ชุดสอบสวนเร่งติดตามตัวผู้ร่วมขบวนการ “ขอนแก่นโมเดล” หวั่นก่อเหตุป่วนเมือง

MGR Online - “พล.ต.ต.ชยพล” เผยสองผู้ต้องหา “ขอนแก่นโมเดล” ซัดทอดไปยังกลุ่มบุคคลที่อยู่ต่างประเทศเคยโพสต์ข้อความหมิ่นสถาบันฯ พร้อมเร่งติดตามผู้ร่วมขวบนการที่ยังหลบหนี หากพบผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเตรียมออกหมายจับอีก รวมทั้งส่งข้อมูลให้ด่าน ตม.ทั่วประเทศสกัดจับ

วันนี้ (27 พ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผู้บังคับการแผนงานอาชญากรรม หนึ่งในทีมสอบสวนคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูง มาตรา 112 กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ทหาร และตำรวจ จับกุมตัวผู้ต้องหา 2 ราย คือ จ.ส.ต.ประธิน จันทร์เกศ ชาว จ.ขอนแก่น อดีตตำรวจตระเวนชายแดน และนายณัฐพล ณ.วรรณ์เล อายุ 26 ปี ชาว จ.ขอนแก่น หลังพบร่วมกันกระทำความผิดซ้ำในฐานความผิดหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และมีการสื่อสารตระเตรียมก่อเหตุความวุ่นวายในพื้นที่ กทม. ซึ่งศาลได้ออกหมายจับผู้ต้องหาอีก 7 รายว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้เร่งติดตามหาตัวผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี โดยมีการส่งเอกสารเกี่ยวกับผู้ต้องหาคดีนี้ไปตามด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ต่างๆ ทั่วประเทศ ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งติดตามตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมาย

พล.ต.ต.ชยพลกล่าวต่อไปว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหา 2 รายที่ถูกควบคุมตัวได้ซึ่งเจ้าหน้าที่ทหารได้นำตัวมามอบให้ตำรวจเมื่อวันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมา เบื้องต้นพบว่ามีการซัดทอดไปยังกลุ่มบุคคลที่เคยก่อเหตุโพสต์ข้อความหมิ่นสถาบันฯ ผ่านทางโซเชียลมีเดียซึ่งขณะนี้ยังคงหลบหนีอยู่ในต่างประเทศ จากนี้พนักงานสอบสวนจึงต้องดำเนินการสอบสวนขยายผลเพิ่มเติมในประเด็นต่างๆ หากพบว่ามีผู้เกี่ยวข้องมากกว่า 9 รายก็จะออกหมายจับเพิ่มเติมต่อไป

ส่วนความคืบหน้าสำนวนคดีแอบอ้างสถาบันเบื้องสูง มาตรา 112 เครือข่ายนายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือหมอหยอง จำนวน 5 สำนวนนั้น พล.ต.ต.ชยพลกล่าวว่า ขณะนี้ได้ส่งไปยังคณะกรรมการพิจารณาคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มี พล.ต.อ.สุเทพ เดชรักษา ที่ปรึกษา (สบ 10) เป็นหัวหน้าชุด ขณะนี้อยู่ระหว่างรอให้ พล.ต.อ.สุเทพประชุมสรุปสำนวน คาดว่าในวันนี้จะมีการสรุปสำนวนพร้อมส่งให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ลงนามตามขั้นตอนก่อนส่งไปให้อัยการศาลทหารต่อไป ขณะที่สำนวนคดีแอบอ้างสถาบันฯ ที่เหลืออีก 7 สำนวนคาดว่าจะสามารถสรุปสำนวนส่งให้กองคดีอาญา สำนักกฎหมายและคดี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ภายในสิ้นเดือนนี้ แต่หากมีพลเรือน เจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือทหารเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องพัวพันก็จะดำเนินออกหมายจับดำเนินคดีตามกฎหมายเพิ่มเติมต่อไป