xs
xsm
sm
md
lg

ไล่ล่าคนบงการ-เร่งสอบขยายผลแก๊งป่วนในกทม.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน 360 - ผบ.ตร.ยันทหารบุกควบคุมตัวอดีต ตชด.ร่วมมือพลเรือน แก๊ง “ขอนแก่นโมเดล” เตรียมก่อวินาศกรรมใน กทม. พุ่งเป้าบุคคลสำคัญในรัฐบาลหลังพบเบาะแสจากข้อความในโลกโซเชียล เชื่อมีคนสั่งการเบื้องหลัง เตรียมรับตัวขยายผลสอบในวันพรุ่งนี้

วานนี้ (25 พ.ย.) ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่ทหารเข้าควบคุมตัว จ.ส.ต.ประธิน จันทร์เกศ อดีตตำรวจตระเวนชายแดน นายพิษณุ พรหมสร และนายณัฐพล ณวรรณ์เล พร้อมยึดอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ หลังพบพฤติกรรมมีการสื่อสารเตรียมก่อเหตุวุ่นวายใน กทม. ว่า กรณีนี้ตำรวจสืบสวนติดตามมาตลอด เฝ้าฟัง และดำเนินกรรมวิธีข่าวกรองด้านความมั่นคงทุกมิติ จนกระทั่งพบข้อมูลว่ากลุ่มนี้มีความเคลื่อนไหวจะก่อเหตุไม่สงบ จึงได้สืบสวนจับกุมคุมตัวไว้ตามปรากฏข่าว แต่ยังบอกไม่ได้ว่ามีเป้าประสงค์ก่อเหตุลักษณะใด

ชนวนเหตุที่ต้องบุกจับ จ.ส.ต.ประธิน จันทร์เกศ พร้อมพวกในครั้งนี้ เพราะข้อความที่โพสต์ลงเฟซบุ๊กระบุในทำนองว่า “ให้ติดตามวันซ้อมกิจกรรมปั่นเพื่อพ่อ...ว่าจะมีการลอบทำร้ายบุคคลสำคัญของประเทศ” แต่ไม่ได้ระบุชื่อว่าบุคคลสำคัญนั้นเป็นใคร กระทั่งเมื่อฝ่ายความมั่นคงตรวจสอบต่อจึงพบว่าคนที่โพสต์ข้อความดังกล่าวมีประวัติเป็นผู้ต้องหาคดีความมั่นคงในนาม “ขอนแก่นโมเดล” และอยู่ระหว่างการประกันตัว

“มีมูลเหตุว่าคนกลุ่มนี้จะเข้ามาก่อเหตุวินาศกรรม หรือวางรางระเบิดใน กทม. โดยมีเป้าหมายที่บุคคลสำคัญในรัฐบาล แต่ยังไม่ทราบแนวคิดของกลุ่มนี้ว่าเกี่ยวข้องกับเรื่องการเมืองหรือไม่ โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนสืบสวนสอบสวนยังไม่สามารถบอกได้ แต่อย่างที่ทราบกันว่ามีข้อมูลการสื่อสาร ทั้งการติดต่อในแอปพลิเคชั่นไลน์ที่ปรากฏในโลกออนไลน์ ซึ่งการที่ศาลทหารอนุมัติหมายจับผู้ต้องหากลุ่มนี้เพราะมีข้อมูลยืนยันได้ว่าจะมาก่อเหตุใน กทม.” ผบ.ตร.กล่าว

พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า ตำรวจกำลังสืบสวนขยายผลว่า คนกลุ่มนี้มีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ระเบิดตามสถานที่ต่างๆ ก่อนหน้านี้หรือไม่ ทั้งที่ราชประสงค์ และท่าเรือสาทร โดยขณะนี้ให้น้ำหนักมูลเหตุจูงใจทุกประเด็น รวมถึงเรื่องการเมือง ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง หรือให้น้ำหนักประเด็นใดเป็นพิเศษ

พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวด้วยว่า ขอยืนยันกับประชาชนว่าไม่ต้องตระหนกกับข่าวนี้ เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดูแลความปลอดภัยของประชาชนและมีหน่วยข่าวกรองจับตาเฝ้าระวังคนกลุ่มนี้อย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันไม่ให้ก่อเหตุร้าย พร้อมกันนั้นยังต้องสืบสวนหาที่มาที่ไปของกลุ่มนี้ต่อไปโดยเชื่อว่ามีต้องมีผู้ร่วมขบวนการมากกว่า 3 คนและมีผู้บงการใหญ่อยู่เบื้องหลัง โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคงได้สั่งให้ติดตามเฝ้าระวังเหตุต่อไปอย่างใกล้ชิด

ด้าน พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร.ด้านความมั่นคง กล่าวว่า เมื่อวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ นายทหารพระธรรมนูญ ได้เข้าพบตนเพื่อหารือและนำข้อมูลคดีนี้มาร่วมกันดำเนินการตามกฎหมายต่อไปและคาดว่าจะเริ่มทำสำนวนคดีนี้ได้เร็วๆ นี้. โดย พล.อ.ประวิตร ได้กำชับให้เพิ่มความเข้มงวดในการดูแลความสงบและความปลอดภัยในพื้นที่ กทม. อย่างเต็มที่

รายงานข่าวแจ้งเพิ่มเติมว่า ในวันที่ 26 พ.ย.58 พล.ต.อ.จักรทิพย์ และพล.ต.อ.ศรีวราห์ จะรับมอบตัวผู้ต้องหาจากทหารที่ห้องกระจก ชั้น 2 อาคาร 1 ตร. และจะแถลงข่าว ณ ห้องศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 ตร.

สำหรับ จ.ส.ต.ประทิน จันทร์เกศ ถือเป็นจำเลยที่ 1 ในจำนวน 26 คนถูกจับกุม พร้อมยึดอาวุธปืนและระเบิดหลายชนิดในห้องพักอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งใน ต.บ้านเป็ด จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 23 พ.ค.57 (หลัง คสช.ยึดอำนาจ 1 วัน) โดยผู้ต้องหาเหล่านี้ให้การรับสารภาพว่าอาวุธสงครามเหล่านั้นเตรียมก่อการร้ายในพื้นที่ จ.ขอนแก่น และหลายพื้นที่ในภาคอีสาน เรียกตามรหัสว่า “ขอนแก่นโมเดล”

ต่อมาในวันที่ 21 ต.ค. 57 ที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 23 จ.ขอนแก่น อัยการศาลมณฑลทหารบกที่ 23 ได้เบิกตัวผู้ต้องหาทั้ง 26 คนเพื่อสืบพยานในคดีหมายเลขดำ ที่ 10 ก./2557 โดยตั้งข้อกล่าวหาในฐานความผิด 9 ข้อกล่าวหา โทษสูงสุดถึงประหารชีวิตประกอบด้วย 1.ร่วมกันฝ่าฝืนประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เรื่องห้ามชุมนุมทางการเมือง 2.ร่วมกันสะสมกำลังพลหรืออาวุธ จัดหาหรือรวบรวมทรัพย์สินให้หรือรับการฝึกการก่อการร้าย ตระเตรียมการอื่นใด หรือสมคบกันเพื่อก่อการร้ายหรือกระทำความผิดใดๆ อันเป็นส่วนของแผนการเพื่อก่อการร้าย หรือรู้ว่าจะมีผู้ก่อการร้ายแล้วกระทำการใดอันเป็นการช่วยปกปิดไว้

3.เป็นซ่องโจร 4.มีและร่วมกันมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดที่ใช้เฉพาะแต่การสงครามที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนกฎหมาย 5.มีอาวุธ เครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 6. พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองและทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตและโดยไม่มีเหตุอันควร 7. มีเครื่องกระสุนปืนซึ่งมิใช่สำหรับใช้กับอาวุธปืนที่ได้รับใบอนุญาต 8. มีเครื่องยุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต และ 9. มีเครื่องวิทยุคมนาคมไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต
กำลังโหลดความคิดเห็น