ผู้จัดการรายวัน360-"ประยุทธ์"ว้ากสื่อ นักการเมือง หยุดขยายความปัญหาการบิน หลังสหรัฐฯ ลดระดับมาตรฐาน ได้ทีสั่งยกเครื่องทั้งระบบ "สมคิด"รื้อการทำงาน ลั่นพลาดอีกไม่ได้ จี้การบินไทยรับมือ "เอียซ่า" แจ้งผลประเมิน 10 ธ.ค.นี้ "อาคม"ลุ้นปลดธงแดง ICAO หลังเดินหน้าแก้ปัญหาเรื่องความปลอดภัย เผยทีจีมี 11 เส้นทางบินสู่ 9 ประเทศในยุโรป มีสัดส่วนรายได้ 1 ใน 3
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยถึงกรณีองค์กรการบินพลเรือนของสหรัฐอเมริกา หรือ Federal Aviation Administration - FAA ประกาศลดระดับมาตรฐานการบินพลเรือนไทย จาก category1 เป็น category2ซึ่งหมายถึงอยู่ในบัญชีเฝ้ามองและห้ามเครื่องบินของไทยบินตรงเข้าสหรัฐฯ รวมทั้งขยายเส้นทางการบินเพิ่มว่า หากมีการขยายความไปเรื่อย จะไม่เกิดประโยชน์อะไรขึ้นมา เราต้องดูในเรื่องของการแก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งตนได้สั่งการมา 2 วันแล้ว หลังจากทราบข่าว โดยให้คณะกรรมการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุม เพื่อหาแนวทางแก้ไขอยู่ ต้องยอมรับว่ามาตรฐานของเราไม่ผ่านกติกา เราก็ต้องช่วยกัน
"ขยายกันอยู่ได้ เรื่องโน้น เรื่องนี้ มีแต่เรื่องอะไรก็ไม่รู้ เมื่อไรจะหลุดพ้นตัวเองกันเสียทีประเทศไทย ทะเลาะกันแล้วเป็นอย่างไร แก้ไขอะไรได้บ้าง เสียเวลาเปล่าทุกเรื่อง แล้วก็บอกว่าทำไม่สำเร็จ ก็เพราะมันไม่ช่วยกัน การขยายความต่อไป ทะเลาะกันต่อไป เขาก็ไม่เชื่อวิธีการแก้ปัญหาของเรา ต่อให้แก่ดีอย่างไรเขาก็ไม่เชื่อ ก็ทะเลาะกันทั้งประเทศ ทะเลาะกันเพียงคนไม่กี่คน สงสารคนอื่นเขาบ้าง สงสารคนไทยคนดีๆ คนที่เขายากจน ยากไร้ ไม่ใช่เอาทุกอย่างเป็นการเมืองไปเสียหมด ทำไมมันจะตายหรืออย่างไร ถ้าไม่ได้เป็นนักการเมือง" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
***"นายกฯ"สั่งยกเครื่องทั้งระบบ
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า รัฐบาลเข้าใจและยอมรับผลการพิจารณา แม้ว่าที่ผ่านมา จะพยายามปรับปรุงในหลายๆ เรื่อง เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานทั้งขององค์กรการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) และของ FAA แต่ต้องยอมรับความจริงว่าบางประเด็นไม่สามารถดำเนินการได้ทัน อาทิ การจัดหาเจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่ทำหน้าที่ออกใบอนุญาตนักบินพานิชย์ให้ตรงตามแบบของเครื่องบิน ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาในการแก้ปัญหา
"เชื่อว่า การประกาศของ FAAครั้งนี้ จะยังไม่ส่งผลกระทบใดต่ออุตสาหกรรมการบินพลเรือนของไทย เพราะปัจจุบันสายการบินของไทย ไม่มีเที่ยวบินตรงไปยังสหรัฐฯ แล้ว หลังจากที่การบินไทยได้ยกเลิกเที่ยวบินตรงไปยังแอลเอเมื่อประมาณสองเดือนที่ผ่านมา โดยยอมรับว่าการประกาศของ FAAอาจส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของการบินพลเรือนไทย และอาจทำให้บางประเทศออกมาตรการหรือกำหนดเงื่อนไขต่อการบินพลเรือนของไทยในอนาคต แต่เรื่องนี้ นายกฯ ถือเป็นโอกาสที่จะยกเครื่องการแก้ไขปัญหาการบินพลเรือนทั้งระบบ และได้สั่งการให้ดำเนินการแล้ว"พล.ต.สรรเสริญกล่าว
**"บิ๊กป้อม"เชื่ออนาคตผลประเมินดีขึ้น
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวว่า เมื่อผลประเมินออกมาเป็นแบบนี้ เราก็ต้องแก้ไขต่อไป ไม่ต้องไปตกใจอะไร เพราะเราได้ทราบมาก่อนหน้านี้แล้วว่าจะมีการปรับลดระดับการบินของไทย โดยขณะนี้ ทั้งกระทรวงคมนาคม คณะกรรมการยุทธศาสตร์ขับเคลื่อน ของ คสช. และศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการบินพลเรือน (ศบ.ปพ.) ของกองทัพอากาศ จะร่วมกันหาจุดบกพร่อง เพื่อทำการแก้ไข ซึ่งน่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ และทำให้การประเมินครั้งต่อไปผลจะออกมาดีขึ้น
***"สมคิด"ลั่นห้ามทำพลาดซ้ำอีก
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ กล่าวถึงแนวทางแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ว่า วันนี้จะมาทำงานแบบเรื่อยๆ ธรรมดาเหมือนเดิมไม่ได้ เพราะผลที่ออกมาส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศพอสมควร ทุกคนต้องทำงานแข่งกับเวลา เพื่อให้ทุกอย่างกลับมาเหมือนเดิม การบริหารจัดการภายในของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้สามารถสร้างความมั่นใจกับคนไทยได้ว่าจะกลับสู่สถานภาพเดิมได้ และทำให้ต่างชาติเชื่อมั่นได้ ซึ่งนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม ต้องไปดูแลแก้ไข
"จากนี้จะพลาดซ้ำอีกไม่ได้ ปัญหานี้ ผมมองว่าเป็นเรื่องของขั้นตอนการทำงาน เรื่องคนทำงาน ไม่ใช่เรื่องโครงสร้างขององค์กร ซึ่งโครงสร้างเป็นแค่เปลือก และได้มีการปรับกรมการบินพลเรือนเป็นสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยแล้ว กรณี FAA ลดเกรด จะเป็นตัวกระตุ้นเป็นโอกาสให้ไทยพัฒนาตัวเองให้ได้มาตรฐานสากล หากทำทุกอย่างได้มาตรฐานเร็วที่สุด สุดท้ายจะได้รับทุกอย่างกลับมาเหมือนเดิม ตอนนี้ต้องรับสิ่งที่เกิดขึ้นว่าการบินของประเทศไทยยังไม่ได้มาตรฐานเท่าที่ควร ซึ่งเป็นหน้าที่ของกระทรวงคมนาคม สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย จะต้องพลิกวิกฤตินี้ให้เป็นโอกาสแห่งการพัฒนาอย่างแท้จริง ส่วนเรื่องท่องเที่ยว ไม่ต้องวิตกกังวล เพราะปกติสายการบินของประเทศไทยไม่ได้ทำการบินตรงไปยังสหรัฐฯ อยู่แล้ว เพราะมีการทำโค้ดแชร์อยู่ ประเทศไทยน่าเที่ยว เชื่อว่านักท่องเที่ยวยังจะมาเที่ยวแน่นอน“นายสมคิดกล่าว
***สั่งการบินไทยทำแผนรับมือเอียซ่า
ส่วนการตรวจสอบของสำนักงานความปลอดภัยการบินพลเรือนแห่งสหภาพยุโรป (เอียซ่า) จะออกมาเป็นอย่างไร นายสมคิดกล่าวว่า ไม่ต้องการพูดกันไปก่อนที่จะรับทราบผลที่แท้จริง แต่กรณีเอียซ่า ทางบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) จะต้องเตรียมแผนสำรองไว้ด้วย
ด้านนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม กล่าวว่า กรณี FAA ลดเกรดไทย ไม่กระทบต่อสายการบินสัญชาติไทย โดยปัจจุบันการบินไทยทำการบินไปลอสแองเจลิส สหรัฐฯ ด้วยวิธีโค้ดแชร์กับสายการบินพันธมิตร ส่วนกรณีเอียซ่า ซึ่งจะแจ้งผลการตรวจสอบวันที่ 10 ธ.ค.2558 หากมีการลดระดับเช่นเดียวกับ FAA อาจจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจของการบินไทยได้ เนื่องจากมีเส้นทางบินไปยุโรป แต่เชื่อว่าจะไม่กระทบไม่มากนัก เพราะยังสามารถให้บริการในเส้นทางบินเดิม และเครื่องบินลำเดิม เพียงแต่ไม่สามารถขยายเส้นทางเพิ่มได้
***ลุ้นปลดธงแดงหลังทำตามICAO
นายอาคมกล่าวอีกว่า ส่วนความคืบหน้าการแก้ปัญหาข้อบกพร่องอย่างมีนัยสำคัญต่อความปลอดภัย (SSC) เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) นั้น ทั้งหมดมี 5 ขั้นตอน ขณะนี้อยู่ในนตอนที่ 3 คือ การตรวจสอบคู่มือเอกสารตามที่สายการบินสัญชาติไทยทั้ง 41 รายยื่นมา เพื่อพิจารณาออกใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่ (AOC Re-certification) และคาดว่าภายในเดือนส.ค.2559 กพท.จะสามารถ Re-certification ได้ 28 สายการบิน ซึ่งเป็นไปตามแผนที่ไทยเสนอไปแล้ว ICAO ให้การอนุมัติมา จากนั้นไทยจะเชิญ ICAO เข้ามาตรวจสอบอีกครั้ง หากผ่านการประเมิน ICAO ก็สามารถปลดธงแดงได้ทันที
***การบินไทยยันมีแผนรับมือแล้ว
นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) การบินไทย กล่าวว่า ได้เตรียมแผนรองรับกรณีเอียซ่าไว้แล้ว แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด โดยปัจจุบันบริษัทมีเส้นทางบินตรงสู่ยุโรป 9 ประเทศ รวม 11 เส้นทาง ซึ่งรายได้จากเส้นทางยุโรปคิดเป็น 1 ใน 3 ของรายทั้งหมด
***บางกอกแอร์เวย์สแจงไม่มีผลกระทบ
สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส แจ้งว่า เส้นทางบินปัจจุบันของบางกอกแอร์เวย์ส ไม่ได้มีเส้นทางการบินไปยังสหรัฐฯ และไม่มีการทำความตกลงเที่ยวบินร่วมกับสายการบินของสหรัฐฯ จึงไม่ได้รับผลกระทบ โดยบางกอกแอร์เวย์สจะยังคงมุ่งมั่นในการรักษามาตรฐานความปลอดภัยทางการบินในระดับสากล เพื่อความเชื่อมั่นและความปลอดภัยสูงสุดของผู้โดยสารต่อไป
***กดดันตลาดหุ้นไทยระยะสั้น
นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย (KS) กล่าวว่า จากข่าวที่ออกมา ได้กระทบต่อต่อบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย โดยเฉพาะจะกดดันหุ้นสายการบินของไทยในระยะสั้น เนื่องจากเอียซ่าจะทำการตัดสินกลุ่มการบินของไทยเช่นเดียวกันในวันที่ 10 ธ.ค.2558 โดยมากแล้วจะตัดสินตาม FAA ซึ่งจะเกิดผลกระทบรุนแรงกว่าการปรับลดของ FAA เพราะไทยมีการบินเส้นทางยุโรป
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยถึงกรณีองค์กรการบินพลเรือนของสหรัฐอเมริกา หรือ Federal Aviation Administration - FAA ประกาศลดระดับมาตรฐานการบินพลเรือนไทย จาก category1 เป็น category2ซึ่งหมายถึงอยู่ในบัญชีเฝ้ามองและห้ามเครื่องบินของไทยบินตรงเข้าสหรัฐฯ รวมทั้งขยายเส้นทางการบินเพิ่มว่า หากมีการขยายความไปเรื่อย จะไม่เกิดประโยชน์อะไรขึ้นมา เราต้องดูในเรื่องของการแก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งตนได้สั่งการมา 2 วันแล้ว หลังจากทราบข่าว โดยให้คณะกรรมการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุม เพื่อหาแนวทางแก้ไขอยู่ ต้องยอมรับว่ามาตรฐานของเราไม่ผ่านกติกา เราก็ต้องช่วยกัน
"ขยายกันอยู่ได้ เรื่องโน้น เรื่องนี้ มีแต่เรื่องอะไรก็ไม่รู้ เมื่อไรจะหลุดพ้นตัวเองกันเสียทีประเทศไทย ทะเลาะกันแล้วเป็นอย่างไร แก้ไขอะไรได้บ้าง เสียเวลาเปล่าทุกเรื่อง แล้วก็บอกว่าทำไม่สำเร็จ ก็เพราะมันไม่ช่วยกัน การขยายความต่อไป ทะเลาะกันต่อไป เขาก็ไม่เชื่อวิธีการแก้ปัญหาของเรา ต่อให้แก่ดีอย่างไรเขาก็ไม่เชื่อ ก็ทะเลาะกันทั้งประเทศ ทะเลาะกันเพียงคนไม่กี่คน สงสารคนอื่นเขาบ้าง สงสารคนไทยคนดีๆ คนที่เขายากจน ยากไร้ ไม่ใช่เอาทุกอย่างเป็นการเมืองไปเสียหมด ทำไมมันจะตายหรืออย่างไร ถ้าไม่ได้เป็นนักการเมือง" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
***"นายกฯ"สั่งยกเครื่องทั้งระบบ
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า รัฐบาลเข้าใจและยอมรับผลการพิจารณา แม้ว่าที่ผ่านมา จะพยายามปรับปรุงในหลายๆ เรื่อง เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานทั้งขององค์กรการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) และของ FAA แต่ต้องยอมรับความจริงว่าบางประเด็นไม่สามารถดำเนินการได้ทัน อาทิ การจัดหาเจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่ทำหน้าที่ออกใบอนุญาตนักบินพานิชย์ให้ตรงตามแบบของเครื่องบิน ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาในการแก้ปัญหา
"เชื่อว่า การประกาศของ FAAครั้งนี้ จะยังไม่ส่งผลกระทบใดต่ออุตสาหกรรมการบินพลเรือนของไทย เพราะปัจจุบันสายการบินของไทย ไม่มีเที่ยวบินตรงไปยังสหรัฐฯ แล้ว หลังจากที่การบินไทยได้ยกเลิกเที่ยวบินตรงไปยังแอลเอเมื่อประมาณสองเดือนที่ผ่านมา โดยยอมรับว่าการประกาศของ FAAอาจส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของการบินพลเรือนไทย และอาจทำให้บางประเทศออกมาตรการหรือกำหนดเงื่อนไขต่อการบินพลเรือนของไทยในอนาคต แต่เรื่องนี้ นายกฯ ถือเป็นโอกาสที่จะยกเครื่องการแก้ไขปัญหาการบินพลเรือนทั้งระบบ และได้สั่งการให้ดำเนินการแล้ว"พล.ต.สรรเสริญกล่าว
**"บิ๊กป้อม"เชื่ออนาคตผลประเมินดีขึ้น
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวว่า เมื่อผลประเมินออกมาเป็นแบบนี้ เราก็ต้องแก้ไขต่อไป ไม่ต้องไปตกใจอะไร เพราะเราได้ทราบมาก่อนหน้านี้แล้วว่าจะมีการปรับลดระดับการบินของไทย โดยขณะนี้ ทั้งกระทรวงคมนาคม คณะกรรมการยุทธศาสตร์ขับเคลื่อน ของ คสช. และศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการบินพลเรือน (ศบ.ปพ.) ของกองทัพอากาศ จะร่วมกันหาจุดบกพร่อง เพื่อทำการแก้ไข ซึ่งน่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ และทำให้การประเมินครั้งต่อไปผลจะออกมาดีขึ้น
***"สมคิด"ลั่นห้ามทำพลาดซ้ำอีก
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ กล่าวถึงแนวทางแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ว่า วันนี้จะมาทำงานแบบเรื่อยๆ ธรรมดาเหมือนเดิมไม่ได้ เพราะผลที่ออกมาส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศพอสมควร ทุกคนต้องทำงานแข่งกับเวลา เพื่อให้ทุกอย่างกลับมาเหมือนเดิม การบริหารจัดการภายในของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้สามารถสร้างความมั่นใจกับคนไทยได้ว่าจะกลับสู่สถานภาพเดิมได้ และทำให้ต่างชาติเชื่อมั่นได้ ซึ่งนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม ต้องไปดูแลแก้ไข
"จากนี้จะพลาดซ้ำอีกไม่ได้ ปัญหานี้ ผมมองว่าเป็นเรื่องของขั้นตอนการทำงาน เรื่องคนทำงาน ไม่ใช่เรื่องโครงสร้างขององค์กร ซึ่งโครงสร้างเป็นแค่เปลือก และได้มีการปรับกรมการบินพลเรือนเป็นสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยแล้ว กรณี FAA ลดเกรด จะเป็นตัวกระตุ้นเป็นโอกาสให้ไทยพัฒนาตัวเองให้ได้มาตรฐานสากล หากทำทุกอย่างได้มาตรฐานเร็วที่สุด สุดท้ายจะได้รับทุกอย่างกลับมาเหมือนเดิม ตอนนี้ต้องรับสิ่งที่เกิดขึ้นว่าการบินของประเทศไทยยังไม่ได้มาตรฐานเท่าที่ควร ซึ่งเป็นหน้าที่ของกระทรวงคมนาคม สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย จะต้องพลิกวิกฤตินี้ให้เป็นโอกาสแห่งการพัฒนาอย่างแท้จริง ส่วนเรื่องท่องเที่ยว ไม่ต้องวิตกกังวล เพราะปกติสายการบินของประเทศไทยไม่ได้ทำการบินตรงไปยังสหรัฐฯ อยู่แล้ว เพราะมีการทำโค้ดแชร์อยู่ ประเทศไทยน่าเที่ยว เชื่อว่านักท่องเที่ยวยังจะมาเที่ยวแน่นอน“นายสมคิดกล่าว
***สั่งการบินไทยทำแผนรับมือเอียซ่า
ส่วนการตรวจสอบของสำนักงานความปลอดภัยการบินพลเรือนแห่งสหภาพยุโรป (เอียซ่า) จะออกมาเป็นอย่างไร นายสมคิดกล่าวว่า ไม่ต้องการพูดกันไปก่อนที่จะรับทราบผลที่แท้จริง แต่กรณีเอียซ่า ทางบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) จะต้องเตรียมแผนสำรองไว้ด้วย
ด้านนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม กล่าวว่า กรณี FAA ลดเกรดไทย ไม่กระทบต่อสายการบินสัญชาติไทย โดยปัจจุบันการบินไทยทำการบินไปลอสแองเจลิส สหรัฐฯ ด้วยวิธีโค้ดแชร์กับสายการบินพันธมิตร ส่วนกรณีเอียซ่า ซึ่งจะแจ้งผลการตรวจสอบวันที่ 10 ธ.ค.2558 หากมีการลดระดับเช่นเดียวกับ FAA อาจจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจของการบินไทยได้ เนื่องจากมีเส้นทางบินไปยุโรป แต่เชื่อว่าจะไม่กระทบไม่มากนัก เพราะยังสามารถให้บริการในเส้นทางบินเดิม และเครื่องบินลำเดิม เพียงแต่ไม่สามารถขยายเส้นทางเพิ่มได้
***ลุ้นปลดธงแดงหลังทำตามICAO
นายอาคมกล่าวอีกว่า ส่วนความคืบหน้าการแก้ปัญหาข้อบกพร่องอย่างมีนัยสำคัญต่อความปลอดภัย (SSC) เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) นั้น ทั้งหมดมี 5 ขั้นตอน ขณะนี้อยู่ในนตอนที่ 3 คือ การตรวจสอบคู่มือเอกสารตามที่สายการบินสัญชาติไทยทั้ง 41 รายยื่นมา เพื่อพิจารณาออกใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่ (AOC Re-certification) และคาดว่าภายในเดือนส.ค.2559 กพท.จะสามารถ Re-certification ได้ 28 สายการบิน ซึ่งเป็นไปตามแผนที่ไทยเสนอไปแล้ว ICAO ให้การอนุมัติมา จากนั้นไทยจะเชิญ ICAO เข้ามาตรวจสอบอีกครั้ง หากผ่านการประเมิน ICAO ก็สามารถปลดธงแดงได้ทันที
***การบินไทยยันมีแผนรับมือแล้ว
นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) การบินไทย กล่าวว่า ได้เตรียมแผนรองรับกรณีเอียซ่าไว้แล้ว แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด โดยปัจจุบันบริษัทมีเส้นทางบินตรงสู่ยุโรป 9 ประเทศ รวม 11 เส้นทาง ซึ่งรายได้จากเส้นทางยุโรปคิดเป็น 1 ใน 3 ของรายทั้งหมด
***บางกอกแอร์เวย์สแจงไม่มีผลกระทบ
สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส แจ้งว่า เส้นทางบินปัจจุบันของบางกอกแอร์เวย์ส ไม่ได้มีเส้นทางการบินไปยังสหรัฐฯ และไม่มีการทำความตกลงเที่ยวบินร่วมกับสายการบินของสหรัฐฯ จึงไม่ได้รับผลกระทบ โดยบางกอกแอร์เวย์สจะยังคงมุ่งมั่นในการรักษามาตรฐานความปลอดภัยทางการบินในระดับสากล เพื่อความเชื่อมั่นและความปลอดภัยสูงสุดของผู้โดยสารต่อไป
***กดดันตลาดหุ้นไทยระยะสั้น
นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย (KS) กล่าวว่า จากข่าวที่ออกมา ได้กระทบต่อต่อบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย โดยเฉพาะจะกดดันหุ้นสายการบินของไทยในระยะสั้น เนื่องจากเอียซ่าจะทำการตัดสินกลุ่มการบินของไทยเช่นเดียวกันในวันที่ 10 ธ.ค.2558 โดยมากแล้วจะตัดสินตาม FAA ซึ่งจะเกิดผลกระทบรุนแรงกว่าการปรับลดของ FAA เพราะไทยมีการบินเส้นทางยุโรป