พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. กล่าวถึง การแก้ปัญหาหนี้สินของข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา ว่า หนี้สินครูมีอยู่ 3 เปอร์เซ็นต์ วันนี้มีการขยายความจะไปเอาเงินที่ไหนมา 2 ล้านล้านบาท บริจาคคนละล้านกันไหม หรือจะบริจาคกันคนละ 100 บาทกันไหม ซึ่งมีอยู่ 3 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่มีปัญหา นอกนั้นเขาก็ผ่อนชำระอยู่ อย่าไปเป็นเครื่องมือให้คนบางประเภท ยกหนี้ให้แล้วกัน รัฐบาลจะเอาเงินที่ไหนมา ใครก็ทำไม่ได้ จะให้ขึ้นภาษีไหม จะเอาที่ไหนก็ไม่ได้อีก คิดให้มีตรรกะสิ จะให้มีการรวบครูแล้วตั้งกระทรวงขึ้นมา เรื่องนี้ตนไม่สนใจ ถ้าอยากทำไปทำวันข้างหน้า อย่าไปเขียนเลอะเทอะ 5 แท่ง 6 แท่ง 10 แท่ง ช่างมันเถอะ วันนี้ตนต้องการให้รัฐมนตรี ปลัดกระทรวง รวมกับ 5 ส่วนราชการ ทำงานให้ได้ เพราะฉะนั้นนี่คือมาตรา 44 ไม่ใช่เอามาตรา 44 ไปล้มอะไรไม่ใช่ ให้เขามีช่องทางบูรณาการตรงนี้ ยุบแล้วได้อะไรขึ้นมาไม่เห็นจะได้ จากการประเมินมีปัญหาหมด มี พ.ร.บ. คนละแท่ง แล้วจะทำงานได้ไหม จะปฏิรูปการทำงานได้ไหม รัฐมนตรีต้องรับผิดชอบ ซึ่งรัฐมนตรีต้องเรียกทุกคนมาหารือร่วมกัน แล้วให้ทุกคนทำงานตามแท่งของตัวเอง นี่คือมาตรา 44 ในการปกครอง
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้ตนขอบอกว่าให้ข้าราชการทุกระทรวง ปรับตัวเองใหม่ทั้งหมด จะทำงานตามแผนโครงการงบประมาณที่มีในกระทรวงไม่ได้ ต้องเอากระทรวงอื่นมาร่วมด้วย อย่างเรื่องการขยายสนามบิน เปิดด่าน หรือขยายถนน ที่ผูกพันกันกับหน่วยงานอื่น ก็ต้องมาคุยกัน ระยะที่ 1 จะต้องมาคุยกันตรงนี้ อย่างเรื่องท่าเรือ ก็ต้องไปเจรจากับประเทศอื่น ไม่ใช่ไม่พูดกับประเทศนี้ ไปพูดแล้วเขาจะเอาหรือไม่ ประเทศไทยไม่ใช่มหาอำนาจ ที่จะไปสั่งใครได้
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้ตนขอบอกว่าให้ข้าราชการทุกระทรวง ปรับตัวเองใหม่ทั้งหมด จะทำงานตามแผนโครงการงบประมาณที่มีในกระทรวงไม่ได้ ต้องเอากระทรวงอื่นมาร่วมด้วย อย่างเรื่องการขยายสนามบิน เปิดด่าน หรือขยายถนน ที่ผูกพันกันกับหน่วยงานอื่น ก็ต้องมาคุยกัน ระยะที่ 1 จะต้องมาคุยกันตรงนี้ อย่างเรื่องท่าเรือ ก็ต้องไปเจรจากับประเทศอื่น ไม่ใช่ไม่พูดกับประเทศนี้ ไปพูดแล้วเขาจะเอาหรือไม่ ประเทศไทยไม่ใช่มหาอำนาจ ที่จะไปสั่งใครได้