ผู้จัดการรายวัน 360 - โฆษกศาลยุติธรรม รับ “หญิงวีนแตก” ป่วนกรมขนส่งฯเป็นผู้พิพากษาจริง ระบุมีอาการทางจิต-ขาดยาจนอาการกำเริบ เผย ปธ.ศาลฎีกาสั่งตั้ง กก.สอบฯตั้งแต่วันเกิดเหตุแล้ว พร้อมดึงตัวกลับจากศาลอุทธรณ์ ชี้ไม่มใช่ความผิดทางวินัย ส่อถูกออกราชการ แต่มีสิทธิได้บำนาญ เผยวีรกรรมเคยปาข้าวกล่องใส่รถ “บิ๊กแจ๊ด”
จากกรณีที่เมื่อวันที่ 20 ม.ค.ได้มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอเหตุการณ์หญิงรายหนึ่งที่อ้างตัวว่าเป็นผู้พิพากษา มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ทั้งโวยวายและปาสิ่งของ แสดงความไม่พอใจเจ้าหน้าที่ของกรมการขนส่งทางบก เขตจตุจักร กทม. ในขณะเข้าไปแจ้งเรื่องรถถูกสวมทะเบียนที่ เนื่องจากถูกเจ้าหน้าที่ขนส่งออกใบสั่ง เพราะรถจอดรถกีดขวาง โดยมีการระบุว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งในสังคมออนไลน์ได้มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมของหญิงรายดังกล่าว พร้อมขอให้ตรวจสอบว่าเป็นผู้พิพากษาจริงหรือไม่
วานนี้ (21 ม.ค.) นายสืบพงษ์ ศรีพงษ์กุล โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวยอมรับว่า หญิงที่ปรากฎในคลิป คือ น.ส.ชิดชนก แผ่นสุวรรณ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาประจำสำนักงานศาลยุติธรรม ช่วยทำงานในตำแหน่งผู้พิพากษาศาลชั้นต้น ประจำกองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ ซึ่งมีอาการป่วยทางจิต และเข้ารับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง มาแล้วประมาณ 2 ปี โดยทราบจาก น.ส.ชิดชนกว่า คิดว่าตัวเองไม่ได้รับความยุติธรรม เรื่องการถูกกล่าวหากระทำผิด พ.ร.บ.จราจร เป็นเหตุให้เกิดอารมณ์แปรปรวน เนื่องจากในวันเกิดเหตุไม่ได้ทานยา จึงมีอาการกำเริบ อยากให้เข้าใจว่าเกิดจากสาเหตุอะไร และคงไม่ได้ตั้งใจให้เกิดความเสียหายต่อหน่วยงานหรือสาธารณชน
“เรื่องนี้นายวีระพล ตั้งสุวรรณ ประธานศาลฎีกา และนายอธิคม อินทุภูติ เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ทราบเรื่องตั้งแต่วันเกิดเหตุแล้ว และมีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น และมีหนังสือขอให้ศาลอุทธรณ์ ส่งตัว น.ส.ชิดชนก กลับมาปฏิบัติหน้าที่ ที่สำนักงานศาลยุติธรรมแล้ว” นายสืบพงษ์ กล่าว
** “โฆษกศาล” ระบุไม่ใช่ความผิดทางวินัย
นายสืบพงษ์ เปิดเผยด้วยว่า เมื่อช่วงเดือน ก.ค.56 นั้น น.ส.ชิดชนก ถูกศาลแขวงดุสิตพิพากษาลงโทษ ฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงานและทำให้เสียทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 136 ลงโทษปรับ 2,000 บาท และความผิดทำให้เสียทรัพย์ลงโทษจำคุก 2 เดือน ปรับ 4,000 บาท โดยศาลรอลงอาญาไว้ 1 ปี กรณีปาข้าวกล่องใส่รถยนต์ของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ในขณะนั้น รวมทั้งเคยจอดรถขวาง ถ.พหลโยธินขาออก ใกล้ตลาดยิ่งเจริญ จนทำให้การจราจรติดขัด โดยน.ส.ชิดชนก นั่งอยู่ในรถไม่ยอมพูดจา จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องยกรถคันดังกล่าว พร้อมนำตัวไปเปรียบเทียบปรับเมื่อเดือน ต.ค.55
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ผ่านมาการปฏิบัติหน้าที่ของ น.ส.ชิดชนก มีปัญหาหรือไม่ นายสืบพงษ์ กล่าวว่า น.ส.ชิดชนก รับราชการมา 10 ปี แต่เมื่อ 2 ปีก่อนได้มีปัญหาสุขภาพจิต ซึ่งเมื่อไม่ได้รับประทานยาต่อเนื่องจะทำให้อารมณ์แปรปรวน จึงได้ส่งตัวไปช่วยราชการในส่วนที่ไม่เกี่ยวกับคดี ทั้งนี้คณะกรรมการฯจะมีการพิจารณาเรื่องการหย่อนความสามารถในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ตามมาตรา 35ของระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการ พ.ศ.2522 ซึ่งไม่ใช่เรื่องทางวินัย โดยหากคณะกรรมการข้าราชการตุลาการ (ก.ต.) มีคำสั่งให้ผู้พิพากษาคนนั้นออกจากราชการ ก็จะมีสิทธิได้รับบำเหน็จบำนาญ.
จากกรณีที่เมื่อวันที่ 20 ม.ค.ได้มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอเหตุการณ์หญิงรายหนึ่งที่อ้างตัวว่าเป็นผู้พิพากษา มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ทั้งโวยวายและปาสิ่งของ แสดงความไม่พอใจเจ้าหน้าที่ของกรมการขนส่งทางบก เขตจตุจักร กทม. ในขณะเข้าไปแจ้งเรื่องรถถูกสวมทะเบียนที่ เนื่องจากถูกเจ้าหน้าที่ขนส่งออกใบสั่ง เพราะรถจอดรถกีดขวาง โดยมีการระบุว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งในสังคมออนไลน์ได้มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมของหญิงรายดังกล่าว พร้อมขอให้ตรวจสอบว่าเป็นผู้พิพากษาจริงหรือไม่
วานนี้ (21 ม.ค.) นายสืบพงษ์ ศรีพงษ์กุล โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวยอมรับว่า หญิงที่ปรากฎในคลิป คือ น.ส.ชิดชนก แผ่นสุวรรณ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาประจำสำนักงานศาลยุติธรรม ช่วยทำงานในตำแหน่งผู้พิพากษาศาลชั้นต้น ประจำกองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ ซึ่งมีอาการป่วยทางจิต และเข้ารับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง มาแล้วประมาณ 2 ปี โดยทราบจาก น.ส.ชิดชนกว่า คิดว่าตัวเองไม่ได้รับความยุติธรรม เรื่องการถูกกล่าวหากระทำผิด พ.ร.บ.จราจร เป็นเหตุให้เกิดอารมณ์แปรปรวน เนื่องจากในวันเกิดเหตุไม่ได้ทานยา จึงมีอาการกำเริบ อยากให้เข้าใจว่าเกิดจากสาเหตุอะไร และคงไม่ได้ตั้งใจให้เกิดความเสียหายต่อหน่วยงานหรือสาธารณชน
“เรื่องนี้นายวีระพล ตั้งสุวรรณ ประธานศาลฎีกา และนายอธิคม อินทุภูติ เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ทราบเรื่องตั้งแต่วันเกิดเหตุแล้ว และมีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น และมีหนังสือขอให้ศาลอุทธรณ์ ส่งตัว น.ส.ชิดชนก กลับมาปฏิบัติหน้าที่ ที่สำนักงานศาลยุติธรรมแล้ว” นายสืบพงษ์ กล่าว
** “โฆษกศาล” ระบุไม่ใช่ความผิดทางวินัย
นายสืบพงษ์ เปิดเผยด้วยว่า เมื่อช่วงเดือน ก.ค.56 นั้น น.ส.ชิดชนก ถูกศาลแขวงดุสิตพิพากษาลงโทษ ฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงานและทำให้เสียทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 136 ลงโทษปรับ 2,000 บาท และความผิดทำให้เสียทรัพย์ลงโทษจำคุก 2 เดือน ปรับ 4,000 บาท โดยศาลรอลงอาญาไว้ 1 ปี กรณีปาข้าวกล่องใส่รถยนต์ของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ในขณะนั้น รวมทั้งเคยจอดรถขวาง ถ.พหลโยธินขาออก ใกล้ตลาดยิ่งเจริญ จนทำให้การจราจรติดขัด โดยน.ส.ชิดชนก นั่งอยู่ในรถไม่ยอมพูดจา จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องยกรถคันดังกล่าว พร้อมนำตัวไปเปรียบเทียบปรับเมื่อเดือน ต.ค.55
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ผ่านมาการปฏิบัติหน้าที่ของ น.ส.ชิดชนก มีปัญหาหรือไม่ นายสืบพงษ์ กล่าวว่า น.ส.ชิดชนก รับราชการมา 10 ปี แต่เมื่อ 2 ปีก่อนได้มีปัญหาสุขภาพจิต ซึ่งเมื่อไม่ได้รับประทานยาต่อเนื่องจะทำให้อารมณ์แปรปรวน จึงได้ส่งตัวไปช่วยราชการในส่วนที่ไม่เกี่ยวกับคดี ทั้งนี้คณะกรรมการฯจะมีการพิจารณาเรื่องการหย่อนความสามารถในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ตามมาตรา 35ของระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการ พ.ศ.2522 ซึ่งไม่ใช่เรื่องทางวินัย โดยหากคณะกรรมการข้าราชการตุลาการ (ก.ต.) มีคำสั่งให้ผู้พิพากษาคนนั้นออกจากราชการ ก็จะมีสิทธิได้รับบำเหน็จบำนาญ.