ผู้จัดการรายวัน 360 - ศาลอนุมัติหมายจับ “เอฟ-ฐนกร” มือโพสต์ผังโกงราชภักดิ์ “ฝ่าย กม.คสช.” เผยล่าตัวคนหมิ่นสถาบันอีกเพียบ จ่อขอหมายจับเป็นร้อย หลังพบเป็นสมาชิกเพจเดียวกัน “ปชต.ใหม่” ซัดรองอธิการฯ มธ.หลังออกแถลงการณ์ห้ามเคลื่อนไหว จี้ออกมาขอโทษ “สรรเสริญ” เซ็งฝ่ายตรงข้ามสลับหน้าป่วน “สวนนงนุช” ยันบริจาคต้นไม้พันกว่าต้น เบิกค่าใช้จ่ายราว 4 ล้าน ประธาน นปช.ปัดใช้ปม "ราชภักดิ์" โค่นรัฐบาล ท้าเปิดเผยข้อมูลพิสูจน์ความบริสุทธิ์
วานนี้ (10 ธ.ค.) ที่ศาลทหารกรุงเทพ พนักงานสอบสวนกองปราบปราม (กก.1บก.ป.) ได้ยื่นคำร้องต่อศาลทหารเพื่อขออำนาจศาลออกหมายจับ นายฐนกร หรือเอฟ ศิริไพบูลย์ อายุ 27 ปี ชาว จ.สมุทรปราการ ในฐานความผิดประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 112 มาตรา 116 เกี่ยวกับการหมิ่นสถาบันเบื้องสูง และความผิดตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 หลังพบว่า นายฐนกร กับพวกร่วมกันเผยแพร่รายละเอียดแผงผังปลอมเกี่ยวกับการทุจริตโครงการสร้างอุทยานราชภักดิ์ โดยมีการพาดพิงไปยังบุคคลระดับสูงของรัฐบาล ซึ่งศาลพิเคราะห์แล้วเห็นควรอนุมัติออกหมายจับตามที่พนักงานสอบสวนร้องขอ
ทั้งนี้ นายฐนกรได้ถูกทหารควบคุมตัวโดยใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราวก่อนหน้านี้แล้ว และฝ่ายกฎหมายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เดินทางมาแจ้งความที่กองปราบปราม เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมา
** ล่าอีกร้อยกว่าคนร่วมเพจเสื้อแดง
พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ เสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชาฝ่ายกฎหมาย คสช. เปิดเผยว่า หลังจากนี้จะควบคุมผู้ต้องหาไว้ก่อน จนกว่าจะมีคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาว่ามีความจำเป็นหรือไม่ที่จะต้องควบคุมตัวผู้ต้องหาจนครบ 7 วัน หากไม่มีความจำเป็นก็จะส่งตัวให้พนักงานสอบสวนนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย และฝากขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพต่อไป
พ.อ.บุรินทร์ กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบเพจเฟซบุ๊ค "สถาบันคนเสื้อแดงแห่งชาติ" พบผู้กระทำผิดที่เข้าข่ายความผิดเดียวกับผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมกว่าร้อยคน ซึ่งหนึ่งในสมาชิกเพจดังกล่าว มี นายอานนท์ นำภา ทนายความคนเสื้อแดง ที่ร่วมเดินทางด้วยรถไฟที่อ้างว่าจะไปตรวจสอบอุทยานราชภักดิ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ กับคณะของ นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ จ่านิว เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.ที่ผ่านมารวมอยู่ด้วย นอกจากนี้เพจดังกล่าวยังมีการแจ้งเตือนสมาชิกให้รีบออกจากกลุ่ม โดยอ้างว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐสร้างเพจขึ้นมาเพื่อเล่นงานเพื่อนสมาชิก
“ฝ่ายกฎหมาย คสช. จะดำเนินการจับกุมบุคคลที่กระทำการผิดกฎหมายในลักษณะความผิดที่ส่อว่าจะเป็นการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพอย่างเด็ดขาด และหลังจากนี้จะมีการออกหมายจับกลุ่มบุคคลในฐานความผิดนี้เพิ่มเติมอีกหลายร้อยคนแน่นอน” พ.อ.บุรินทร์ กล่าว
** ปชต.ใหม่จี้ รองอธิการ มธ.ขอโทษ
ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ นักศึกษากลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่ แถลงข่าวถึงกรณีที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ออกแถลงการณ์ไม่สนับสนุนการทำกิจกรรมของนักศึกษาภายนอกมหาวิทยาลัยฯ โดย นายวรวุฒิ บุตรมาศ กล่าวว่า เนื้อหาของแถลงการณ์ขัดต่ออุดมการณ์ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในการปกป้องสิทธิเสรีภาพของนักศึกษา และยังสอดแทรกความคิดเห็นส่วนตัวของผู้ออกแถลงการณ์ในการตัดสินทางศีลธรรม โดยไม่มองความคิดเห็นของประชาคมชาวธรรมศาสตร์โดยรวม
“ขอเรียกร้องให้ นายชาลี เจริญลาภนพรัตน์ รองอธิการบดีฝ่ายการนักศึกษาและการเรียนรู้ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ถอนคำพูด และขอโทษรับผิดชอบกับการออกแถลงการณ์ดังกล่าว” นายวรวุฒิ ระบุ
ขณะที่ นายรังสิมันต์ โรม กล่าวว่า ถึงการจับกุมนายฐนกรผู้เผยแพร่ผังการทุจริตโครงการอุทยานราชภักดิ์ ว่า ขอให้ดำเนินการตามวิธีพิจารณาความอาญาปกติ ไม่ใช่จับกุมไปที่ไหนมาก็ไม่รู้ ทำอย่างนี้ไม่ต่างจากการลักพาตัว ทั้งนี้ยอมรับว่าแผนผังดังกล่าวทางกลุ่มเป็นต้นทางผู้เผยแพร่ แต่กรณีจับกุมนายฐนกรไม่ทราบว่าเจ้าหน้าที่ใช้เหตุใดเป็นหลัก
** “ไก่อู” จวกรวมหัวป่วนช่วงปิดคดีข้าว
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินการเรียกรับผิดทางแพ่งโครงการรับจำนำข้าวในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในส่วนของคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงและกำหนดค่าความเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าว กระทรวงการคลัง ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำพยาน ซึ่งรัฐบาลได้อนุมัติขยายเวลาพิจารณาไปจนถึงวันที่ 30 ธ.ค.นี้ แต่หากคณะกรรมการสอบฯจะร้องขอหรือต้องการเวลาเพิ่มในการสอบข้อเท็จจริง รัฐบาลก็ไม่ขัดข้อง เพราะต้องการให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ มิให้ใครมากล่าวอ้างเอาภายหลังว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า เป็นที่น่าสังเกตว่า เมื่อคดีสำคัญอย่างคดีจำนำข้าวใกล้ที่จะมีผลตัดสิน ก็มักจะมีกลุ่มจัดกิจกรรมทางการเมืองออกมาเคลื่อนไหวเพื่อสร้างความวุ่นวายและพยายามสร้างข่าวเท็จโจมตีรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นกลุ่มเดิมๆทั้งนักการเมือง นักศึกษาที่ผลัดเปลี่ยนสลับหน้ากันออกมาสร้างความวุ่นวายในสังคมเป็นระยะ สลับกันไปมาอย่างเป็นระบบ เพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาล และก่อความวุ่นวายให้ประชาคมโลกเข้าใจประเทศไทยผิดๆ
**“วิษณุ” แจงเรี่ยไรกับบริจาคต่างกัน
ด้าน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีการเปิดเผยเอกสารการประชุมของคณะกรรมการควบคุมการเรี่ยไรของภาครัฐ (กคร.) ซึ่งไม่ปรากฎข้อมูลการขอเรี่ยไรเงินเกี่ยวกับการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์ตลอดปีงบประมาณ 2558 ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่า การบริจาคไม่ถือเป็นการเรี่ยไร หากไม่เข้าข่ายการเรี่ยไรก็ไม่เข้าระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี และหากทำในรูปแบบของมูลนิธิก็ไม่เข้าเงื่อนไขเช่นกัน เพราะไม่ใช่การเรี่ยไรของทางราชการ
“ยอมรับว่าการบริจาคกับการเรี่ยไรมีความใกล้เคียงกัน เหตุที่มีการควบคุมการเรี่ยไร เพราะจะมีเงินเข้ามามาก อาจมีการยักย้ายถ่ายเททำให้สับสน จึงต้องมีการทำบัญชีให้ชัดเจน แต่การบริจาคเป็นการเจาะจงว่าจะนำเงินดังกล่าวไปใช้ทำอะไร แต่ไม่ว่าจะเป็นการเรี่ยไรหรือบริจาคจะต้องมีการควบคุมโดยกฎหมายหรือระเบียบที่แตกต่างกัน” นายวิษณุ กล่าว
** “สวนนงนุช” ยันบริจาคต้นไม้ให้จริง
วันเดียวกัน นายกัมพล ตันสัจจา ผู้อำนวยการสวนนงนุช พัทยา เปิดเผยถึงการปรับภูมิทัศน์โดยรอบบริเวณอุทยานราชภักดิ์ ที่ทางกองทัพบกมอบหมายให้สวนนงนุช พัทยา เป็นผู้ดำเนินการในขณะนี้ว่า สวนนงนุชได้นำเจ้าหน้าที่กว่า 100 คนมาระดมปลูกต้นไม้ และจัดแต่งสวนรอบอุทยานฯ พร้อมทั้งเป็นผู้บริจาคต้นไม้ โดยมีต้นปาล์ม ต้นตาล และต้นไม้ชนิดอื่นๆกว่า 1,000 ต้นให้กับโครงการฯ อย่างไรก็ตามค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าน้ำมันรถที่ใช้ขนส่ง และค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการว่าจ้างให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการ เป็นเงินจำนวน 4 ล้านบาทก็ได้เบิกกับมูลนิธิอุทยานราชภักดิ์แล้ว
** นปช.ปัดจ้องล้มรัฐบาล
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวในรายการมองไกล ผ่านเว็บไซต์ยูทิวป์ตอนหนึ่งว่า การไปแลกเปลี่ยนข้อมูลกรณีอุทยานราชภักดิ์กับ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม เป็นไปด้วยดี ทุกฝ่ายช่วยกันทำความจริงให้ปรากฏ แต่เมื่อผู้รับผิดชอบการจัดสร้างยอมรับว่ามีการทุจริตจริง คงไม่มีใครจะออกมาบอกว่าไม่มีความผิดได้ และกรณีนี้เราไม่ได้มุ่งหวังนำมาล้มรัฐบาล รวมทั้งไม่ใช่ประเด็นการเมือง แต่เป็นความรับผิดชอบที่อยู่เหนือการเมือง แต่เชื่อเพียงว่าถ้ากล้าโกงโครงการอุทยานราชภักดิ์แล้ว จะไม่มีอะไรในแผ่นดินที่จะไม่กล้าทุจริตอีก ประชาชนไม่สบายใจในสิ่งนี้ แต่รัฐบาลกลับเอากองเชียร์ประชาชนและนักศึกษาบางกลุ่มมาหนุน
“รัฐบาลไม่ต้องกลัวถูกไล่ พวกผมเพียงเรียกร้องให้หาความจริงเท่านั้น ต้องพิสูจน์ให้ชัดเจน เพราะราชภักดิ์เป็นสิ่งภาคภูมิของคนไทย และต้องการจัดการสิ่งไม่ดีให้เรียบร้อย เงินบริจาคไม่น่าเป็นความลับ ไม่ควรปกปิด” นายจตุพร กล่าว.