“สอดแนมการเมือง”
โดย “ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย”
ท่ามกลางความโลภ-ความตาย-บนโลกใบนี้ มนุษย์ต้อง..รู้จักถูก-รู้จักผิด-รู้จักดี-รู้จักชั่ว แต่ทั้งหมดก็ไม่สำคัญเท่า..ต้องรู้จักตัวเอง!!!
นั่นเป็นเรื่องสำคัญยิ่งของ “คน” โดยเฉพาะคนที่มีอำนาจรัฐในมือ และอ้างตนเป็น “คนดี” ที่เสียสละ ไม่ยึดติดอำนาจ-ลาภยศ-เงินทอง ต้องการทำงานเพื่อชาติและประชาชน
เพราะถ้า “คนผู้นั้น” หลงตน ปกปิดธาตุแท้ของตน ไม่เสียสละจริง ยังหลงอำนาจ-ลาภยศ-เงินทอง-ยังเล่นพรรคเล่นพวก มักสำแดงตน “พูดอย่าง-ทำอย่าง” ยิ่งมีอำนาจรัฐอยู่ในมือ ยิ่งมีโอกาสสูงที่จะทำให้ชาตเสียหายอย่างใหญ่หลวงได้
ยิ่งสถานการณ์โลกซับซ้อน ด้วย “สงคราม” เศรษฐกิจ-การเมือง-การทหาร ฯลฯ แถมรบกันด้วยเทคโนโลยี ล้ำยุคกว่าในสมัยหย่อน “ปรมาณู” ลูกเดียวก็ฆ่ามนุษย์นับแสน เพราะปัจจุบันมนุษย์ได้พัฒนา “ระเบิดไฮโดรเจน” ที่ฆ่ามนุษย์ได้ครั้งละหลายๆล้านคนแล้ว
อีกทั้งโลกยุคดิจิตอล ทำให้ห้วงอวกาศเต็มไปด้วยอุปกรณ์จารกรรม อาวุธทำลายล้างร้ายแรง ศูนย์บัญชาการทำลายฝ่ายศัตรู ฯลฯ ลอยวนอยู่รอบโลก ศึกครั้งต่อไปจึงมิได้รบกันแค่ “บนอากาศ” แต่จะเกิดสงครามทำลายล้างกันใน “ห้วงอวกาศ ” อีกด้วย
นั่นยังไม่รวมถึงอาวุธฆ่าคนหลากรูปแบบ ซึ่งบางชาติกำลังค้นคว้าทดลอง บางชาติผลิตแล้วและเก็บไว้แบบ “ลับสุดยอด” เช่นระเบิดนิวเคลียร์และอาวุธเชื้อโรคแบบพกพา ฯลฯ ซึ่งรอวันเวลานำมาใช้ยามเกิดสงครามจริงเท่านั้น
เรื่องในและเหนือจินตนาการของมนุษย์ทั่วไป หรือจินตนาการในโลกภาพยนตร์จำนวนไม่น้อย ที่มนุษย์สร้างสรรค์ขึ้นด้วยเทคโนโลยีล้ำยุคนั้น ได้กลายเป็นเรื่องจริงไปแล้ว..จริงไหมล่ะ?
มนุษย์เพียงแต่ยังไม่รู้ว่า สงครามใหญ่โตมโหฬาร ที่อาจบานปลายเป็นสงครามโลก จะเกิดขึ้นจากสาเหตุใด? จะเกิดขึ้นระหว่างชาติไหนกับชาติไหน? จะเกิดขึ้นที่ไหน-บานปลายไปยังที่ใด? จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่-เวลาใด? ฯลฯ
หากใช้ “มะโน” ส่วนตน ที่มีโอกาสเป็นจริง ว่าเกิดศึกสงครามระหว่างอเมริกาและชาติตะวันตก กับ รัสเซียและจีน เมื่อนั้นแหละ..มนุษย์โลกจะได้รู้ว่า ฝ่ายใดมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยกว่า มีอาวุธทำลายล้างมนุษย์ทรงประสิทธิภาพมากกว่า ฯลฯ
แต่กว่าสงครามจะ “จบ” พร้อมบทพิสูจน์ว่า “มหาอำนาจฝ่ายใดแน่กว่า” สิ่งที่ต้อง “จบก่อน” หนีไม่พ้นชีวิตมนุษย์จำนวนมหาศาล เฉกเช่นทุกครั้งที่มีสงครามไม่ว่าใหญ่หรือเล็ก
เฉพาะในสงครามโลกทั้งสองครั้ง มีคนตายโดยไม่รู้อิโหน่อิเหน่มากกว่าร้อยล้านคน ในขณะที่ผู้กุมอำนาจรัฐและนายทุนสามานย์ ที่เป็นคนเพียงหยิบมือเดียว ได้ตักตวงผลประโยชน์จากสงคราม จนรวยล้นฟ้าบนซากศพมนุษย์จำนวนมหาศาล นั่นคือ ความโลภ-ความตาย-บนโลก ในอดีตตราบปัจจุบันสู่อนาคต!
แม้สถานการณ์โลกในวันนี้ ยังมิได้ใช้อาวุธมหาประลัยล้ำยุคห้ำหั่นกัน ทั้งนี้เพราะมหาอำนาจและอีกหลายชาติ ต่างมีอาวุธนิวเคลียร์ที่พร้อมจะยิง ทำลายล้างกันและกัน ทั้งบนดิน-บนน้ำ-ใต้น้ำ-บนอากาศ-ในอวกาศ ทั้งระยะใกล้-ระยะกลาง-ระยะไกล ฯลฯ จึงเกิดการถ่วงดุลกันและกันโดยอัตโนมัติ
การปกป้อง-การแสวงหา-การล่าผลประโยชน์ ของชาติมหาอำนาจกับพวกพ้อง ได้สร้างวิกฤติความโลภ-ความขัดแย้ง-ความตาย ทวีความรุนแรงมากขึ้นจนไม่อาจหยุดยั้งได้
ดังเช่น..มหาอำนาจมะกัน ได้สร้างเหตุร้ายและสงครามขึ้นมากมาย เพื่อให้ชาติตนและพวกพ้อง ได้เข้าไปกอบโกยผลประโยชน์จากชาติที่อ่อนแอกว่า ด้วยวิธียุแหย่ทุกรูปแบบ ให้เกิดความขัดแย้งแตกแยก จนคนในชาตินั้นเข่นฆ่ากันเองอย่างบ้าคลั่ง หากโค่นรัฐบาลที่กุมอำนาจรัฐของอีกฝ่ายลงได้ มะกันกับพวกก็จะตั้งรัฐบาลภายใต้ การบงการของชาติมหาอำนาจตะวันตกขึ้นแทนทันที ฯลฯ
มหาอำนาจมะกันที่อ้างตนเป็น “ประชาธิปไตย” และทำตัวเป็น “มาเฟียประชาธิปไตยโลก” ไม่เคยสนใจในสภาพแวดล้อมหลากมิติ ที่ไม่พร้อมของผู้คนในชาติอื่นๆ มะกันจึงมักบีบบังคับให้ชาติอื่นๆ เป็น “ประชาธิปไตยเลือกตั้ง” จนทำให้ชาติอื่นๆเกิดวิกฤติจากการเลือกตั้ง ที่มีทั้งการซื้อเสียงและการโกงเลือกตั้งทุกรูปแบบ ฯลฯ
เมื่อมะกันมิได้ยึดหลักประชาธิปไตยที่แท้จริง แต่กลับยึดหลักรัฐบาลชั่วชาติใด หากให้ผลประโยชน์แก่ชาติตนและพวกพ้อง ก็หลับหูหลับตาสนับสนุนแทบทั้งสิ้น แม้รัฐบาลชาตินั้นๆ จะเป็น เผด็จการเลือกตั้ง-เผด็จการทหาร-หรือเผด็จการรูปแบบใดก็ตาม
ดังการ “พูดอย่างทำอย่าง” ของมะกันและชาติตะวันตก ซึ่งถือรัสเซียและจีนเป็นศัตรูตัวเอ้ แต่ในทางเป็นจริงมะกันและชาติตะวันตก กลับทำมาค้าขายอย่างมหาศาลทั้งลับและเปิดเผย กับรัสเซียและจีนที่มิได้เป็นประชาธิปไตยแบบมะกันแม้แต่น้อย
ยามมะกันเกิดวิกฤติในชาติขึ้น ก็ร้องขอให้มหาอำนาจคู่อาฆาตทั้งสอง มาช่วยลงทุนทางเศรษฐกิจในดินแดนมะกันเสมอ จนวันนี้มะกันตกเป็นลูกหนี้อันดับหนึ่งของชาติจีนไปแล้ว! อีกทั้งยุโรปหลายชาติที่ประสบวิกฤติเศรษฐกิจ ก็วิ่งแจ้นไปขอให้จีนช่วยเหลือ ทั้งๆที่มะกันกับชาติตะวันตก ยังถือจีนเป็นชาติอริของพวกตนอยู่แท้ๆ
เรียกว่า..มะกันกับชาติตะวันตกนั้น มีแต่ผู้นำและกลุ่มทุนสามานย์ ที่ “ปากว่าตาขยิบ-หยิบแต่ประโยชน์ใส่ชาติตน-เหนืออุดมการณ์ประชาธิปไตย”.. จริงไหมล่ะ?
ผู้นำมหาอำนาจทั้งหลายจึง “เล่นไพ่หลายหน้า” มีทั้งร่วมกันแสวงหาประโยชน์ กับผู้นำชาติที่อ่อนแอกว่า มีทั้งบีบบังคับด้วยเล่ห์ร้ายให้ต้องเลือกข้าง ว่าจะเป็นพวกของมหาอำนาจฝ่ายใด? มีทั้งยกกองทัพอธรรมบุกเข้าไปฆ่า-ยึด-ปล้นชาติที่อ่อนแอกว่า ฯลฯ
เมื่อมะกันมีนโยบายจะ “ปล้นชาติอาเซียน ” มากขึ้น จึงต้องปิดล้อมอิทธิพลทุกด้านของจีน ทำให้ภูมิภาคอาเซียนเป็นสมรภูมิสู้รบในทุกมิติ ของชาติมหาอำนาจทั้งหลายทันที หลายชาติในอาเซียนจึงเกิดปัญหาเลวร้ายเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสถานการณ์ร้ายๆในชาติไทยยามนี้
โดยมะกันที่อ้างตนเป็นมหามิตรของชาติไทย ได้ให้การสนับสนุนช่วยเหลือ รัฐบาลเผด็จการรัฐสภาของเหลี่ยมและเครือข่าย ที่ยึดอำนาจรัฐด้วยเงินและโกงเลือกตั้งมาโดยตลอด
ทั้งๆ ที่เป็นรัฐบาลคอร์รัปชั่นโกงชาติ และตั้งศาลเตี้ยฆ่าประชาชนตายกว่าสามพันคน ด้วยข้ออ้างอันสามานย์ว่า “ปราบปรามยาเสพย์ติด” ทุกวันนี้เครือข่ายของอดีตรัฐบาลชั่วๆ ของชาติไทย ที่กลุ่มทุนสามานย์มะกันเคยสมคบกันปล้นชาติ ยังคงใช้ดินแดนมะกันและพวก ทำลายชาติไทยอยู่ทุกวี่วัน
แถมตัวแทนระดับสูงของมะกันบางคน ยังล่วงละเมิดทั้งกฎหมายรัฐธรรมนูญ และกฎหมายอาญามาตรา 112 ของชาติไทย ก้าวก่ายกิจการภายในชาติไทยอยู่เสมอ การกระทำของมะกันที่ไม่ประสงค์ดี และส่งผลร้ายต่อชาติและชาวไทย ไปตรงกับแผนชั่วของกลุ่มคนในรัฐบาลเก่า ที่จะยึดอำนาจรัฐด้วยเงิน และปฏิบัติการล้มเจ้าตลอดเวลาอีกด้วย
ยิ่งรัฐบาลเผด็จการทหารของไทย โค่นล้มรัฐบาล “กู๊ดบอยเหลี่ยม” ของกลุ่มทุนสามานย์มะกันเข้าด้วย ดังนั้น หากรัฐบาลเผด็จการทหารชุดนี้ บริหารชาติไม่ชาญฉลาดและไม่โปร่งใส ไม่ได้แก้ปัญหาหลักของชาติ ไม่ปฏิรูปชาติเรื่องสำคัญๆโดยไว ที่สำคัญไม่ยึดประโยชน์ชาติกับประชาชนเป็นที่ตั้ง หรือไม่สามารถชนะใจประชาชนด้วยผลงานดีๆ ฯลฯ
แน่นอน..รัฐบาลเผด็จการทหารชุดนี้ ย่อมมีจุดอ่อนในตัวเองและผลงาน จนเป็นช่องทางให้กลุ่มคนไทยที่เคยปล้นชาติ สมคบกับมะกันและชาติตะวันตก เข้ามาจุ้นจ้านป่วนบ้านป่วนเมือง ก่อความขัดแย้งแตกแยกในชาติหนักขึ้น จนรัฐบาลเผด็จการทหารชุดนี้อยู่ไม่ได้แน่นอน
งานนี้..แค่ “คางคก-ไอ้เต้น-จ่านิว-ขี้ทูตเดวีส์” ออกมา “ลองของ” รัฐบาล “บิ๊กตู่” ก็ไปไม่ถูกเสียแล้ว..จริงไหม? งานหน้า..ถ้า “เหลี่ยม” กับ “ลุงแซม” ปล่อย “ขี้ข้า” ออกมาลุยเต็มสูบ รัฐบาล “บิ๊กตู่” คงพังพาบแน่!
ทีนี้ล่ะ..งานของชาติจะต้องเสียหายเป็นแน่แท้ ถ้า“ผู้มีอำนาจรัฐในกำมือ” ยังไม่รู้ตัวว่า อะไรเป็นปัญหาสำคัญยิ่ง ที่ต้องแก้ด่วนที่สุด.. เอ้อ..แล้วจะทำได้ไหมล่ะ..?