โพลชี้ประชาชนอยากให้เร่งติดตามจับกุมคนร้าย "แก๊งขอนแก่นโมเดล" มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว ชี้สาเหตุมาจากความขัดแย้งทางการเมือง ขณะที่ทนายแก๊งขอนแก่นฯ แจ้งจับ "วิจารณ์-ศรีวราห์" ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ อ้างออกหมายจับลูกความทั้งที่ยังถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ
จากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมผู้ต้องหาที่เตรียมวางแผนสร้างความปั่นป่วนทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยมุ่งเป้าที่บุคคลสำคัญทางการเมือง ซึ่งจากการสืบสวนพบว่า เป็นกลุ่มที่มีความเกี่ยวข้องกับ คดีขอนแก่นโมเดล ปี2557 ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งทำงานอย่างหนักเพื่อติดตามจับกุมตัวคนร้ายที่เหลือมาดำเนินคดี เพื่อเป็นการสะท้อนความคิดเห็นของประชาชนที่สนใจติดตามข่าวดังกล่าว สวนดุสิตโพลได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวน1,135 คน ระหว่างวันที่ 27-28 พ.ย.58 สรุปผลได้ดังนี้
1. ประชาชนคิดอย่างไร กรณี จับกุมผู้ต้องหา"ขอนแก่นโมเดล" อันดับ 1 อยากให้เร่งติดตามจับกุมคนร้ายทั้งหมดมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว 85.46% อันดับ 2โชคดีที่สามารถจับตัวคนร้ายได้และรู้ถึงแผนการที่เตรียมก่อเหตุ ป้องกันได้ทันเวลา 83.70% อันดับ 3เป็นอีกคดีที่น่าสนใจ และยังเกี่ยวข้องกับขอนแก่นโมเดล ซึ่งเคยเป็นข่าวใหญ่เมื่อปีที่แล้ว 75.07%
2. ประชาชนคิดว่า สาเหตุ ของเหตุการณ์ครั้งนี้มาจากเรื่องใด อันดับ 1 ความขัดแย้งแตกแยกทางการเมือง แบ่งฝักแบ่งฝ่าย การสูญเสียอำนาจและผลประโยชน์ 87.22% อันดับ 2 ความคิดเห็นที่แตกต่างกัน อาจมีคนบางกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับการทำงานของรัฐบาลหรือ คสช.77.53% อันดับ 3 ต้องการสร้างสถานการณ์ อยากเห็นบ้านเมืองวุ่นวาย ปั่นป่วน 72.78%
3. จากเหตุการณ์ครั้งนี้ประชาชนคิดว่าจะส่งผลกระทบต่อโรดแมป ที่รัฐบาลกำหนดไว้แล้วหรือไม่ อันดับ 1 ส่งผลกระทบ41.50% เพราะ หากบ้านเมืองยังไม่สงบ ความขัดแย้งแตกแยกยังคงมีอยู่ การปฏิรูปประเทศในด้านต่างๆต้องได้รับผลกระทบหรือหยุดชะงัก ส่งผลต่อความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ของประเทศ ฯลฯ อันดับ 2ไม่แน่ใจ 32.16% เพราะ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี รัฐบาลต้องเผชิญกับปัญหาต่างๆรอบด้าน คงต้องรอดูต่อไป ฯลฯ อันดับ 3ไม่ส่งผลกระทบ 26.34% เพราะ เชื่อว่ารัฐบาลจะสามารถควบคุมดูแลและแก้ปัญหานี้ได้ คสช.มีอำนาจเด็ดขาด ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ได้ทุกสถานการณ์
4. วิธีการป้องกันและแก้ไขเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก อันดับ 1 มีมาตรการป้องกันที่เข้มงวดรัดกุม เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารในพื้นที่สำคัญ 80.09% อันดับ 2 เร่งติดตามจับกุมตัวคนร้ายทั้งหมดให้ได้โดยเร็ว มีบทลงโทษที่ชัดเจน เด็ดขาด 79.56% อันดับ 3หน่วยข่าวกรองต้องติดตามการข่าวมากขึ้น ข้อมูลที่ได้จะต้องถูกต้องแม่นยำ 70.84%
5. ประชาชนมั่นใจต่อการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจและทหารมากน้อยเพียงใด อันดับ 1 ค่อนข้างมั่นใจ38.86% เพราะ สามารถติดตามจับกุมตัวผู้กระทำผิดได้แล้วบางส่วน การเชื่อมโยงเหตุการณ์ ทำให้รู้ความคืบหน้าของคดี เป็นเรื่องสำคัญที่สังคมสนใจและเฝ้าติดตาม ฯลฯ
อันดับ 2มั่นใจมาก 30.13% เพราะ การทำงานรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น มั่นใจให้กับประชาชน เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชั้นผู้ใหญ่มากำกับดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันและระงับเหตุการณ์ความรุนแรง ฯลฯ อันดับ 3ไม่ค่อยมั่นใจ21.94% เพราะ ยังมีคนบางกลุ่มที่ไม่หวังดี ต้องการสร้างความวุ่นวายปั่นป่วนให้กับบ้านเมือง เกรงว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารอาจดูแลไม่ทั่วถึง ฯลฯ
*ทนายขอนแก่นโมเดลแจ้งจับ "ศรีวราห์"
วานนี้ (29 พ.ย.) ที่ กองบัญชาการปราบปราม (บก.ป.) เมื่อเวลา 11.00 น. น.ส.เบญจรัตน์ มีเทียน ทนายความผู้ต้องหาคดีขอนแก่นโมเดล เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป.เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ พล.ต.วิจารณ์ จดแตง ในฐานะหัวหน้าส่วนปฏิบัติการ คณะทำงานกฎหมาย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานคดีหมิ่นเบื้องสูง พร้อมคณะ ในข้อหาปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และแจ้งความเท็จ
น.ส.เบญจรัตน์ กล่าวว่า จากกรณีที่มีการแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายขอนแก่นโมเดลเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งมีรายชื่อนายธนกฤต ทองเงินเพิ่ม เป็น 1 ในผู้ต้องหา ซึ่งข้อเท็จจริงคือนายธนกฤตยังถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำขอนแก่นจากคดีอื่นอยู่ เหลือเวลาอีก 6 เดือนจึงจะครบกำหนด จึงเป็นไปไม่ได้ที่นายธนกฤตจะมากระทำผิด ฐานหมิ่นเบื้องสูง และ พ.ร.บ.การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ตามที่มีการแถลงข่าว โดยวันนี้ได้นำหลักฐานจากเรือนจำจังหวัดขอนแก่น และใบมอบอำนาจทนายความ และเอกสารข่าว มามอบต่อเจ้าหน้าที่
นางสาวเบญรัตน์ กล่าวต่อว่า จากการกระทำทั้งหมด คสช. และผู้เกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย เพราะเชื่อว่าเรือนจำขอนแก่นมีความเข้มงวดสูงเกี่ยวกับมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยผู้ต้องหา จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะปล่อยให้ผู้ต้องหาออกมากระทำผิด ตนจึงเข้าแจ้งความดังกล่าว พนักงานสอบสวนได้รับเรื่องไว้ก่อนเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาต่อไป
พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงการออกหมายจับนายธนกฤต ทองเงิน เพิ่ม 1 ใน 9 ผู้ต้องหา คดีขอนแก่นโมเดล ล่าสุด ว่า เป็นไปตามพยานหลักฐานที่ศาลทหารกรุงเทพ ออกหมายจับ ส่วนรายละเอียดทางคดี ต้องพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบเป็นคนชี้แจงเท่านั้น ส่วนการที่ทนายความของนายธนกฤต เข้าแจ้งความเอาผิด กับคณะพนักงานสอบสวนที่รับผิดชอบคดีทุกนาย ก็เป็นสิทธิของผู้ต้องหาที่สามารถทำได้ ซึ่งต้องนำข้อมูลกลับไปตรวจสอบรายละเอียดตามคำฟ้องว่ามีข้อเท็จจริงอย่างไร โดยวันนี้ (30 พ.ย.) จะควบคุมตัวบุคคลที่โพสต์ข้อความยุยง ปลุกปั่น สร้างความวุ่นวายในบ้านเมืองมาแถลงข่าว โดยกลุ่มบุคคลนี้เป็นคนละกลุ่มกับผู้ต้องหาคดีขอนแก่นโมเดล
***ตม.สระแก้วตรวจเข้มจุดผ่านแดน
พ.ต.อ.ไพรัช พุกเจริญ ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้วสั่งการตำรวจสนธิกำลังทหาร ตรวจผู้โดยสารขาออก บริเวณด่านตรวจคนเข้าเมือง อรัญประเทศ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว อย่างเข้มงวด เพื่อสกัดจับผู้ต้องหาคดีขอนแก่นโมเดล ที่ยังหลบหนีอีก 5 คน ไปประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมประสานทหารเข้มงวดบริเวณแนวตะเข็บชายแดนด้วย.
จากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมผู้ต้องหาที่เตรียมวางแผนสร้างความปั่นป่วนทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยมุ่งเป้าที่บุคคลสำคัญทางการเมือง ซึ่งจากการสืบสวนพบว่า เป็นกลุ่มที่มีความเกี่ยวข้องกับ คดีขอนแก่นโมเดล ปี2557 ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งทำงานอย่างหนักเพื่อติดตามจับกุมตัวคนร้ายที่เหลือมาดำเนินคดี เพื่อเป็นการสะท้อนความคิดเห็นของประชาชนที่สนใจติดตามข่าวดังกล่าว สวนดุสิตโพลได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวน1,135 คน ระหว่างวันที่ 27-28 พ.ย.58 สรุปผลได้ดังนี้
1. ประชาชนคิดอย่างไร กรณี จับกุมผู้ต้องหา"ขอนแก่นโมเดล" อันดับ 1 อยากให้เร่งติดตามจับกุมคนร้ายทั้งหมดมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว 85.46% อันดับ 2โชคดีที่สามารถจับตัวคนร้ายได้และรู้ถึงแผนการที่เตรียมก่อเหตุ ป้องกันได้ทันเวลา 83.70% อันดับ 3เป็นอีกคดีที่น่าสนใจ และยังเกี่ยวข้องกับขอนแก่นโมเดล ซึ่งเคยเป็นข่าวใหญ่เมื่อปีที่แล้ว 75.07%
2. ประชาชนคิดว่า สาเหตุ ของเหตุการณ์ครั้งนี้มาจากเรื่องใด อันดับ 1 ความขัดแย้งแตกแยกทางการเมือง แบ่งฝักแบ่งฝ่าย การสูญเสียอำนาจและผลประโยชน์ 87.22% อันดับ 2 ความคิดเห็นที่แตกต่างกัน อาจมีคนบางกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับการทำงานของรัฐบาลหรือ คสช.77.53% อันดับ 3 ต้องการสร้างสถานการณ์ อยากเห็นบ้านเมืองวุ่นวาย ปั่นป่วน 72.78%
3. จากเหตุการณ์ครั้งนี้ประชาชนคิดว่าจะส่งผลกระทบต่อโรดแมป ที่รัฐบาลกำหนดไว้แล้วหรือไม่ อันดับ 1 ส่งผลกระทบ41.50% เพราะ หากบ้านเมืองยังไม่สงบ ความขัดแย้งแตกแยกยังคงมีอยู่ การปฏิรูปประเทศในด้านต่างๆต้องได้รับผลกระทบหรือหยุดชะงัก ส่งผลต่อความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ของประเทศ ฯลฯ อันดับ 2ไม่แน่ใจ 32.16% เพราะ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี รัฐบาลต้องเผชิญกับปัญหาต่างๆรอบด้าน คงต้องรอดูต่อไป ฯลฯ อันดับ 3ไม่ส่งผลกระทบ 26.34% เพราะ เชื่อว่ารัฐบาลจะสามารถควบคุมดูแลและแก้ปัญหานี้ได้ คสช.มีอำนาจเด็ดขาด ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ได้ทุกสถานการณ์
4. วิธีการป้องกันและแก้ไขเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก อันดับ 1 มีมาตรการป้องกันที่เข้มงวดรัดกุม เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารในพื้นที่สำคัญ 80.09% อันดับ 2 เร่งติดตามจับกุมตัวคนร้ายทั้งหมดให้ได้โดยเร็ว มีบทลงโทษที่ชัดเจน เด็ดขาด 79.56% อันดับ 3หน่วยข่าวกรองต้องติดตามการข่าวมากขึ้น ข้อมูลที่ได้จะต้องถูกต้องแม่นยำ 70.84%
5. ประชาชนมั่นใจต่อการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจและทหารมากน้อยเพียงใด อันดับ 1 ค่อนข้างมั่นใจ38.86% เพราะ สามารถติดตามจับกุมตัวผู้กระทำผิดได้แล้วบางส่วน การเชื่อมโยงเหตุการณ์ ทำให้รู้ความคืบหน้าของคดี เป็นเรื่องสำคัญที่สังคมสนใจและเฝ้าติดตาม ฯลฯ
อันดับ 2มั่นใจมาก 30.13% เพราะ การทำงานรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น มั่นใจให้กับประชาชน เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชั้นผู้ใหญ่มากำกับดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันและระงับเหตุการณ์ความรุนแรง ฯลฯ อันดับ 3ไม่ค่อยมั่นใจ21.94% เพราะ ยังมีคนบางกลุ่มที่ไม่หวังดี ต้องการสร้างความวุ่นวายปั่นป่วนให้กับบ้านเมือง เกรงว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารอาจดูแลไม่ทั่วถึง ฯลฯ
*ทนายขอนแก่นโมเดลแจ้งจับ "ศรีวราห์"
วานนี้ (29 พ.ย.) ที่ กองบัญชาการปราบปราม (บก.ป.) เมื่อเวลา 11.00 น. น.ส.เบญจรัตน์ มีเทียน ทนายความผู้ต้องหาคดีขอนแก่นโมเดล เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป.เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ พล.ต.วิจารณ์ จดแตง ในฐานะหัวหน้าส่วนปฏิบัติการ คณะทำงานกฎหมาย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานคดีหมิ่นเบื้องสูง พร้อมคณะ ในข้อหาปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และแจ้งความเท็จ
น.ส.เบญจรัตน์ กล่าวว่า จากกรณีที่มีการแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายขอนแก่นโมเดลเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งมีรายชื่อนายธนกฤต ทองเงินเพิ่ม เป็น 1 ในผู้ต้องหา ซึ่งข้อเท็จจริงคือนายธนกฤตยังถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำขอนแก่นจากคดีอื่นอยู่ เหลือเวลาอีก 6 เดือนจึงจะครบกำหนด จึงเป็นไปไม่ได้ที่นายธนกฤตจะมากระทำผิด ฐานหมิ่นเบื้องสูง และ พ.ร.บ.การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ตามที่มีการแถลงข่าว โดยวันนี้ได้นำหลักฐานจากเรือนจำจังหวัดขอนแก่น และใบมอบอำนาจทนายความ และเอกสารข่าว มามอบต่อเจ้าหน้าที่
นางสาวเบญรัตน์ กล่าวต่อว่า จากการกระทำทั้งหมด คสช. และผู้เกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย เพราะเชื่อว่าเรือนจำขอนแก่นมีความเข้มงวดสูงเกี่ยวกับมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยผู้ต้องหา จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะปล่อยให้ผู้ต้องหาออกมากระทำผิด ตนจึงเข้าแจ้งความดังกล่าว พนักงานสอบสวนได้รับเรื่องไว้ก่อนเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาต่อไป
พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงการออกหมายจับนายธนกฤต ทองเงิน เพิ่ม 1 ใน 9 ผู้ต้องหา คดีขอนแก่นโมเดล ล่าสุด ว่า เป็นไปตามพยานหลักฐานที่ศาลทหารกรุงเทพ ออกหมายจับ ส่วนรายละเอียดทางคดี ต้องพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบเป็นคนชี้แจงเท่านั้น ส่วนการที่ทนายความของนายธนกฤต เข้าแจ้งความเอาผิด กับคณะพนักงานสอบสวนที่รับผิดชอบคดีทุกนาย ก็เป็นสิทธิของผู้ต้องหาที่สามารถทำได้ ซึ่งต้องนำข้อมูลกลับไปตรวจสอบรายละเอียดตามคำฟ้องว่ามีข้อเท็จจริงอย่างไร โดยวันนี้ (30 พ.ย.) จะควบคุมตัวบุคคลที่โพสต์ข้อความยุยง ปลุกปั่น สร้างความวุ่นวายในบ้านเมืองมาแถลงข่าว โดยกลุ่มบุคคลนี้เป็นคนละกลุ่มกับผู้ต้องหาคดีขอนแก่นโมเดล
***ตม.สระแก้วตรวจเข้มจุดผ่านแดน
พ.ต.อ.ไพรัช พุกเจริญ ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้วสั่งการตำรวจสนธิกำลังทหาร ตรวจผู้โดยสารขาออก บริเวณด่านตรวจคนเข้าเมือง อรัญประเทศ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว อย่างเข้มงวด เพื่อสกัดจับผู้ต้องหาคดีขอนแก่นโมเดล ที่ยังหลบหนีอีก 5 คน ไปประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมประสานทหารเข้มงวดบริเวณแนวตะเข็บชายแดนด้วย.