ร.อ.ทินพันธุ์ นาคะตะ ประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.) กล่าวถึง กรณีที่เชิญอดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) มาเป็นที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ (กมธ.)ของสปช. ชุดต่างๆว่า เป็นไปตามที่ นายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานสปท. คนที่ 1 ออกมาชี้แจง
ส่วนข่าวที่ระบุว่า มีการแต่งตั้งอดีตสปช. มาเป็นที่ปรึกษากว่า 100 คนนั้น เป็นเรื่องเกินจริง ทางสปท.ไม่มีงบประมาณไปจ้างคนมากมายขนาดนั้น ข้อเท็จจริงคือ ตนได้ลงนามแต่งตั้ง อดีต สปช. เข้ามาเป็นที่ปรึกษากมธ.ชุดต่างๆ เพียง 32 คน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยที่ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ มากมายนัก ซึ่งคนที่เข้ามาส่วนใหญ่เป็น อดีตสปช.จังหวัด ทุกคนมาด้วยความสมัครใจ ซึ่งทางสปท.หวังในประสบการณ์การ เป็นคนในพื้นที่ของคนเหล่านี้ มาช่วยประสาน ตอนที่ลงพื้นที่เพื่อรับฟังความเห็นของประชาชนในต่างจังหวัด
อย่างไรก็ตาม สปท. ต้องรู้จักใช้คนใช้ข้อมูลจากประสบการณ์ให้เป็นประโยชน์ และก่อนที่ตนจะตัดสินใจลงนามแต่งตั้ง ก็ได้หารือกันแล้วถึงความคุ้มค่า เพื่อจะช่วยประหยัดงบประมาณ
ทั้งนี้ ต่อจากนี้แม่น้ำทั้ง 4 สาย คือ คณะรัฐมนตรี (ครม.) คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และ สปท. จะลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็นพร้อมกัน ไม่ใช่ต่างคนต่างไปเหมือนที่ผ่านมา ซึ่งจะทำให้ครม.ได้มีโอกาสชี้แจงการทำงานของรัฐบาล รวมถึงรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเพื่อนำไปปรับปรุงแก้ไข อีกทั้งการลงพื้นที่พร้อมกัน จะทำให้สะท้อนปัญหา เพื่อร่วมแก้ไขไปพร้อมกัน การทำงานจะได้ไม่สะเปะสะปะ
ส่วนข่าวที่ระบุว่า มีการแต่งตั้งอดีตสปช. มาเป็นที่ปรึกษากว่า 100 คนนั้น เป็นเรื่องเกินจริง ทางสปท.ไม่มีงบประมาณไปจ้างคนมากมายขนาดนั้น ข้อเท็จจริงคือ ตนได้ลงนามแต่งตั้ง อดีต สปช. เข้ามาเป็นที่ปรึกษากมธ.ชุดต่างๆ เพียง 32 คน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยที่ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ มากมายนัก ซึ่งคนที่เข้ามาส่วนใหญ่เป็น อดีตสปช.จังหวัด ทุกคนมาด้วยความสมัครใจ ซึ่งทางสปท.หวังในประสบการณ์การ เป็นคนในพื้นที่ของคนเหล่านี้ มาช่วยประสาน ตอนที่ลงพื้นที่เพื่อรับฟังความเห็นของประชาชนในต่างจังหวัด
อย่างไรก็ตาม สปท. ต้องรู้จักใช้คนใช้ข้อมูลจากประสบการณ์ให้เป็นประโยชน์ และก่อนที่ตนจะตัดสินใจลงนามแต่งตั้ง ก็ได้หารือกันแล้วถึงความคุ้มค่า เพื่อจะช่วยประหยัดงบประมาณ
ทั้งนี้ ต่อจากนี้แม่น้ำทั้ง 4 สาย คือ คณะรัฐมนตรี (ครม.) คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และ สปท. จะลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็นพร้อมกัน ไม่ใช่ต่างคนต่างไปเหมือนที่ผ่านมา ซึ่งจะทำให้ครม.ได้มีโอกาสชี้แจงการทำงานของรัฐบาล รวมถึงรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเพื่อนำไปปรับปรุงแก้ไข อีกทั้งการลงพื้นที่พร้อมกัน จะทำให้สะท้อนปัญหา เพื่อร่วมแก้ไขไปพร้อมกัน การทำงานจะได้ไม่สะเปะสะปะ