ผู้จัดการรรายวัน 360 - รมว.คลังเตรียมเสนอ Thailand Future Fund 1 แสนล้าน เข้า ครม.ภายใน 2สัปดาห์ พร้อมหนุนแบ่งเงินประมูล 4G ไปสร้างบ้านเพื่อคนจนและลงทุนพัฒนาระบบ National E-payment พัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานระบบการเงิน
ในงานมหกรรมการลงทุนครบวงจรแห่งปี Set in the City 2015 ที่สยามพารากอน เมื่อวานนี้ (19 พ.ย.) นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังจะเสนอเรื่องการจัดตั้ง Thailand Future Fund มูลค่า 1 แสนล้านบาท เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายใน 2 สัปดาห์ เพื่อเป็นช่องทางระดมทุนสำหรับใช้ในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน โดยจะเน้นการเสนอขายหน่วยลงทุนให้แก่นักลงทุนสถาบันในและต่างประเทศเป็นหลัก ส่วนผลตอบแทนการลงทุนนั้น ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการศึกษา
Thailand Future Fund มูลค่า 1 แสนล้านบาท เป็นการระดมทุนในการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งเบื้องต้นกองทุนดังกล่าวสามารถลงทุนได้อย่างเปิดกว้าง เช่น การลงทุนในหุ้นหรือตราสารหนี้ โดยมีลักษณะการลงทุนใกล้เคียงกับกองทุนวายุภักษ์ ในระหว่างที่โครงการก่อสร้างพื้นฐานยังไม่แล้วเสร็จ เพื่อให้กองทุนดังกล่าวผลตอบแทนกับผู้ถือกองทุน โดยรัฐบาลจะรับประกันผลตอบแทนขั้นต่ำ เพื่อให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์เพื่อให้นักลงทุนสถาบันซึ่งเป็น กลุ่มเป้าหมายหลักสามารถลงทุนได้ทั้งสถาบันในประเทศ เช่น กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) และบริษัทประกันชีวิต
รมว.คลังยังแสดงความมั่นใจว่าตลาดหุ้นไทยในปีหน้าจะดีขึ้นกว่าปีนี้ จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่จะฟื้นตัวขึ้น หลังจากรัฐบาลออกนโยบายต่างๆ มากระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และการกระจายรายได้สู่ระดับฐานราก ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจปีหน้าได้เห็นการฟื้นตัวขึ้นอย่างชัดเจนจากปีนี้ที่เศรษฐกิจยังชะลอตัว
"รัฐบาลพยายามขับเคลื่อนในปีนี้มาแล้วค่อนข้างเยอะ แต่ยังไม่มากนัก ทำให้การลงทุนต่างๆ จะไปกระจุกตัวอยู่ปีหน้า ไม่ว่าเมกะโปรเจ็คท์ต่างๆ และการส่งเสริมรายได้ให้กับประชาชนเป็นตัวหลักที่หนุนการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศ และเรามองว่าตลาดหุ้นไทยในปีหน้าก็จะดีขึ้นจากปีนี้แน่นอน สะท้อนภาพเศรษฐกิจในบ้านเรา" รมว.คลัง กล่าว
นายอภิศักดิ์ยังกล่าวถึงการการขยายสิทธิประโยชน์ด้านภาษีในกองทุน LTF ไปอีก 3 ปี โดยจะสิ้นสุดในปี 62 ว่า เพื่อให้นักลงทุนมีระยะเวลาที่สามารถปรับตัวได้ หลังจากในปัจจุบันตลาดทุนไทยมีการเติบโตสูง โดยมีมูลค่าตลาดมากกว่า 14 ล้านล้านบาท ซึ่งสูงกว่าตลาดเงิน เช่น สถาบันการเงิน ส่งผลให้มีนักลงทุนเข้ามาลงทุนในตลาดทุนไทยมากขึ้น ซึ่งทำให้มองว่าในอนาคตไม่มีความจำเป็นในการสนับสนุนสิทธิประโยชน์ทางภาษีให้กับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง อีกทั้งควรนำเงินไปช่วยกลุ่มประชารัฐหรือที่กลุ่มมีความอ่อนแอมากกว่า
ด้านนางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการร่วมทำงานกับทีมงานเรื่องของกองทุน infrastructure fund โดยมองว่าจะเป็นทางเลือกที่ดีต่อการลงทุน เนื่องด้วยให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ และดีกว่าตราสารหนี้ ทั้งนี้ การลงทุนในกองทุน infrastructure fund น่าจะเหมาะกับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงของหุ้นได้ต่ำ คาดว่าภายในปี 59 จะออกกองทุนฯได้เพิ่มเติม
"เชื่อว่านักลงทุนน่าจะมีความมั่นใจในการลงทุน infrastructure fund เพราะเป็นการลงทุนของรัฐ ขณะที่ผลตอบแทนของกองทุนฯ ซึ่งจะเห็นได้จากที่ผ่านมาๆ ก็จะมีผลตอบแทนที่ดี และเมื่อเทียบกับพันธบัตรภาครัฐ ก็ถือว่าจะดีกว่าอยู่แล้ว ซึ่งทางตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็ได้ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี เพราะถือว่าเป็นอีกทางเลือกของการลงทุน"
นอกจากนี้ infrastructure fund ถือว่าเป็นทางเลือกของภาครัฐในการระดมทุน ส่วนภาคผู้ลงทุนก็อาจจะเป็นทางเลือกของผู้ที่ไม่ต้องการะเข้าไปลงทุนในหุ้นโดยตรง อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาที่มีกองทุน infrastructure fund เข้ามาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้วหลายกอง แต่สิ่งที่ตลาดฯจะต้องทำงานร่วมกับภาครัฐเพิ่มเติม คือ การสร้างความเข้าใจถึงการลงทุน, ผลตอบแทนของการลงทุน, ความเสี่ยง รวมไปถึงความเหมาะสมของนักลงทุนเอง
***หนุนเจียดเงิน4Gสร้างบ้านคนจน
กรณีที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี มีแนวคิดที่จะนำเงินจากการประมูลใบอนุญาต 4G บางส่วนไปใช้ในโครงการบ้านเพื่อผู้มีรายได้น้อย นายอภิศักดิ์กล่าวเห็นด้วย รวมไปถึงการลงทุนพัฒนาระบบ National E-payment ที่จะต้องใช้งบประมาณที่สูง ซึ่งเป็นสิ่งหนึ่งที่จะช่วยพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานของระบบการเงินในประเทศ ถือเป็นเรื่องใหม่ ที่รัฐบาลจะเข้าไปช่วยเหลือ
"โครงการที่เป็นลักษณะนี้ถือเป็นประโยชน์กับประชาชนและการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินเป็นประโยชน์กับประเทศ เบื้องต้นหากโครงการมีความเร่งด่วน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเสนอโครงการดังกล่าวผ่านสำนักงบประมาณรวมทั้ง ต้องเสนอให้ ครม.” รมว.คลังกล่าว.
ในงานมหกรรมการลงทุนครบวงจรแห่งปี Set in the City 2015 ที่สยามพารากอน เมื่อวานนี้ (19 พ.ย.) นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังจะเสนอเรื่องการจัดตั้ง Thailand Future Fund มูลค่า 1 แสนล้านบาท เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายใน 2 สัปดาห์ เพื่อเป็นช่องทางระดมทุนสำหรับใช้ในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน โดยจะเน้นการเสนอขายหน่วยลงทุนให้แก่นักลงทุนสถาบันในและต่างประเทศเป็นหลัก ส่วนผลตอบแทนการลงทุนนั้น ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการศึกษา
Thailand Future Fund มูลค่า 1 แสนล้านบาท เป็นการระดมทุนในการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งเบื้องต้นกองทุนดังกล่าวสามารถลงทุนได้อย่างเปิดกว้าง เช่น การลงทุนในหุ้นหรือตราสารหนี้ โดยมีลักษณะการลงทุนใกล้เคียงกับกองทุนวายุภักษ์ ในระหว่างที่โครงการก่อสร้างพื้นฐานยังไม่แล้วเสร็จ เพื่อให้กองทุนดังกล่าวผลตอบแทนกับผู้ถือกองทุน โดยรัฐบาลจะรับประกันผลตอบแทนขั้นต่ำ เพื่อให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์เพื่อให้นักลงทุนสถาบันซึ่งเป็น กลุ่มเป้าหมายหลักสามารถลงทุนได้ทั้งสถาบันในประเทศ เช่น กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) และบริษัทประกันชีวิต
รมว.คลังยังแสดงความมั่นใจว่าตลาดหุ้นไทยในปีหน้าจะดีขึ้นกว่าปีนี้ จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่จะฟื้นตัวขึ้น หลังจากรัฐบาลออกนโยบายต่างๆ มากระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และการกระจายรายได้สู่ระดับฐานราก ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจปีหน้าได้เห็นการฟื้นตัวขึ้นอย่างชัดเจนจากปีนี้ที่เศรษฐกิจยังชะลอตัว
"รัฐบาลพยายามขับเคลื่อนในปีนี้มาแล้วค่อนข้างเยอะ แต่ยังไม่มากนัก ทำให้การลงทุนต่างๆ จะไปกระจุกตัวอยู่ปีหน้า ไม่ว่าเมกะโปรเจ็คท์ต่างๆ และการส่งเสริมรายได้ให้กับประชาชนเป็นตัวหลักที่หนุนการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศ และเรามองว่าตลาดหุ้นไทยในปีหน้าก็จะดีขึ้นจากปีนี้แน่นอน สะท้อนภาพเศรษฐกิจในบ้านเรา" รมว.คลัง กล่าว
นายอภิศักดิ์ยังกล่าวถึงการการขยายสิทธิประโยชน์ด้านภาษีในกองทุน LTF ไปอีก 3 ปี โดยจะสิ้นสุดในปี 62 ว่า เพื่อให้นักลงทุนมีระยะเวลาที่สามารถปรับตัวได้ หลังจากในปัจจุบันตลาดทุนไทยมีการเติบโตสูง โดยมีมูลค่าตลาดมากกว่า 14 ล้านล้านบาท ซึ่งสูงกว่าตลาดเงิน เช่น สถาบันการเงิน ส่งผลให้มีนักลงทุนเข้ามาลงทุนในตลาดทุนไทยมากขึ้น ซึ่งทำให้มองว่าในอนาคตไม่มีความจำเป็นในการสนับสนุนสิทธิประโยชน์ทางภาษีให้กับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง อีกทั้งควรนำเงินไปช่วยกลุ่มประชารัฐหรือที่กลุ่มมีความอ่อนแอมากกว่า
ด้านนางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการร่วมทำงานกับทีมงานเรื่องของกองทุน infrastructure fund โดยมองว่าจะเป็นทางเลือกที่ดีต่อการลงทุน เนื่องด้วยให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ และดีกว่าตราสารหนี้ ทั้งนี้ การลงทุนในกองทุน infrastructure fund น่าจะเหมาะกับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงของหุ้นได้ต่ำ คาดว่าภายในปี 59 จะออกกองทุนฯได้เพิ่มเติม
"เชื่อว่านักลงทุนน่าจะมีความมั่นใจในการลงทุน infrastructure fund เพราะเป็นการลงทุนของรัฐ ขณะที่ผลตอบแทนของกองทุนฯ ซึ่งจะเห็นได้จากที่ผ่านมาๆ ก็จะมีผลตอบแทนที่ดี และเมื่อเทียบกับพันธบัตรภาครัฐ ก็ถือว่าจะดีกว่าอยู่แล้ว ซึ่งทางตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็ได้ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี เพราะถือว่าเป็นอีกทางเลือกของการลงทุน"
นอกจากนี้ infrastructure fund ถือว่าเป็นทางเลือกของภาครัฐในการระดมทุน ส่วนภาคผู้ลงทุนก็อาจจะเป็นทางเลือกของผู้ที่ไม่ต้องการะเข้าไปลงทุนในหุ้นโดยตรง อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาที่มีกองทุน infrastructure fund เข้ามาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้วหลายกอง แต่สิ่งที่ตลาดฯจะต้องทำงานร่วมกับภาครัฐเพิ่มเติม คือ การสร้างความเข้าใจถึงการลงทุน, ผลตอบแทนของการลงทุน, ความเสี่ยง รวมไปถึงความเหมาะสมของนักลงทุนเอง
***หนุนเจียดเงิน4Gสร้างบ้านคนจน
กรณีที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี มีแนวคิดที่จะนำเงินจากการประมูลใบอนุญาต 4G บางส่วนไปใช้ในโครงการบ้านเพื่อผู้มีรายได้น้อย นายอภิศักดิ์กล่าวเห็นด้วย รวมไปถึงการลงทุนพัฒนาระบบ National E-payment ที่จะต้องใช้งบประมาณที่สูง ซึ่งเป็นสิ่งหนึ่งที่จะช่วยพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานของระบบการเงินในประเทศ ถือเป็นเรื่องใหม่ ที่รัฐบาลจะเข้าไปช่วยเหลือ
"โครงการที่เป็นลักษณะนี้ถือเป็นประโยชน์กับประชาชนและการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินเป็นประโยชน์กับประเทศ เบื้องต้นหากโครงการมีความเร่งด่วน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเสนอโครงการดังกล่าวผ่านสำนักงบประมาณรวมทั้ง ต้องเสนอให้ ครม.” รมว.คลังกล่าว.