่3 ควรจะเลื่อนจ่ายออกไป อยากให้พิจารณาข้อนี้ด้วย" นายไพบูลย์ กล่าว
ล่าสุดเปิดตัวรายการ"เสือติดปีก" เป็นรายการเกมส์พิชิตเงินลงทุนธุรกิจรูปแบบใหม่ ออกอากาศทางช่องONE31 ทุกวันอังคาร เวลา 22.15น. เริ่มอังคารที่ 2 ก.พ.นี้ ด้วยงบลงทุน 26 ล้านบาท ภายใต้ชื่อบริษัท ไพบูลย์ แอนด์ ตัน จำกัด ด้วยเงินลงทุนส่วนตัวระหว่างนายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และนายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน)
นายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจทีวีดิจิตอล ถือเป็นธุรกิจที่มีอนาคตมีโอกาส และยังไม่เคยเห็นธุรกิจไหนที่มีอัตราการเติบโตเร็วแบบ100% ได้ขนาดนี้ เมื่อเทียบปีแรกกับปีที่2 เชื่อว่าจะเป็นอีกปีที่ยังมีอัตราการเติบโตเป็น100% แม้ว่าจะยังขาดทุนอยู่ แกรมมี่เองไม่มีแนวความคิดจะคืนช่อง 2 ช่อง ทั้งช่องone เป็นช่องที่จับกลุ่มแมส ส่วนช่องจีเอ็มเอ็ม25 เป็นช่องจับกลุ่มวัยรุ่น แฟนเพลงแกรมมี่
"แม้หลายฝ่ายจะมองว่าทิศทางทีวีดิจิตอลจะไม่ค่อยดี จากปัญหาความไม่พร้อมในการทำงานของ กสทช.เป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องมัค(mux),เรตติ้ง, การแจกกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอล แต่เชื่อว่าปีนี้หากกสทช.ดำเนินงานเป็นไปตามสัญญา และทางศาลปกครองรวมถึงหน่วยงานภาครัฐให้ความสำคัญและร่วมผลักดัน อนาคตของทีวีดิจิตอลจะดีขึ้นอย่างมาก และมีอัตราการเติบโตเป็น100% "
สุดท้ายแล้วจะมีเพียง 10 รายเท่านั้นที่จะอยู่รอดในธุรกิจนี้ ดังนั้นจึงเห็นด้วยกับมาตราการการเยียวยาที่จะช่วยเหลือผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลในปีนี้ เช่น เรื่องการคืนช่อง เป็นอีกหนึ่งวิธีการที่ช่วยแก้ปัญหาได้ แต่ไม่ควรที่จะทำให้เกิดการแข่งขันขึ้นมาอีก ไม่ควรมีคู่แข่งเข้ามาใหม่และควรให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ประกอบการที่มีอยู่เดิมด้วย
อย่างไรก็ตาม ทีวีดิจิตอลปีนี้จะเติบโตได้ ขึ้นอยู่กับการทำงานของกสทช.ที่ต้องเน้น 3 ข้อ คือ 1.กสทช.ต้องแจกกล่องรับสัญญาทีวีดิจิตอลภาคพื้นดินให้เกิดขึ้นให้ได้ตามสัญญา และควรมีหน่วยงานชี้วัดได้ 2.การเรียงช่องควรทำให้เกิดขึ้นได้ทั้งระบบ มีหน่วยงานวัดได้จริง ให้เหมาะสมกับที่ผู้ประกอบการได้ประมูลคลื่นความถี่นี้มาในราคาแพง 3.มัค ค่าเช่าโครงข่ายดิจิตอล จากราคาที่เกินควร กำไรเกินควร สามารถใช้เสาร่วมกันได้ ราคามัคควรปรับให้เหมาะสม และมีหน่วยงานควบคุม
"ความล่าช้าในการทำงานของกสทช.ทำให้ทีวีดิจิตอลไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ ขณะที่ผู้ประกอบการได้จ่ายค่าสัมปทานไปแล้วมากกว่า 50% ดังนั้นจึงมองว่า การจ่ายสัมปทานครั้งที่3 ควรจะเลื่อนจ่ายออกไป อยากให้พิจารณาข้อนี้ด้วย" นายไพบูลย์ กล่าว
ล่าสุดเปิดตัวรายการ"เสือติดปีก" เป็นรายการเกมส์พิชิตเงินลงทุนธุรกิจรูปแบบใหม่ ออกอากาศทางช่องONE31 ทุกวันอังคาร เวลา 22.15น. เริ่มอังคารที่ 2 ก.พ.นี้ ด้วยงบลงทุน 26 ล้านบาท ภายใต้ชื่อบริษัท ไพบูลย์ แอนด์ ตัน จำกัด ด้วยเงินลงทุนส่วนตัวระหว่างนายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และนายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน)