00 ยังคงร้อนฉ่าต่อไป เมื่อยังไม่มีความชัดเจนใดๆ ออกมาจากทางรัฐบาล คสช.กับ“ปมอุทยานราชภักดิ์”จึงกลายเป็นประเด็นที่“ฝ่ายตรงข้าม” นำมาต่อความยาวสาวความยืด ส่วนคนในรัฐบาลคสช. ก็ได้แต่แบ๊ะๆ โบ้ยให้คอยผลการตรวจสอบคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงของกระทรวงกลาโหม ที่มี พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รองปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน แต่ปัญหาก็คือว่า คณะกรรมการฯชุดนี้ไม่ได้มีกำหนดระยะเวลาการทำงาน จะเสร็จเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ปล่อยไว้อย่างนี้จะส่งผลร้ายมากกว่าดี เพราะกลายเป็นประเด็นที่อยู่ในกระแสเขย่าฐานอำนาจคสช.ให้สั่นคลอนไปเรื่อย ที่แน่ๆ“ขบวนการดิสเครดิต”ไม่ยอมให้ประเด็นอุทยานราชภักดิ์ ถูกข่าวอื่นกลบกระแสไปง่ายๆ แม้จะมีความพยายาม“สร้างข่าว”อื่นมากลบอยู่ตลอด
00 ฟังเสียง“บิ๊กโด่ง”พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม ในฐานะประธานมูลนิธิอุทยานราชภักดิ์ ที่เปรยเสียงอ่อยกับสื่อก่อนเข้าประชุม ครม.เมื่อวานนี้ว่า “เป็นเพียงมนุษย์ปุถุชน มีอะไรเข้ามาก็ต้องคิดบ้าง”ไม่ใช่เรื่องอะไร ก็เรื่องกระแสกดดันให้ลาออกจากตำแหน่งรับผิดชอบเหตุความวุ่นวายที่เกิดขึ้นจากโครงการก่อสร้าง “อุทยานราชภักดิ์”นั่นเอง ไม่รู้ “คนนั่งอมยิ้ม”จะเห็นใจกันหรือเปล่า
00 บอกไปแล้วว่าการที่ “พี่ทหาร”ไปสกัดจับตัว“แกนนำนปช.-นักศึกษา”ที่จะเดินทางไปอุทยานราชภักดิ์ ส่งผล“ด้านลบ”ทั้งในสายตาประชาชน รวมไปถึงสื่อต่างประเทศที่ประโคมข่าวใหญ่โต ในประเด็นการลิดรอนเสรีภาพ ในทางกลับกันยิ่งเพิ่มน้ำหนักความผิดปกติของโครงการฯให้มากขึ้นไปอีก โดยเฉพาะการปิดปรับปรุงอุทยานฯอย่างกะทันหัน ในวันที่กลุ่มนักศึกษาจะเดินทางไป ยิ่งขยาย“พิรุธ”ไปกันใหญ่ ในความเป็นจริงถ้ามีใครบอกจะเดินทางไปอุทยานราชภักดิ์ “ฝ่ายทหาร”ไม่น่าขัดขวาง และควรอำนวยความสะดวกให้ด้วยซ้ำ เพราะอันที่จริง“กลุ่มดิสเครดิต”ส่งทีมงานเข้าไปเก็บข้อมูลไว้หมดแล้ว เต็มที่ก็ได้แค่ไปชี้โบ๊ชี้เบ๊ ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ก็เท่านั้น
00 ดูอย่าง “บิ๊กต๊อก”พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ที่หมวกอีกใบนั่งเป็นประธานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) ที่นัดหมาย จตุพร พรหมพันธุ์–ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. มาให้ข้อมูลเรื่องที่ติดใจสงสัยเกี่ยวกับการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ อันนี้ต้องถือว่า“เล่นเป็น”ที่เปิดใจกว้างรับฟัง แม้รู้กันดีว่าไม่ใช่“พวกเดียวกัน”แต่หากได้จับเข่าคุยกัน ก็ยังพอตีกรอบห้ามปรามเรื่องที่ละเอียดอ่อนกันได้บ้าง ขนาด “เดอะเต้น”ยังออกมาอวยเลยว่า“บิ๊กต๊อก”ใจนักเลง
00เจออินโฟกราฟิกซีรี่ย์“อุทยานราชภักดิ์”ที่ทาง“กลุ่มประชาธิปไตยใหม่”ปล่อยออกมาทางโซเชี่ยล ทำเอา"บิ๊ก คสช." ถึงกับเต้นผาง โดยเฉพาะ“บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เดือดปุดๆ เพราะดันลาก“อ.น้อง”นราพร จันทร์โอชา ศรีภรรยา มาเอี่ยวด้วย ว้ากใส่สื่อไม่พอ เห็นว่าในที่ประชุมครม. เมื่อวานนี้โดน“พ่นไฟ”ใส่กันเป็นแถบๆ ทั้งที่ผังของ“ขบวนการดิสเครดิต”ไม่ได้มีอะไรมาก เป็นแค่การ“จับต้นชนปลาย” ข้อมูลตามสื่อต่างๆ แต่เพิ่ม“ความลึก”ด้วยการเชื่อมโยง“บุคคลระดับสูง”ของรัฐบาล ใครไม่เกี่ยวก็น่าจะออกมาเคลียร์ไปให้จบๆ
00 ความเพลี่ยงพล้ำของรัฐบาล คสช. นอกจากต้องโทษ “ฝ่าย เสธ.”ที่ไล่งับเหยื่อจนมั่วซั่วแล้ว ต้องตำหนิ“สองโทรโข่ง”ทั้งโฆษกรัฐบาล พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด กับโฆษกคสช. พ.อ.วินธัย สุวารี ที่ให้ข่าวไม่ทันเกมฝ่ายตรงข้าม พร่ำไปเรื่อยว่าเป็น“เกมการเมือง”โดยใช้ถ้อยคำเสียดสี ความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้ามแบบ“แผ่นเสียงตกร่อง”แถมพูดลอยๆว่า โปร่งใส ตรวจสอบได้ แต่ไม่เห็นเคยนำหลักฐานอะไรมา“หักล้าง” ข้อกล่าวหา เอาแค่เรื่องงบกลาง 63.5 ล้านบาท ที่นายกฯ อนุมัติไป เคยพูดถึงบ้างไหม ตอบซิตอบ... มีลูกน้องแบบนี้ก็ปวดเฮดแทน“บิ๊กตู่”อย่างนี้ควรเลิกใช้บริการ“มือสมัครเล่น”หันไปพึ่ง“มืออาชีพ”ดีกว่า
00 กรีดกันนิ่มๆ สไตล์นักการทูต เมื่อ มาร์ค เคนท์ เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย ทวิตข้อความผ่านแอคเคาต์ส่วนตัว @KentBKK แปลเป็นไทยคร่าวๆ ว่า “ผมคิดว่าการที่รัฐบาลไทยอนุญาตให้มีการชุมนุมหน้าสถานทูตสหรัฐฯ ถึง 200 คน แสดงให้เห็นถึงการผ่อนคลายมาตรการจำกัดเสรีภาพในการชุมนุมแล้วเสียอีก”เหน็บเบาๆไปถึงคนในรัฐบาล ทำเอากระอักเลือดกันเป็นแถบๆ ห่วงแค่ว่า“บิ๊กคสช.”จะพาลไปเคือง“เสี่ยแดง”พิชัย นริพทะพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย ที่เพิ่งไปหม่ำกลางวันกับท่านทูตมาหมาดๆ
00 ฟังเสียง“บิ๊กโด่ง”พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม ในฐานะประธานมูลนิธิอุทยานราชภักดิ์ ที่เปรยเสียงอ่อยกับสื่อก่อนเข้าประชุม ครม.เมื่อวานนี้ว่า “เป็นเพียงมนุษย์ปุถุชน มีอะไรเข้ามาก็ต้องคิดบ้าง”ไม่ใช่เรื่องอะไร ก็เรื่องกระแสกดดันให้ลาออกจากตำแหน่งรับผิดชอบเหตุความวุ่นวายที่เกิดขึ้นจากโครงการก่อสร้าง “อุทยานราชภักดิ์”นั่นเอง ไม่รู้ “คนนั่งอมยิ้ม”จะเห็นใจกันหรือเปล่า
00 บอกไปแล้วว่าการที่ “พี่ทหาร”ไปสกัดจับตัว“แกนนำนปช.-นักศึกษา”ที่จะเดินทางไปอุทยานราชภักดิ์ ส่งผล“ด้านลบ”ทั้งในสายตาประชาชน รวมไปถึงสื่อต่างประเทศที่ประโคมข่าวใหญ่โต ในประเด็นการลิดรอนเสรีภาพ ในทางกลับกันยิ่งเพิ่มน้ำหนักความผิดปกติของโครงการฯให้มากขึ้นไปอีก โดยเฉพาะการปิดปรับปรุงอุทยานฯอย่างกะทันหัน ในวันที่กลุ่มนักศึกษาจะเดินทางไป ยิ่งขยาย“พิรุธ”ไปกันใหญ่ ในความเป็นจริงถ้ามีใครบอกจะเดินทางไปอุทยานราชภักดิ์ “ฝ่ายทหาร”ไม่น่าขัดขวาง และควรอำนวยความสะดวกให้ด้วยซ้ำ เพราะอันที่จริง“กลุ่มดิสเครดิต”ส่งทีมงานเข้าไปเก็บข้อมูลไว้หมดแล้ว เต็มที่ก็ได้แค่ไปชี้โบ๊ชี้เบ๊ ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ก็เท่านั้น
00 ดูอย่าง “บิ๊กต๊อก”พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ที่หมวกอีกใบนั่งเป็นประธานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) ที่นัดหมาย จตุพร พรหมพันธุ์–ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. มาให้ข้อมูลเรื่องที่ติดใจสงสัยเกี่ยวกับการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ อันนี้ต้องถือว่า“เล่นเป็น”ที่เปิดใจกว้างรับฟัง แม้รู้กันดีว่าไม่ใช่“พวกเดียวกัน”แต่หากได้จับเข่าคุยกัน ก็ยังพอตีกรอบห้ามปรามเรื่องที่ละเอียดอ่อนกันได้บ้าง ขนาด “เดอะเต้น”ยังออกมาอวยเลยว่า“บิ๊กต๊อก”ใจนักเลง
00เจออินโฟกราฟิกซีรี่ย์“อุทยานราชภักดิ์”ที่ทาง“กลุ่มประชาธิปไตยใหม่”ปล่อยออกมาทางโซเชี่ยล ทำเอา"บิ๊ก คสช." ถึงกับเต้นผาง โดยเฉพาะ“บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เดือดปุดๆ เพราะดันลาก“อ.น้อง”นราพร จันทร์โอชา ศรีภรรยา มาเอี่ยวด้วย ว้ากใส่สื่อไม่พอ เห็นว่าในที่ประชุมครม. เมื่อวานนี้โดน“พ่นไฟ”ใส่กันเป็นแถบๆ ทั้งที่ผังของ“ขบวนการดิสเครดิต”ไม่ได้มีอะไรมาก เป็นแค่การ“จับต้นชนปลาย” ข้อมูลตามสื่อต่างๆ แต่เพิ่ม“ความลึก”ด้วยการเชื่อมโยง“บุคคลระดับสูง”ของรัฐบาล ใครไม่เกี่ยวก็น่าจะออกมาเคลียร์ไปให้จบๆ
00 ความเพลี่ยงพล้ำของรัฐบาล คสช. นอกจากต้องโทษ “ฝ่าย เสธ.”ที่ไล่งับเหยื่อจนมั่วซั่วแล้ว ต้องตำหนิ“สองโทรโข่ง”ทั้งโฆษกรัฐบาล พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด กับโฆษกคสช. พ.อ.วินธัย สุวารี ที่ให้ข่าวไม่ทันเกมฝ่ายตรงข้าม พร่ำไปเรื่อยว่าเป็น“เกมการเมือง”โดยใช้ถ้อยคำเสียดสี ความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้ามแบบ“แผ่นเสียงตกร่อง”แถมพูดลอยๆว่า โปร่งใส ตรวจสอบได้ แต่ไม่เห็นเคยนำหลักฐานอะไรมา“หักล้าง” ข้อกล่าวหา เอาแค่เรื่องงบกลาง 63.5 ล้านบาท ที่นายกฯ อนุมัติไป เคยพูดถึงบ้างไหม ตอบซิตอบ... มีลูกน้องแบบนี้ก็ปวดเฮดแทน“บิ๊กตู่”อย่างนี้ควรเลิกใช้บริการ“มือสมัครเล่น”หันไปพึ่ง“มืออาชีพ”ดีกว่า
00 กรีดกันนิ่มๆ สไตล์นักการทูต เมื่อ มาร์ค เคนท์ เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย ทวิตข้อความผ่านแอคเคาต์ส่วนตัว @KentBKK แปลเป็นไทยคร่าวๆ ว่า “ผมคิดว่าการที่รัฐบาลไทยอนุญาตให้มีการชุมนุมหน้าสถานทูตสหรัฐฯ ถึง 200 คน แสดงให้เห็นถึงการผ่อนคลายมาตรการจำกัดเสรีภาพในการชุมนุมแล้วเสียอีก”เหน็บเบาๆไปถึงคนในรัฐบาล ทำเอากระอักเลือดกันเป็นแถบๆ ห่วงแค่ว่า“บิ๊กคสช.”จะพาลไปเคือง“เสี่ยแดง”พิชัย นริพทะพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย ที่เพิ่งไปหม่ำกลางวันกับท่านทูตมาหมาดๆ