เมื่อเวลา 10.00 น.วานนี้ (30ธ.ค.) ที่บริเวณหน้าประตูมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ วิทยาเขตหัวหมาก (เอแบค) ซอยรามคำแหง 24 กทม. หลังจากเกิดกรณีความขัดแย้งของคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัย จนเกิดความแตกแยกเป็นสองฝ่ายได้มี นายสุทธิพร ปทุมเทวาภิบาล อธิการบดีมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ พร้อมทนายความ และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของบริษัท กัทส์ อินเวสติเกชั่น จำกัด กว่า 20 นาย นำคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวจากศาลแพ่ง ลงวันที่ 4 ส.ค.58 ว่า ห้ามมิให้บุคคล 5 คน ประกอบด้วย นายบัญชา แสงหิรัญ , นายวิทยา เจริญศรี ,นายธนา กายพันธุ์เลิศ ,นายวีระศักดิ์ อนุ สนธิวงศ์ และ นายสมพล ณ สงขลา ขัดขวางการปฎิบัติหน้าที่ ในฐานะรักษาการอธิการบดี แต่ทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบริษัท จีโฟ เอส ซีเคียว โซลูชั่น (ประเทศไทย) ของมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ได้ทำการขัดขวางไม่ให้ นายสุทธิพร พร้อมพวก เข้าไปด้านใน
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ได้นำประกาศห้ามมิให้บุคคล ซึ่งประกอบด้วย นายสุทธิพร ปทุมเทวาภิบาล น.ส.นรนุช ไผ่แก้ว ดร.รุ่งศรี ว่องวิทวัส น.อ.ชำนาญ สอนแพง เข้าไปในมหาวิทยาลัย โดยนำมาติดบริเวณหน้าประตูทางเข้ามหาวิทยาลัย จากนั้นได้นำกุญแจมาล็อกประตูทางเข้า-ออกไว้ทุกด้าน ซึ่งมีการอ้างว่า เรื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริง โดยห้ามมิให้บุคคลตามที่ประกาศ เข้ามาในมหาวิทยาลัย
ทั้งนี้ นายสุทธิพร ได้นำช่างกุญแจพร้อมเครื่องตัดเหล็ก เข้าทำการตัดโซ่ที่คล้องประตูทางด้านข้าง หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของ นายสุทธิพร กว่า 20 คน พยายามช่วยกันยกประตูออก จนเกิดการกระทบกระทั่งกัน โดยทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของมหาวิทยาลัย ได้นำกำลังมาขัดขวาง พร้อมใช้ถังดับเพลิง และน้ำมาทำการฉีดสกัด เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายเข้าไปภายใน จนเหตุการณ์ชลมุนเกิดขึ้น
ต่อมาได้มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.หัวหมาก และเจ้าหน้าที่ทหาร ร. 12 พัน 2 รอ. จ.สระแก้ว นำกำลังประมาณ 30 นาย เข้าควบคุมสถานการณ์ โดยไม่ให้มีการกระทบกระทั่งกัน ทั้งสองฝ่ายจึงแยกย้ายกันไป โดยทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของมหาวิทยาลัยได้มีการตรึงกำลังไว้โดยรอบ
ด้าน พ.ต.อ.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล รอง ผบก.น.4 กล่าวว่า ตนได้สั่งการให้มีการเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ อคฝ. จำนวน 1 กองร้อย เข้ามาดูเข้าความสงบเรียนร้อยแล้ว ซึ่งระหว่างนี้ จะให้คู่กรณีทั้งสองฝ่ายเจรจากัน เพื่อไม่ให้มีการกระทบกระทั่งกันอีก หากมีใครกระทำผิดกฎหมายก็จะดำเนินการจับกุมทันที
ต่อมาเวลา 11.30 น. นายสุทธิพร พร้อมทนายความได้เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ต.สมเจตน์ พลเหลา พนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ว่า ถูกกลุ่มบุคคลภายในมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ และทำรายร่างกาย จึงเดินทางมาแจ้งความ ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ จะได้เรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบสวนเพิ่มเติม เพื่อแจ้งข้อหากับผู้กระทำความผิดต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีที่เกิดขึ้นเนื่องจาก นายสุทธิพร อธิการบดี คนใหม่ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากสภามหาวิทยาลัย ให้ปฎิบัติหน้าที่แทน ภราดา ดร.บัญชา แสงหิรัญ อดีตอธิการบดี ที่ถูกปลดจากการปฏิบัติหน้าที่ และถูกดำเนินคดีในฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ บริหารขัดต่อหลักธรรมาภิบาล จนส่งผลให้คณะผู้บริหารมหาวิทยาลัย เกิดความแตกแยกเป็น 2 ฝ่าย
ขณะที่ นายสุทธิพร พยายามเดินทางเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ภายในมหาวิทยาลัย แต่ได้ถูกขัดขวาง จากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยชุดเก่าของมหาวิทยาลัย ด้วยเหตุผลว่า สภามหาวิทยาลัยไม่มีอำนาจที่จะแต่งตั้งอธิการบดีได้ ดังนั้นจึงถือว่า นายสุทธิพร ไม่ได้รับการแต่งตั้งตามระเบียบขั้นตอน ไม่มีเอกสารราชการยืนยัน จนส่งผลให้เกิดความชุลมุนดังกล่าวขึ้น
ต่อมาเวลาประมาณ 14.30 น. นายสุทธิพร พร้อมเจ้าหน้าที่ เดินทางกลับมายังหน้ามหาวิทยาลัยอีกครั้ง และได้พยายามใช้คีมตัดกุญแจประตูอีกครั้ง แต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยชุดเก่าของทางมหาวิทยาลัย ได้นำถังดับเพลิงมาฉีดสกัด และมีการโต้เถียงกันเกิดขึ้น ท่ามกลางการเฝ้าระวังสถานการณ์จากตำรวจกองร้อยควบคุมฝูงชน กองบังคับการตำรวจนครบาล 4 (คฝ.บก.น.4) และเจ้าหน้าที่ทหาร
อย่างไรก็ตาม นายสิทธิพร ยังคงไม่สามารถเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ได้ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามไกล่เกลี่ยให้ทั้งสองฝ่ายมาร่วมเจรจา เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุด แต่ก็ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ได้นำประกาศห้ามมิให้บุคคล ซึ่งประกอบด้วย นายสุทธิพร ปทุมเทวาภิบาล น.ส.นรนุช ไผ่แก้ว ดร.รุ่งศรี ว่องวิทวัส น.อ.ชำนาญ สอนแพง เข้าไปในมหาวิทยาลัย โดยนำมาติดบริเวณหน้าประตูทางเข้ามหาวิทยาลัย จากนั้นได้นำกุญแจมาล็อกประตูทางเข้า-ออกไว้ทุกด้าน ซึ่งมีการอ้างว่า เรื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริง โดยห้ามมิให้บุคคลตามที่ประกาศ เข้ามาในมหาวิทยาลัย
ทั้งนี้ นายสุทธิพร ได้นำช่างกุญแจพร้อมเครื่องตัดเหล็ก เข้าทำการตัดโซ่ที่คล้องประตูทางด้านข้าง หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของ นายสุทธิพร กว่า 20 คน พยายามช่วยกันยกประตูออก จนเกิดการกระทบกระทั่งกัน โดยทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของมหาวิทยาลัย ได้นำกำลังมาขัดขวาง พร้อมใช้ถังดับเพลิง และน้ำมาทำการฉีดสกัด เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายเข้าไปภายใน จนเหตุการณ์ชลมุนเกิดขึ้น
ต่อมาได้มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.หัวหมาก และเจ้าหน้าที่ทหาร ร. 12 พัน 2 รอ. จ.สระแก้ว นำกำลังประมาณ 30 นาย เข้าควบคุมสถานการณ์ โดยไม่ให้มีการกระทบกระทั่งกัน ทั้งสองฝ่ายจึงแยกย้ายกันไป โดยทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของมหาวิทยาลัยได้มีการตรึงกำลังไว้โดยรอบ
ด้าน พ.ต.อ.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล รอง ผบก.น.4 กล่าวว่า ตนได้สั่งการให้มีการเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ อคฝ. จำนวน 1 กองร้อย เข้ามาดูเข้าความสงบเรียนร้อยแล้ว ซึ่งระหว่างนี้ จะให้คู่กรณีทั้งสองฝ่ายเจรจากัน เพื่อไม่ให้มีการกระทบกระทั่งกันอีก หากมีใครกระทำผิดกฎหมายก็จะดำเนินการจับกุมทันที
ต่อมาเวลา 11.30 น. นายสุทธิพร พร้อมทนายความได้เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ต.สมเจตน์ พลเหลา พนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ว่า ถูกกลุ่มบุคคลภายในมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ และทำรายร่างกาย จึงเดินทางมาแจ้งความ ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ จะได้เรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบสวนเพิ่มเติม เพื่อแจ้งข้อหากับผู้กระทำความผิดต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีที่เกิดขึ้นเนื่องจาก นายสุทธิพร อธิการบดี คนใหม่ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากสภามหาวิทยาลัย ให้ปฎิบัติหน้าที่แทน ภราดา ดร.บัญชา แสงหิรัญ อดีตอธิการบดี ที่ถูกปลดจากการปฏิบัติหน้าที่ และถูกดำเนินคดีในฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ บริหารขัดต่อหลักธรรมาภิบาล จนส่งผลให้คณะผู้บริหารมหาวิทยาลัย เกิดความแตกแยกเป็น 2 ฝ่าย
ขณะที่ นายสุทธิพร พยายามเดินทางเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ภายในมหาวิทยาลัย แต่ได้ถูกขัดขวาง จากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยชุดเก่าของมหาวิทยาลัย ด้วยเหตุผลว่า สภามหาวิทยาลัยไม่มีอำนาจที่จะแต่งตั้งอธิการบดีได้ ดังนั้นจึงถือว่า นายสุทธิพร ไม่ได้รับการแต่งตั้งตามระเบียบขั้นตอน ไม่มีเอกสารราชการยืนยัน จนส่งผลให้เกิดความชุลมุนดังกล่าวขึ้น
ต่อมาเวลาประมาณ 14.30 น. นายสุทธิพร พร้อมเจ้าหน้าที่ เดินทางกลับมายังหน้ามหาวิทยาลัยอีกครั้ง และได้พยายามใช้คีมตัดกุญแจประตูอีกครั้ง แต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยชุดเก่าของทางมหาวิทยาลัย ได้นำถังดับเพลิงมาฉีดสกัด และมีการโต้เถียงกันเกิดขึ้น ท่ามกลางการเฝ้าระวังสถานการณ์จากตำรวจกองร้อยควบคุมฝูงชน กองบังคับการตำรวจนครบาล 4 (คฝ.บก.น.4) และเจ้าหน้าที่ทหาร
อย่างไรก็ตาม นายสิทธิพร ยังคงไม่สามารถเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ได้ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามไกล่เกลี่ยให้ทั้งสองฝ่ายมาร่วมเจรจา เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุด แต่ก็ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้