xs
xsm
sm
md
lg

มอบตัวแล้ว!แม่ผัวจ้างฆ่าลูกสะใภ้ จัดฉากตายหนีโทษประหาร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ (17 พ.ย.) ที่กองปราบปราม นางจุรี จันทร์งาม อายุ 72 ปี อยู่บ้านเลขที่ 113 หมู่ 2 ต.นากระตาม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสงขลา ที่ สช.75/2558 ลงวันที่ 24 มี.ค.58 ข้อหาจ้างวานฆ่าผู้อื่น และความผิดตามพ.ร.บ.อาวุธปืน โดยมีพฤติการณ์หลบหนี เดินทางเข้ามอบตัวต่อพล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. และพล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี ผบก.ป. เพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
พล.ต.ต.อัคราเดช กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 13 ธ.ค.50 เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนบุกยิง น.ส.ริ้วแพร โชติการ อายุ 26 ปี เภสัชกรโรงพยาบาลควนเนียง ที่กำลังตั้งครรภ์ 3 เดือน จนเสียชีวิต เหตุเกิดภายในคลินิกเวชกรรมในพื้นที่ อ.ควนเนียง จ.สงขลา พร้อมด้วยนายอดิศร์ ประทีปทัศน์ พนักงานจัดยาที่ยืนอยู่ที่เคาน์เตอร์คลินิกดังกล่าว
ต่อมาชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา ติดตามจับกุมมือปืนที่ลงมือก่อเหตุได้ คือนายนรินทร์ จันทร์ฉาย อายุ 36 ปี และ นายจำนง คงสุวรรณ อายุ 40 ปี ทั้งสองให้การซัดทอดว่า นางจุรี เป็นผู้ใช้จ้างวานเป็นเงิน 5 แสนบาท เพื่อให้ลงมือสังหารน.ส.ริ้วแพร จากแนวทางการสืบสวนทราบว่า นางจุรี โกรธแค้นที่ผู้ตายรักใคร่ชอบพอกับนายวิกรม จันทร์งาม อายุ 36 ปี พนักงานธนาคารแห่งหนึ่ง บุตรชายเพียงคนเดียวของตระกูล อีกทั้งยังเตรียมจัดงานแต่งงาน ในวันที่ 29 ธ.ค.50 แต่นางจุรี ไม่ยินยอมและพยายามกีดกัน เพราะเห็นว่าทางบ้านมีฐานะดีระดับเป็นเศรษฐี มีหน้ามีตาในพื้นที่ ถึงกับเอ่ยปากว่า หากไม่ล้มเลิกงานแต่งงานคงได้จัดงานศพแทน
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ขออำนาจศาลออกหมายจับนางจุรี และสามารถติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีได้ ต่อมาได้สรุปสำนวนส่งฟ้องคดีผู้ต้องหาทั้งหมด ซึ่งในชั้นอัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง นายจำนง ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือทั้งสองนั้นศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาประหารชีวิตจำเลยทั้งสองราย ทว่านางจุรีได้วางหลักทรัพย์มูลค่า 5 ล้านบาท เพื่อประกันตัวในระหว่างที่คดีอยู่ในชั้นฎีกา กระทั่งเมื่อวันที่ 27 ก.พ.57 น.ส.รัศมี จันทร์งาม บุตรสาวของนางจุรี ได้ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดสงขลา เพื่อขอจำหน่ายคดีเนื่องจากอ้างว่า นางจุรี ถึงแก่ความตาย เมื่อวันที่ 24 ก.พ.57 ที่บ้านพักในพื้นที่ ต.นากระตาม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร มีการฌาปนกิจศพที่วัดมณีสพ ต.บางหมาก อ.เมืองฯ จ.ชุมพร โดยมีใบมรณบัตรออกโดยฝ่ายปกครอง อ.ท่าแซะ แสดงเป็นหลักฐานการเสียชีวิต
หลังจากนั้น นางฤดีมาศ สิงห์มณี อายุ 55 ปี มารดาของ น.ส.ริ้วแพร ผู้เสียชีวิตได้เข้าร้องเรียนต่อพนักงานสอบสวน กก.6 บก.ป. ขอให้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว เนื่องจากเชื่อว่านางจุรี ยังมีชีวิตอยู่ กระทั่งเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้นำหมายค้นของศาลจังหวัดสงขลา เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 427 หมู่ 2 ต.รัตภูมิ อ.ควนเนียง จ.สงขลา แต่ก็ไม่พบตัวนางจุรี
อย่างไรก็ตาม แนวทางการสืบสวนทราบว่า นางจุรีได้หลบหนีไปอาศัยอยู่กับญาติและคนรู้จักหลายแห่ง เนื่องจากเป็นผู้กว้างขวางรู้จักคนเยอะ รวมถึงกลุ่มคนมีสีด้วย ต่อมาอัยการจังหวัดสงขลา ในฐานะผู้คัดค้านได้ยื่นศาลให้สืบพยาน 6 ปาก คือ เจ้าหน้าที่รับแจ้งการตาย ปลัดอำเภอ สัปเหร่อวัดมณีสพ ผู้ช่วยเจ้าอาวาส และเจ้าอาวาสวัดดังกล่าว รวมทั้งร.ต.ท.สิทธิพร ขันธ์พระแสง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร ต่างยืนยันว่า ไม่มีการจัดงานศพ และเผาศพนางจุรี และไม่มีพยานพบเห็นศพนางจุรี ส่วนสาเหตุที่มีการออกใบมรณบัตรนั้น ทางอำเภอท่าแซะอ้างว่า มีใบรับรองการตายจากผู้ใหญ่บ้าน จึงออกให้ไปตามระเบียบกรมการปกครอง
ต่อมาศาลฎีกาจังหวัดสงขลาได้มีคำสั่งไต่สวนการตายของนางจุรี จนที่สุดจึงทราบแน่ชัดว่า นางจุรียังไม่ตาย ตามที่กล่าวอ้าง และเชื่อว่านางจุรี มีพฤติกรรมจงใจหลบหนีไม่มาฟังคำพิพากษา ศาลฎีกาจึงได้อ่านคำพิพากษาลับหลังว่า จำเลยกระทำผิดตามฟ้อง แต่นายวิกรม บุตรชายของจำเลย ให้การเป็นพยานในชั้นสอบสวนจึงเป็นเหตุบรรเทาโทษให้แก่จำเลย โดยคงลงโทษจำคุกตลอดชีวิต ส่วนนายนรินทร์ จำเลยอีกราย ศาลพิพากษายืนให้ประหารชีวิต
เมื่อได้รับข้อมูลทั้งหมดแล้วในวันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.อ.สมพงษ์ สุวรรณวงศ์ ผกก.6 บก.ป. พร้อมกำลัง ได้นำหมายศาลจังหวัดสงขลา เข้าตรวจค้นบ้านพักเลขที่ 83/132-140 และบ้านพักต่างๆรวม 10 หลัง ในพื้นที่ ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ของนายสมศักดิ์ วาณิชสุวรรณ หรือ “โกหมิ่น หาดใหญ่”เจ้าของห้างทอง และเป็นเซียนพระชื่อดัง ผู้กว้างขวางในพื้นที่ เพื่อติดตามตัวนางจุรี แต่ก็ไม่พบตัวโดยมี น.ส.รัศมี จันทร์งาม บุตรสาวของนางจุรี บอกกับเจ้าหน้าที่ว่า มารดาเสียชีวิตไปนานแล้ว แต่จากการสอบสวนพยานยังยืนยันว่า พบเห็นนางจุรีกับบุตรสาวแวะเวียนเข้ามาในบริเวณบ้านพักดังกล่าว และมีความระมัดระวังตัวอย่างมาก มีการขับรถเปลี่ยนเส้นทางเพื่อหลบเลี่ยงการถูกติดตามตัว หลังจากนั้นชุดสืบสวน กก.6 บก.ป.ได้ออกกดดันอย่างหนัก ที่สุดทางญาติของนางจุรี จึงประสานแจ้งกับทางเจ้าหน้าที่ว่า นางจุรี สำนึกผิดและจะขอเข้ามอบตัวต่อ บก.ป.ในวันเดียวกันนี้
ด้านนางจุรี ให้การปฏิเสธโดยอ้างว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้น ตนเป็นฝ่ายถูกใส่ร้าย และไม่ได้เป็นผู้จ้างวานนายนรินทร์ มือปืนให้ไปก่อเหตุสังหาร น.ส.ริ้วแพร ว่าที่ลูกสะใภ้แต่อย่างใด ตนไม่ได้รู้จักกับนายนรินทร์ มาก่อน ส่วนกรณีการแจ้งความเท็จในการขอออกใบมรณบัตรนั้น คงไม่ขอกล่าวถึง เพราะเรื่องนี้ผ่านมานานแล้ว
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเนื่องจากมีพยานหลักฐานแน่ชัด และคดีนี้ศาลได้มีคำพิพากษาแล้ว โดยหลังจากนี้จะขยายผลตรวจสอบว่ามีผู้ใดที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ทั้งกรณีการเสียชีวิตของ น.ส.ริ้วแพร และกรณีการแจ้งความเท็จ จนมีการออกใบมรณบัตรจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในพื้นที่ ส่วนนางจุรี ได้คุมตัวส่งศาลจังหวัดสงขลาต่อไป
มีรายงานข่าวว่าในวันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าหน้าที่ทำการเข้าตรวจค้นบ้านพักในพื้นที่ ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ของนายสมศักดิ์นั้น นางจุรีได้รู้ตัวก่อน จึงรีบหลบหนีออกจากบ้านพักหลังดังกล่าวก่อนเจ้าหน้าที่เข้าปิดล้อมตรวจค้นได้อย่างหวุดหวิด จากนั้นนางจุรี ได้หลบหนีมากบดานบ้านญาติที่กรุงเทพฯ กระทั่งถูกกดดันและติดตามตัวอย่างไม่ลดละ จากตำรวจ กก.6 บก.ป.จึงประสานเข้ามอบตัวดังกล่าว อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวน กก.6 บก.ป. เตรียมพิจารณาเชิญตัว นายสมพจน์ นวลพงษ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 ต.นากระตาม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ผู้รับรองการเสียชีวิต ของนางจุรี มาสอบปากคำ
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ก็จะได้เรียกให้นายอาคม ตรงอิทธิกุล หรือ“โกคิ้ม”หัวหน้ามูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์ ผู้ร่วมขบวนการนำหนังสือรับรองการเสียชีวิตของนางจุรี ไปให้รักษาการเจ้าอาวาสวัดมณีสพ และ น.ส.รัศมี จันทร์งาม บุตรสาวของนางจุรี นำไปยื่นเป็นหลักฐานการตายแสดงต่อศาลจังหวัดสงขลา มาสอบปากคำอีกด้วย
ประหาร “มือเผา” ทำแกนนำแดงผวาบรรทัดฐานคำพิพากษา !!
ประหาร “มือเผา” ทำแกนนำแดงผวาบรรทัดฐานคำพิพากษา !!
บรรดาแกนนำที่ต้องกล่าวถึง ก็คือ ทักษิณ ชินวัตร ที่แม้เวลานี้ยังหลบหนีอยู่ต่างประเทศทำให้ต้องจำหน่ายคดีออกจากสารบบชั่วคราวก็ตาม แต่หากพลาดพลั้งถูกจับกุมตัวกลับมา รวมทั้ง จตุพร พรหมพันธุ์ ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ คนพวกนี้จะว่าไปแล้วล้วนเป็นต้นเหตุไม่น้อยที่ทำให้เกิดการจลาจล จนกระทั่งบานปลายกลายเป็นการเผาศาลากลาง ประเภท เผาไปเลยพี่น้องผมรับผิดชอบเอง หรือคำพูดที่ว่าให้พี่น้องเสื้อแดงไปพร้อมกันที่ศาลากลางทั่วประเทศเมื่อมีการปราบเมื่อไหร่ให้ตัดสินใจได้ทันทีคนพวกนี้แหละที่ต้องหวั่นไหวหวาดกลัว
กำลังโหลดความคิดเห็น