xs
xsm
sm
md
lg

รัฐธรรมนูญ “ฉบับเลือดเย็น” “ซือแป๋มีชัย”วางกับดักทักษิณ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

**รูปร่างหน้าตาของร่างรัฐธรรมนูญฉบับซือแป๋มีชัย ฤชุพันธุ์ แจ่มชัดขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะเนื้อหาที่แสลงใจพรรคการเมือง สังเกตปฏิกิริยาช่วงนี้กันได้ เริ่มออกมาดิ้น ฟาดงวงฟาดงากันถี่ขึ้น ถึงขั้นด่าแบบเอาล่อเอาเถิด ส่งสัญญาณให้เห็นแล้วว่า ประชามติงวดนี้ ไม่น่าจะผ่านกันไปง่ายๆ เสียแล้ว ต่อให้พะยี่ห้อปรจารย์ด้านกฎหมาย ก็เถอะ
คณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูปและการปรองดองแห่งชาติ (คปป.) ที่ค้านๆ กันหัวชนฝา จนทำเอาร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับเนติบริกรรุ่นน้องบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ แท้งกลางสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ที่ก่อนหน้านี้ขนลุกขนพองว่าจะรีเทิร์นกลับมาในฉบับนี้ เอาเข้าจริง เบี้ยวไม่มาตามนัด แต่ถูกมีชัย เล่นแร่แปรธาตุแบบหักดิบ ต่อไปประเทศเกิดวิกฤติการณ์จนถึงทางตัน ให้ "ศาลรัฐธรรมนูญ" ทำหน้าที่หาทางออกกันไปเลย
จะบอกว่าเอาเกลือจิ้มเกลือคงไม่ผิดนัก ในเมื่อรังเกียจรังงอน คปป. กันแบบออกนอกหน้านอกตา เลยจัดองค์กรตามรัฐธรรมนูญที่มีอยู่แล้วอย่างศาลรัฐธรรมนูญ รับหน้าที่ผ่าทางตันกันไปเสียเลย งานนี้ก็ได้เต้นเป็นเจ้าเข้ากว่าเดิม อย่างที่รู้กันว่า ศาลรัฐธรรมนูญนี่ของแสลงพรรคเพื่อไทยมาตั้งแต่สมัยยังเป็นพรรคไทยรักไทย ต่อเนื่องมาถึง พรรคพลังประชาชน
**นายกรัฐมนตรีในระบอบทักษิณ ไม่ว่าจะเป็น ทักษิณ ชินวัตร สมัคร สุนทรเวช มาถึงสดๆ ซิงๆ อย่างยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตายคาศาลรัฐธรรมนูญกันหมด
ดังนั้น เมื่อมาอีหรอบนี้ ต้องรอดูว่าสุดท้าย ศาลรัฐธรรมนูญจะทำหน้าที่ผ่าทางตัน หรือจะยิ่งทำให้บานปลายไปกว่าเดิม ซึ่งเชื่อขนมกินได้ พรรคเพื่อไทย ต้องตีเกราะเคาะไม้วันยังค่ำว่า บุคคลในองค์กรแห่งนี้เป็นปรปักษ์ เอาแค่ดูกระบวนการสรรหาก็ถูกตั้งแง่กันแล้วว่า คนกันเองในองค์กรอิสระทั้งหลายมานั่งเลือกกันเอง มีแค่ฝ่ายการเมืองเข้าไปนั่งเป็นพระอันดับ สุดท้ายได้แต่คนกันเอง
ขณะที่อำนาจของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หน่วยงานปราบนักการเมืองขี้ฉ้อ วันนี้เหมือนจะได้ดาบอันใหม่ที่คมขึ้น หลังคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) บัญญัติให้พิจารณาคดีที่สำคัญภายในเวลาไม่เกิน 2 ปี ไม่ต้องถูกค่อนแคะอีกว่า ยื่นชาตินี้เสร็จชาติหน้า เรียกว่า รัฐบาลไหนถูกตรวจสอบ รู้เรื่องกันในอายุรัฐบาลนั้นว่าจะหัวหลุดออกจากบ่าหรือไม่ ไม่ต้องให้ม็อบออกมาขับ หรือถูกคนนินทาหมาดูถูกอีกว่า ทีคดีนี้เร็ว ทีคดีนี้ช้า
จะว่าไปก็เร็วทันใจ ชนิดกรรมติดจรวดกันดี แต่ข้อเสียก็ไม่ใช่ไม่มี เพราะบางทีคดีมีความสลับซับซ้อน พยานหลักฐานกองเท่าภูเขา จ้องแต่จะทำให้เสร็จภายในอายุกฎหมาย อาจทำให้สำนวนคดีดูหละหลวม ไปถึงชั้นศาล ถูกตีตกกันอีก นอกจากนี้ ยังน่าสงสัยว่า ที่ระบุว่าคดีใดสำคัญจะต้องเสร็จภายใน 2 ปี จะใช้บรรทัดฐานอะไรเป็นตัวชี้วัดว่า คดีไหนใหญ่ คดีไหนเล็ก อีกทั้งต้องถามถึงกรธ. กันหน่อย โกงมากโกงน้อย มันก็ชั่วเหมือนกันไม่ใช่หรือ
ขณะเดียวกัน อำนาจป.ป.ช. ยังดูกว้างขวางขึ้นกว่าเดิม ต่อไปสามารถร่วมสังเกตการณ์โครงการรัฐบาลได้ด้วยว่า โครงการไหนส่อจะทำให้เกิดความเสียหายก็สามารถแจ้งเตือนให้ระงับได้ โดยร่วมกับอีกสองหน่วยงาน คือ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่มาที่ไปของบทบัญญัตินี้ก็ไม่ต้องสงสัยว่า ไอเดียนี้มาจากไหน ต้องบอกว่า ยิ่งลักษณ์โมเดล อีกครั้ง ในเรื่องของโครงการรับจำนำข้าว ที่ครั้งนั้น ป.ป.ช. ส่งหนังสือไปเตือน แต่รัฐบาลเฉย ไม่สนใจใยดี จนเป็นคดีอยู่ในชั้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตอนนี้
**ดูๆ ภาพรวมในส่วนขององค์กรอิสระ ส่วนใหญ่ได้ดาบคมๆ กันทั้งนั้น ไม่ใช่แค่ ป.ป.ช.และศาลรัฐธรรมนูญ แต่ กกต. และ สตง. ได้ของติดไม้ติดมือกันถ้วนหน้า เอาเป็นว่า ถ้าร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้หลับหูหลับตาผ่านประชามติไปได้ องค์กรอิสระจะกลายเป็นตัวหลอกหลอนพรรคการเมืองกันทีเดียว
ตรงกันข้ามกับพรรคการเมือง และนักการเมือง กรธ.ยิ่งร่างเท่าไหร่ นักการเมืองยิ่งตัวเล็กเท่านั้น อย่าง ส.ส.ที่ก่อนหน้านี้ล็อบบี้ในชั้นแปรญัตติงบประมาณประจำปี เพื่อเอาลงพื้นที่ตัวเองได้ ต่อไปขืนทำแบบให้เขาจับได้ไล่ทัน ถูกตัดสิทธิ์ตลอดชีวิต ไม่ต้องเสนอหน้ากลับมาสภาอีกเลย
งานนี้นักการเมืองได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า ทุกพรรค เสี่ยงต่อฐานเสียงตัวเองที่จะเสียไปสูงลิ่ว เพราะประชาชนอุตส่าห์เลือกไป แต่ไม่มีปัญญาเอางบกลับมาพัฒนาบ้านเกิด แต่จะว่าไป มาตรานี้มันก็พิลึกพิลั่น ย้อนแย้งกับหน้าที่ ส.ส.เหมือนกัน
แต่กระนั้นต่อให้เขียนเสียดิบดี แต่ขึ้นชื่อลือชาว่าเป็นนักการเมืองไทย ผู้ฉีกตำรารัฐศาสตร์ทั่วโลกมาแล้ว เขียนกันเหนียวไว้ขนาดไหน พ่อเจ้าประคุณรุนช่อง หาช่องและวิธีหลบเลี่ยงกันได้อยู่ดี เพียงแต่ใครจะทำได้เนียน ไม่ให้ถูกจับได้คาหนังคาเขาเท่านั้น
แต่โดยรวมใครก็ไม่เจ็บหนักเท่าพรรคเพื่อไทย ที่ไม่ว่าร่างมาตราไหน มีแต่โดนกับโดน ทั้งขึ้นทั้งล่อง กรธ.ร่างมาตราไหนเป็นพรรคเพื่อไทย หรือยิ่งลักษณ์ เป็นโมเดลตลอด อย่างเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญในอนาคต ต่อไปไม่ใช่จะกระทำชำเรากันง่ายๆ กรธ. แก้เผ็ดพรรคเพื่อไทย และบรรดาพรรคร่วมทั้งหลาย ด้วยการกำหนดว่า ต่อไปจะต้องได้รับเสียงสนับสนุนจากทุกพรรคการเมืองที่มี ส.ส.ในสภา ตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป โดยต้องได้คะแนนอย่างน้อยร้อยละ 10
ดังนั้น หากพรรคไหนไม่ร่วมสังฆกรรมเพียงพรรคเดียว เส้นทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่มีวันถึงฝัน ถ้ามองแบบบ้านๆ กรณีพรรคเพื่อไทย เป็นรัฐบาล ต่อให้มีเสียงท่วมท้นสภา แต่ไม่มีปัญญาทำได้สำเร็จแน่ ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ร่วมหอลงโลงด้วย ซึ่งอย่างที่เห็นๆ กันไม่กี่เรื่องที่พรรคเพื่อไทย และพรรคประชาธิปัตย์ จะเห็นตรงกัน
ตลกร้ายกว่า ต่อให้ทั้งสภาหนุนพรรคเพื่อไทยเต็มสูบที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็ต้องไปงอนง้อพรรคประชาธิปัตย์ให้สนับสนุน ซึ่งยากมากที่พรรคประชาธิปัตย์จะเอาด้วย ยกเว้นเรื่องที่ตัวเองได้ประโยชน์เท่านั้นแหละ จะบอกว่า ร่างรัฐธรรมนูญแบบนี้ เพื่อมอบอำนาจการค้านให้พรรคสีฟ้าโดยตรงเลย
อย่างนี้ชนะเลือกตั้งไปก็ไม่มีความหมาย งานด้านบริหารก็โดนขีดเส้นให้เดิน ออกนอกลู่นอกทางไม่ได้ งานด้านฝ่ายนิติบัญญัติ ยิ่งไม่ต้องพูดถึง มีหน้าที่พิจารณากฎหมายอย่างเดียว จะลักไก่ออกนิรโทษกรรม หรือแก้ไขรัฐธรรมนูญเหมือนแต่ก่อน หมดสิทธิ์โดนปิดเรียบร้อยโรงเรียนแป๊ะไปแล้ว
ใครว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับบวรศักดิ์ สุดโต่งแล้ว ร่างรัฐธรรมนูญของซือแป๋มีชัย อำมหิตกว่าเยอะ เพียงแต่ฝีมือคนร่างคนละชั้น เพราะรายหลังทำได้เนียนกว่า
** หากจะบอกว่า สร้างมาฆ่าพรรคเพื่อไทยแบบเลือดเย็นก็คงไม่ผิดกระไร ประชามติคราวนี้ ไม่หมู
กำลังโหลดความคิดเห็น