ผู้จัดการรายวัน 360 - โบรกเกอร์ชี้เหตุความรุนแรงที่ฝรั่งเศสจะส่งผลกระทบต่อหุ้นทั่วโลก และอาจทำให้เศรษฐกิจยุโรปแย่ลงไปอีก คาดเปิดตลาดวันจันทร์หุ้นไทยมีแนวโน้มอาจลงไปลึกถึง 1,350 จุด แต่ก็เป็นจังหวะกลับเข้าไปช้อนซื้อ เพื่อได้หุ้นดีราคาถูก
นายเผดิมภพ สงเคราะห์ กรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการเงินทุนบุคคล บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หลังเกิดเหตุความรุนแรงในฝรั่งเศส จะส่งผลต่อตลาดหุ้นทั่วโลกปรับลดลง และอาจทำให้เศรษฐกิจยุโรปแย่ลงไปอีก จากเดิมกังวลว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย อาจทำให้การคาดการณ์ดังกล่าวเลื่อนออกไปอีก สำหรับการเปิดตลาดหลักทรัพย์ในวันจันทร์นี้ (16 พ.ย.) เมื่อตลาดหุ้นทั่วโลกปรับลดลง ในระยะสั้นจะทำให้ตลาดหุ้นไทยปรับลดลงตามไปด้วย แต่มองว่านักลงทุนต่างชาติได้เทขายหุ้นไทยออกไปในระยะหนึ่งแล้ว ขณะนี้มีสัดส่วนนักลงทุนต่างชาติเหลือร้อยละ 32 ของมูลค่าตลาดหุ้นไทยทั้งหมด นับว่าส่วนส่วนไม่สูงมากนัก
"คาดว่าไม่เป็นปัจจัยหลักส่งผลต่อตลาดหุ้นไทย และยังแนะนำให้นักลงทุนไทยกลับเข้าไปช้อนซื้อ เพื่อได้หุ้นดีราคาถูก เนื่องจากพื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังแข็งแกร่งและหุ้นขนาดใหญ่หลายตัวที่มีศักยภาพ มีนักลงทุนรอให้ราคาปรับลดลง จึงเป็นโอกาสเหมาะของหลายคนที่รอเข้าซื้อหุ้นจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ หากดัชนีหุ้นไทยแตะระดับ 1,350-1,370 จุด แนะนำให้เข้าลงทุน เนื่องจากเข้าใกล้ระดับค่า PE ที่ระดับ 12.5 เท่าของตลาดหุ้นไทย" นายเผดิมภพกล่าว
ด้านนายเบญจรงค์ สุวรรณคีรี ผู้อำนวยการศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ธนาคารทหารไทย (TMB) มองว่า ยังไม่สามารถประเมินผลกระทบระยะยาวได้ชัดเจน แต่ในระยะสั้นอาจจะกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนซึ่งต้องรอดูผลการตอบสนองของตลาดเงินและตลาดทุน รวมถึงอัตราแลกเปลี่ยนที่อาจเกิดความผันผวนระยะสั้น
ขณะที่ปัจจัยจากความเสี่ยงของปัญหาความขัดแย้ง และการเมืองระหว่างประเทศ เป็นปัจจัยที่นักลงทุนกังวลเพิ่มมากขึ้นในปีหน้า เนื่องจากเป็นสิ่งที่คาดเดาได้ยาก และจะส่งผลต่อความผันผวนของตลาด นอกเหนือจากประเด็นเศรษฐกิจ ซึ่งจะต้องติดตามอย่างใกล้ชิด" นายเบญจรงค์กล่าวและว่า ทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยในปีหน้ายังมีแนวโน้มเป็นขาขึ้น โดยดอกเบี้ยนโยบายอาจถูกปรับขึ้น 1-2 ครั้ง ในช่วงไตรมาส 4.
นายเผดิมภพ สงเคราะห์ กรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการเงินทุนบุคคล บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หลังเกิดเหตุความรุนแรงในฝรั่งเศส จะส่งผลต่อตลาดหุ้นทั่วโลกปรับลดลง และอาจทำให้เศรษฐกิจยุโรปแย่ลงไปอีก จากเดิมกังวลว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย อาจทำให้การคาดการณ์ดังกล่าวเลื่อนออกไปอีก สำหรับการเปิดตลาดหลักทรัพย์ในวันจันทร์นี้ (16 พ.ย.) เมื่อตลาดหุ้นทั่วโลกปรับลดลง ในระยะสั้นจะทำให้ตลาดหุ้นไทยปรับลดลงตามไปด้วย แต่มองว่านักลงทุนต่างชาติได้เทขายหุ้นไทยออกไปในระยะหนึ่งแล้ว ขณะนี้มีสัดส่วนนักลงทุนต่างชาติเหลือร้อยละ 32 ของมูลค่าตลาดหุ้นไทยทั้งหมด นับว่าส่วนส่วนไม่สูงมากนัก
"คาดว่าไม่เป็นปัจจัยหลักส่งผลต่อตลาดหุ้นไทย และยังแนะนำให้นักลงทุนไทยกลับเข้าไปช้อนซื้อ เพื่อได้หุ้นดีราคาถูก เนื่องจากพื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังแข็งแกร่งและหุ้นขนาดใหญ่หลายตัวที่มีศักยภาพ มีนักลงทุนรอให้ราคาปรับลดลง จึงเป็นโอกาสเหมาะของหลายคนที่รอเข้าซื้อหุ้นจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ หากดัชนีหุ้นไทยแตะระดับ 1,350-1,370 จุด แนะนำให้เข้าลงทุน เนื่องจากเข้าใกล้ระดับค่า PE ที่ระดับ 12.5 เท่าของตลาดหุ้นไทย" นายเผดิมภพกล่าว
ด้านนายเบญจรงค์ สุวรรณคีรี ผู้อำนวยการศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ธนาคารทหารไทย (TMB) มองว่า ยังไม่สามารถประเมินผลกระทบระยะยาวได้ชัดเจน แต่ในระยะสั้นอาจจะกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนซึ่งต้องรอดูผลการตอบสนองของตลาดเงินและตลาดทุน รวมถึงอัตราแลกเปลี่ยนที่อาจเกิดความผันผวนระยะสั้น
ขณะที่ปัจจัยจากความเสี่ยงของปัญหาความขัดแย้ง และการเมืองระหว่างประเทศ เป็นปัจจัยที่นักลงทุนกังวลเพิ่มมากขึ้นในปีหน้า เนื่องจากเป็นสิ่งที่คาดเดาได้ยาก และจะส่งผลต่อความผันผวนของตลาด นอกเหนือจากประเด็นเศรษฐกิจ ซึ่งจะต้องติดตามอย่างใกล้ชิด" นายเบญจรงค์กล่าวและว่า ทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยในปีหน้ายังมีแนวโน้มเป็นขาขึ้น โดยดอกเบี้ยนโยบายอาจถูกปรับขึ้น 1-2 ครั้ง ในช่วงไตรมาส 4.
