ผู้จัดการรายวัน360 - "บิ๊กตู่" ลั่นสั่งจับมือโพสต์ผังโกงราชภักดิ์เอง ไม่ห่วงหลังบ้านถูกโยง เหตุไม่ใช่เรื่องจริง ยันปรับ ครม. เรื่องราชภักดิ์ก็ไม่จบ แต่ห่วงทุจริตจำนำข้าวถูกกระแสกลบ "ประวิตร"ลั่นลากคอยกแก๊ง ทหารแจ้งความหนุ่มบริษัทอะไหล่รถยนต์มือปล่อยแล้ว ฟันผิด ม.112 , ม.116 และพ.ร.บ.คอมพ์ "ตู่-เต้น" ควงคู่ให้ข้อมูลโกง รมว.ยุติธรรม ยอมรับมีทุจริตจริง เพื่อไทยขย่มซ้ำ ออกแถลงการณ์ 12 ข้อ จี้นายกฯ ตอบให้เคลียร์ มธ.วอนนักศึกษาหยุดเคลื่อนไหว หวั่นเป็นเครื่องมือให้การเมือง ด้านตำรวจงัดกฎหมายห้ามชุมนุมเล่นงาน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยถึงกรณีเจ้าหน้าที่จับกุมผู้เผยแพร่แผนผัง “เปิดปมการทุจริตอุทยานราชภักดิ์” ได้แล้ว ว่า ไม่ต้องมีข่าวตนรู้อยู่แล้ว เพราะเป็นคนสั่งเขาจับเอง ทำไม แล้วจะยังไง เขาจับมาแล้วมีตัวมีชื่อ มีรูปหน้า มีบัตรประชาชน กำลังสอบว่าโยงไปถึงใคร สำหรับเหตุผลในการโพสต์ดังกล่าวก็ยังไม่รู้ เขากำลังสอบ เบื้องต้นผู้ถูกจับบอกว่าไม่รู้ รับจากคนอื่นมา พูดทำนองนี้ตลอดไอ้พวกนี้ แต่มันโพสต์จังเลย ทุกที ทำไมต้องส่ง ตนก็ไม่เข้าใจ ซึ่งเมื่อเห็นแล้วก็โมโห มันไม่ใช่เรื่อง
ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นห่วงจิตใจคนหลังบ้านหรือไม่ที่ถูกพาดพิงในแผนผังด้วย นายกฯ กล่าวว่า จะไปโยงใยอะไร ก็ไม่ใช่เรื่องจริง เขาก็ไม่เดือดร้อนอะไร อย่าไปยุ่งกับทุกเรื่อง ถ้าเรามั่นใจว่าเราทำในสิ่งที่ดีแล้ว และไม่ได้ทำในสิ่งที่เขาว่ามา มันก็ต้องทำใจให้สบาย ต้องไปว่าคนทำ เดี๋ยวก็หาว่าตนไปรังแก ละเมิดสิทธิมนุษยชนในการใช้สื่อโซเชียลมีเดีย อย่างนั้นก็เตลิดกันไปให้หมดแล้วกัน อยากจะด่าว่าใครก็เขียนลงมา
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกถึงกระแสปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ยังหรอก ยังไม่มี ข่าวมาจากไหน ไม่ปรับ ยังไม่ปรับ ไม่ปรับ ปรับเมื่อไรไม่รู้ อยากจะปรับก็ปรับ แต่ยังไม่อยากปรับในตอนนี้ แล้วทำไมต้องปรับละ ปรับผมออกดีกว่ามั้ง พร้อมกับระบุต่อว่า ถึงปรับแล้วก็แก้ปัญหาราชภักดิ์ไม่ได้ ตราบใดที่ผลการสอบสวนยังไม่ออกมาชัดเจน เดี๋ยวมันก็ไปเรื่องอื่นอยู่ดี ตอนนี้เขาสร้างข่าวจนสื่ออินไปกับเขาแล้ว ปัญหาโครงการจำนำข้าวหายไปแล้ว สื่อถามเรื่องจำนำข้าวบ้างสิ แล้วตนจะตอบให้ ถ้ามันไม่ทันใจเดี๋ยวจะเล่นมันทั้งคู่ ดูซิใครมันจะเดือดร้อนกันบ้างไหม
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงเรื่องการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ว่า ตนไม่พูดแล้ว เรื่องนี้ยุติอยู่แล้ว จบอยู่แล้ว ไม่มีอะไร ตอนนี้เขาสอบกันอยู่ แต่ยังไม่ได้สรุป เขาทำโปร่งใส ไม่ใช่ไปเขียนกันเองว่าทหารตั้งกันเอง เขาต้องดู เพราะมันมีรูปแบบอยู่ คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงมีหลายคน เขาไม่ยอมเสียชื่อ และทำเต็มที่
ส่วนคนที่เขียนแผนผังว่านายกฯ ภรรยา และลูก รวมถึงหาว่าตนเป็นคนเดียวกับ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม สามารถจับได้แล้ว และจะมีการจับอีก เนื่องจากมีขบวนการดำเนินการเรื่องนี้ ไม่ใช่เป็นการคิดคนเดียว ส่วนจะเกี่ยวกับกลุ่มการเมืองหรือไม่ ไม่อยากบอก เดี๋ยวมันจะหนี แต่จะจับทั้งหมดให้ได้ ทำแบบนี้เสียหาย เพราะมันเป็นเรื่องไม่จริง
เมื่อถามถึงกรณีนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว ยืนยันที่จะเดินทางไปอุทยานราชภักดิ์อีก พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “ผมบอกแล้วว่าถ้าจะไปไหว้ไปเลย แต่ถามว่าจะไปทำอะไร หากตรวจสอบจะเอาอะไรตรวจสอบ ไฟฉายหรือ โธ่เอ๊ย”
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า ล่าสุดได้รับรายงานว่าเจ้าหน้าที่ทหารสามารถควบคุมตัวผู้ที่โพสต์แผนผังการทุจริตโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ได้แล้ว
ที่กองปราบปราม พล.ต.วิจารณ์ จดแตง หัวหน้าส่วนปฏิบัติการคณะทำงานด้านกฎหมาย คสช. พร้อมด้วย พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ เสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชาฝ่ายกฎหมาย คสช. เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.ชนะ ขำทอง พนักงานสอบสวน กก. 1 บก.ป. เพื่อแจ้งความดำเนินคดี กับนายฐนกร หรือเอฟ ศิริไพบูลย์ อายุ 27 ปี ในข้อหาผิดมาตรา 112 , มาตรา 116 ฐานยุยงปลุกปั่น และผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (1)
พล.ต.วิจารณ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากหน่วยข่าวกรองของทหาร ได้สืบทราบว่ามีการโพสแผนผังเปิดปมการทุจริตอุทยานราชภักดิ์ ตอนที่ 1 ตอนที่ 2 และตอนที่ 3 และอุทยานราชภักดิ์ต้องใช้ใบบัวปิด 5,920,000 ใบ ถึงจะปิดได้ โดยมีเนื้อหาสาระระบุว่าบุคคลที่ถูกพาดพิงเกี่ยวข้องได้รับประโยชน์จากโครงการนี้เป็นเงินจำนวนมาก เบื้องต้นเชื่อว่าเป็นข้อมูลเท็จ จึงได้ดำเนินการสืบสวนกระทั่งทราบว่า นายฐนกร ศิริไพบูลย์ เป็นผู้เผยแพร่ภาพแผนผังอุทยานราชภักดิ์ กระทั่งเวลา 16.30 น. วันที่ 8ธ.ค. เจ้าหน้าที่อาศัยอำนาจตาม ม.44 เข้าคุมตัวนายฐนกร ได้ที่ บริษัท อาบาเทก (เอเชีย) จำกัด ภายในนิคมอุตสาหกรรมบางปู จ.สมุทรปราการ ก่อนที่จะเข้าตรวจค้นภายในบ้านพัก ยึดคอมพิวเตอร์ พร้อมกับโทรศัพท์มือถือของนายฐนกร ให้เจ้าหน้าที่บก.ปอท.ไปทำการตรวจสอบ ก่อนคุมตัวไปทำการสอบปากคำที่ค่ายทหารแห่งหนึ่ง
จากกการสอบสวนนายฐนกร ให้การว่า ประกอบอาชีพรับจ้าง บริษัท อาบาเทก (เอเชีย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ และเมื่อวันที่ 7 ธ.ค. เวลา 10.00 น. ได้เล่นเฟซบุ๊กโดยใช้ชื่อบัญชีว่า Thanakorn Siripaiboon ผ่านทางโทรศัพท์มือถือ และได้เห็นรูปภาพแผนผังดังกล่าว ก่อนทำการบันทึกลงในโทรศัพท์ ต่อมาเวลา 19.45 น. ของวันที่ 8 ธ.ค. ได้นำรูปภาพดังกล่าวเผยแพร่ลงในเพจ “สถาบันคนเสื้อแดงแห่งชาติ” โดยเพจดังกล่าวเป็นเพจที่พูดคุยกันเรื่องการเมืองต่อต้านการทำงานของรัฐบาล กระทั่งถูกคุมตัวในที่สุด โดยเหตุผลที่ทำลงไป เพื่อต้องการให้ประชาชนหรือกลุ่มคนที่มีความเห็นด้วยเกิดการรวมตัว เพื่อให้ต่อต้านและเปลี่ยนแปลงรัฐบาล
ที่สำนักงานรัฐมนตรีชั้น 9 กระทรวงยุติธรรม นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. เดินทางเข้าให้ข้อมูลเกี่ยวกับกรณีการตรวจสอบการทุจริตโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ พร้อมทั้งพูดคุยถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม โดยมีพล.อ.นิวัตร มีนะโยธิน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ท.กรทิพย์ ดาโรจน์ และนายฉัตรชัย ยอดอุดม รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เข้ารับข้อมูลและพูดคุยด้วย
พล.อ.ไพบูลย์กล่าวภายหลังหารือว่า จะนำเอกสารหลักฐานที่ทั้ง 2 คนนำมาให้ส่งให้ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) ไปประกอบการพิจารณา โดยเอกสารเป็นการตั้งข้อสังเกตเป็นประเด็นและให้สอบแต่ละเรื่อง ไม่ได้มีหลักฐานชี้ชัดว่าใครหรือมีการทุจริตตรงไหน
อย่างไรก็ตาม โครงการดังกล่าวมีการทุจริตแน่นอน เพราะได้รับคำยืนยันจากฝ่ายปฎิบัติและบุคคลที่เกี่ยวข้องแล้ว จึงเป็นหน้าที่ของหน่วยงานตรวจสอบที่จะต้องตรวจให้พบว่าทุจริตในช่วงเวลาใด และมีบุคคลใดเกี่ยวข้อง จะบอกว่าผลสรุปไม่ทุจริต หรือตรวจไม่พบไม่ได้ ในเมื่อผู้ปฎิบัติออกมายอมรับแล้วว่ามีการทุจริตทุกคนก็เชื่อว่ามีการทุจริต
ด้านนายจตุพรกล่าวว่า ได้ขอให้ตรวจสอบหลายเรื่อง ตั้งแต่เรื่องงบบริจาค การโยกงบประมาณ การตรวจสอบโลหะที่นำมาหล่อว่าได้มาตรฐานหรือไม่ ซึ่งได้ยืนยันไปว่าจะใช้กระบวนการปกติตรวจสอบไม่ได้ ขอให้มีตัวแทนภายนอกมาร่วมตรวจสอบการทำงานของ ศอตช. ด้วย
วันเดียวกันนี้ พรรคเพื่อไทยได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 6 เรื่อง โครงการอุทยานราชภักดิ์ โดยมีข้อเรียกร้องจำนวน 12 ข้อ ได้แก่ ใครเป็นผู้ริเริ่มโครงการ , ทำไมจึงสร้างที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ , ทำไมจึงมีการสร้างบ้านพักรับรอง , ทำไมไม่ตั้งงบประมาณในการก่อสร้าง , ทำไมถึงใช้งบกลางในขณะที่เศรษฐกิจประเทศมีปัญหา , ความเหมาะสมในการขอบริจาค , เหตุใดต้องใช้วิธีพิเศษ , เซียนพระเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างไร , มีการฟ้องร้องบุคคลที่หาประโยชน์จากโครงการหรือยัง , เหตุใดจึงขัดขวางและจับกุมนักศึกษา , มีการตรวจสอบการทุจริต แต่ทำไมรัฐบาลถึงเบี่ยงเบนไปเป็นประเด็นการเมือง และรัฐบาลมีแนวทางขอพระราชทานอภัยโทษอย่างไร โดยขอให้นายกรัฐมนตรีชี้แจงข้อสงสัยอย่างเปิดเผย โปร่งใส ต่อสาธารณะชนโดยเร็ว
ขณะที่ฝ่ายการนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ออกแถลงการณ์เรื่อง กรณีนักศึกษาธรรมศาสตร์เคลื่อนไหวทางการเมืองภายนอกมหาวิทยาลัย โดยมีใจความระบุว่า มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ไม่ได้ปิดกั้นการแสดงออก ส่งเสริมการใช้สิทธิเสรีภาพ แต่มีความเป็นห่วงในสวัสดิภาพและความปลอดภัยของนักศึกษา จึงขอเรียกร้องให้หยุดการจัดกิจกรรมนอกมหาวิทยาลัยที่อาจก่อให้เกิดความขัดแย้ง
นายสมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) กล่าวว่า มธ.ไม่ได้ห้ามนักศึกษาทำกิจกรรม หรือห้ามแสดงออก นักศึกษามีสิทธิเสรีภาพ แต่ต้องเข้าใจบริบทของสังคม ซึ่งวันนี้ถูกโยงไปเป็นเรื่องการเมือง ไม่ใช่การตรวจสอบทุจริต ตนสนับสนุนให้นักศึกษาตรวจสอบทุจริตในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น พ.ร.บ.นิรโทษกรรม โครงการจำนำข้าว แต่จะต้องอยู่บนพื้นฐาน และบริบทของสังคม
ด้าน พล.ต.ต.ทรงพล วัธนะชัย รองโฆษก ตร. กล่าวถึงกรณีการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ของนักศึกษากลุ่มประชาธิปไตยศึกษา ว่า จะดำเนินการต่อผู้ที่มาชุมนุมที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย พ.ร.บ.การชุมนุมในที่สาธารณะ โดยตำรวจในพื้นที่ก็เตรียมความพร้อมในการเข้าไประงับยับยั้งไม่ให้เกิดหตุการณ์ชุมนุมสร้างความวุ่นวายในบ้านเมืองขึ้นได้ เนื่องจากตอนนี้กฎหมายไม่อนุญาตให้ทำได้ อีกทั้งช่วงนี้เป็นช่วงที่ประเทศชาติกำลังมีการจัดระเบียบเพื่อขับเคลื่อนไปข้างหน้า ทุกคนต้องมีสติ มีเหตุผล
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ล่าสุดพนักงานสอบสวนคดีหมิ่นเบื้องสูง ม. 112 ได้เดินทางไปที่ศาลทหาร เพื่อยื่นคำร้องขออำนาจศาลออกหมายจับ พ.ต.ท.จีรวัฏฐ์ บุญวัฒนาภรณ์ สว.สทล. 2 กก.1 บก.ทล. .ในฐานความผิดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติ หน้าที่โดยมิชอบ ม.157 และสนับสนุนให้บุคคลอื่นมีอาวุธปืนที่นายทะเบียนออกใบอนุญาตได้ และมีอาวุธปืนที่นายทะเบียนออกใบอนุญาตไม่ได้ไว้ในความครอบครอง หลังพบพฤติกรรมว่า พ.ต.ท.จีรวัฏฐ์ได้ทำหนังสือเบิกอาวุธปืนชนิด เอ็มแซดโฟร์ 1 กระบอก และอาวุธปืนกล๊อกขนาด 9มม. 2 กระบอก โดยของกลางทั้งหมดถูกพบที่ห้องพักของ พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา หรือสารวัตรเอี๊ยด ภายในคอนโดลาเมซอง
