"อนันตพร" ชงร่างแก้ไขกฎหมายปิโตรเลียมเสนอครม.แล้ว ลุ้นพิจารณาภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ หวังนำประเด็นเห็นต่างปรับแก้ในกฎกระทรวงได้ คาดเปิดให้เอกชนยื่นสำรวจและผลิตอย่างเร็วกลางปีหน้า ขณะที่ "อารีพงศ์" แย้มเอราวัณ-บงกช หมดอายุสัมปทานผลศึกษาต่างประเทศ ส่วนใหญ่ให้รายเดิมทำต่อ
วานนี้ (23พ.ย.) พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่ากระทรวงพลังงานได้เสนอร่างแก้ไข พ.ร.บ.ปิโตรเลียม พ.ศ. 2514 และ พ.ร.บ.ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม พ.ศ.2514 ให้คณะรัฐมนตรี(ครม.)แล้ว คาดว่าครม.จะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่วาระการพิจารณาได้ภายใน 1-2 สัปดาห์ โดยได้เสนอว่าควรจะแก้ไขกฎหมายหรือไม่ต้องแก้ไข หากครม.อนุมัติไม่ต้องแก้ไข โดยสามารถออกเป็นกฎกระทรวง ก็จะสามารถพิจารณาประกาศให้เอกชนเข้ายื่นสิทธิเพื่อการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม รอบที่ 21 ได้ภายในกลางปี 59
สำหรับร่างกฎหมายดังกล่าว เป็นการเสนอของกระทรวงพลังงาน แต่เนื่องจากมีข้อคิดเห็นที่แตกต่างของบางฝ่ายจึงได้นำเสนอข้อคิดเห็นจากทุกฝ่ายเสนอเข้าไป โดยมีรายละเอียดหลายประเด็น เช่น การวัดปริมาณน้ำมันจากหลุมผลิตจุดขายหรือไม่ ระบบสัมปทาน หรือจะใช้ระบบแบ่งปันผลผลิต(PSC)เป็นต้น ซึ่งเห็นว่าเรื่องดังกล่าวสามารถดำเนินการได้เพียงแค่ แก้กฏกระทรวงโดยไม่ต้องไปแก้ไขกฏหมายใดๆเพื่อความรวดเร็ว
"กรณีการใช้ระบบใด ระหว่าง PSCหรือ สัมปทานนั้น คิดว่าควรจะกำหนดไปเลย ซึ่งอาจจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมากำหนดแหล่งปิโตรเลียมทั้ง 29 แปลงให้ชัดว่า แหล่งใดควรใช้ระบบสัมปทาน และแหล่งใดควรเป็น PSC อย่างไรก็ตามการประชุมร่วมกับสมาชิกของทบวงพลังงานระหว่างประเทศ หรือ IEA Ministerial Meeting 2015 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ที่ผ่านมา ได้วิเคราะห์เรื่องทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลกในอีก 2 ปี นับจากนี้ยังมีแนวโน้มขาลง ด้วยเหตุนี้ก็กังวลว่าจะมีคนสนใจมาสำรวจหรือเปล่า เพราะการลงทุนอาจไม่คุ้มทุน " รมว.พลังงาน กล่าว
ส่วนกรณีการพิจารณาแนวทางดำเนินการแหล่งสัมปทานที่จะหมดอายุสัมปทานลง 2 แหล่ง คือ แหล่งเอราวัณ ของเชฟรอน กับแหล่งบงกช ของ บมจ.ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม ปี65-66 นั้น ขณะนี้นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน อยู่ระหว่างการดำเนินงานศึกษาแนวทาง คาดว่าภายในธ.ค.นี้ จะสรุปรูปแบบที่เหมาะสมได้
สำหรับการปรับโครงสร้างราคาพลังงาน ซึ่งยังเหลือการลอยตัวราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ หรือ NGV จะมีการพิจารณาปรับราคาอีกครั้งต้นปี 59 ซึ่งจะปรับขึ้นมากน้อยขนาดไหนยังไม่สามารถระบุได้ แต่ในช่วงนั้นราคาก๊าซธรรมชาติประเมินว่า จะปรับตัวลดลง ซึ่งเป็นไปตามสูตรอ้างอิงราคาน้ำมันเตาย้อนหลัง 6-12 เดือน ทำให้ต้นทุน NGVลดลงด้วย การปรับราคาจึงคาดว่าจะไม่มาก
ส่วนกรณีบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนต์ จำกัด ยื่นกระทรวงพลังงานโดยขอให้ยึดสัญญาซื้อขายไฟฟ้า ตามการประกาศประมูลไอพีพี ที่กัลฟ์ชนะการประมูลเพียงรายเดียว 5,000 เมกะวัตต์นั้น คงต้องรอให้ศาลพิจารณา แต่กระทรวงฯ ก็พิจารณาถึงที่มาที่ไปว่าถูกต้องหรือไม่หากไม่ถูกต้อง จะต้องดำเนินการอย่างไร คงต้องมาพิจารณารายละเอียด
นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ขณะนี้กำลังศึกษารูปแบบสัมปทานปิโตรเลียมที่หมดอายุจากต่างประเทศ เพื่อพิจารณาปรับใช้ให้เหมาะสมกับประเทศไทย อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นพบว่า ต่างประเทศมักจะให้ผู้ประกอบการรายเดิมได้สัมปทานไป เนื่องจากมีความรู้ความเข้าใจแหล่งที่ขุดเจาะนั้นๆ ดีอยู่แล้ว และสามารถต่อยอดให้ก้าวหน้าต่อไปได้ไกลกว่า
วานนี้ (23พ.ย.) พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่ากระทรวงพลังงานได้เสนอร่างแก้ไข พ.ร.บ.ปิโตรเลียม พ.ศ. 2514 และ พ.ร.บ.ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม พ.ศ.2514 ให้คณะรัฐมนตรี(ครม.)แล้ว คาดว่าครม.จะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่วาระการพิจารณาได้ภายใน 1-2 สัปดาห์ โดยได้เสนอว่าควรจะแก้ไขกฎหมายหรือไม่ต้องแก้ไข หากครม.อนุมัติไม่ต้องแก้ไข โดยสามารถออกเป็นกฎกระทรวง ก็จะสามารถพิจารณาประกาศให้เอกชนเข้ายื่นสิทธิเพื่อการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม รอบที่ 21 ได้ภายในกลางปี 59
สำหรับร่างกฎหมายดังกล่าว เป็นการเสนอของกระทรวงพลังงาน แต่เนื่องจากมีข้อคิดเห็นที่แตกต่างของบางฝ่ายจึงได้นำเสนอข้อคิดเห็นจากทุกฝ่ายเสนอเข้าไป โดยมีรายละเอียดหลายประเด็น เช่น การวัดปริมาณน้ำมันจากหลุมผลิตจุดขายหรือไม่ ระบบสัมปทาน หรือจะใช้ระบบแบ่งปันผลผลิต(PSC)เป็นต้น ซึ่งเห็นว่าเรื่องดังกล่าวสามารถดำเนินการได้เพียงแค่ แก้กฏกระทรวงโดยไม่ต้องไปแก้ไขกฏหมายใดๆเพื่อความรวดเร็ว
"กรณีการใช้ระบบใด ระหว่าง PSCหรือ สัมปทานนั้น คิดว่าควรจะกำหนดไปเลย ซึ่งอาจจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมากำหนดแหล่งปิโตรเลียมทั้ง 29 แปลงให้ชัดว่า แหล่งใดควรใช้ระบบสัมปทาน และแหล่งใดควรเป็น PSC อย่างไรก็ตามการประชุมร่วมกับสมาชิกของทบวงพลังงานระหว่างประเทศ หรือ IEA Ministerial Meeting 2015 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ที่ผ่านมา ได้วิเคราะห์เรื่องทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลกในอีก 2 ปี นับจากนี้ยังมีแนวโน้มขาลง ด้วยเหตุนี้ก็กังวลว่าจะมีคนสนใจมาสำรวจหรือเปล่า เพราะการลงทุนอาจไม่คุ้มทุน " รมว.พลังงาน กล่าว
ส่วนกรณีการพิจารณาแนวทางดำเนินการแหล่งสัมปทานที่จะหมดอายุสัมปทานลง 2 แหล่ง คือ แหล่งเอราวัณ ของเชฟรอน กับแหล่งบงกช ของ บมจ.ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม ปี65-66 นั้น ขณะนี้นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน อยู่ระหว่างการดำเนินงานศึกษาแนวทาง คาดว่าภายในธ.ค.นี้ จะสรุปรูปแบบที่เหมาะสมได้
สำหรับการปรับโครงสร้างราคาพลังงาน ซึ่งยังเหลือการลอยตัวราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ หรือ NGV จะมีการพิจารณาปรับราคาอีกครั้งต้นปี 59 ซึ่งจะปรับขึ้นมากน้อยขนาดไหนยังไม่สามารถระบุได้ แต่ในช่วงนั้นราคาก๊าซธรรมชาติประเมินว่า จะปรับตัวลดลง ซึ่งเป็นไปตามสูตรอ้างอิงราคาน้ำมันเตาย้อนหลัง 6-12 เดือน ทำให้ต้นทุน NGVลดลงด้วย การปรับราคาจึงคาดว่าจะไม่มาก
ส่วนกรณีบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนต์ จำกัด ยื่นกระทรวงพลังงานโดยขอให้ยึดสัญญาซื้อขายไฟฟ้า ตามการประกาศประมูลไอพีพี ที่กัลฟ์ชนะการประมูลเพียงรายเดียว 5,000 เมกะวัตต์นั้น คงต้องรอให้ศาลพิจารณา แต่กระทรวงฯ ก็พิจารณาถึงที่มาที่ไปว่าถูกต้องหรือไม่หากไม่ถูกต้อง จะต้องดำเนินการอย่างไร คงต้องมาพิจารณารายละเอียด
นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ขณะนี้กำลังศึกษารูปแบบสัมปทานปิโตรเลียมที่หมดอายุจากต่างประเทศ เพื่อพิจารณาปรับใช้ให้เหมาะสมกับประเทศไทย อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นพบว่า ต่างประเทศมักจะให้ผู้ประกอบการรายเดิมได้สัมปทานไป เนื่องจากมีความรู้ความเข้าใจแหล่งที่ขุดเจาะนั้นๆ ดีอยู่แล้ว และสามารถต่อยอดให้ก้าวหน้าต่อไปได้ไกลกว่า
