วานนี้ (9 พ.ย.) หลวงปู่พุทธะอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม พร้อมคณะศิษยานุศิษย์กว่า 300 คน เดินทางมายื่นหนังสือต่อนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เพื่อขอให้ดำเนินการแก้ไขพ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 และข้อเสนอที่เกี่ยวข้องกับการร่างรัฐธรรมนูญ
หลวงปู่พุทธะอิสระ กล่าวว่าปัจจุบันกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับคณะสงฆ์ไม่เอื้อต่อพระธรรมวินัย เนื่องจากมีเรื่องราวที่มีความเสียหายต่อสังฆมณฑลอยู่จำนวนมาก แต่ไม่สามารถนำผู้ที่กระทำผิดมาลงโทษได้ ดังนั้นในวันนี้เมื่อมีการปฏิรูปประเทศชาติในทุกมิติแล้ว ก็ไม่ควรละเลยที่จะต้องปฏิรูปวงการพระสงฆ์ และกิจการพระพุทธศาสนา จำเป็นต้องปรับเปลี่ยน พ.ร.บ.คณะสงฆ์ให้มีความทันสมัย สามารถทำให้พระธรรมวินัยมีผลบังคับใช้เหมือนในสมัยพุทธกาล
นอกจากนี้ ได้ขอให้มีสมัชชาพลเมือง เพื่อประชาชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบการบริหารงานในระดับท้องถิ่น และมีสมัชชาศีลธรรม โดยมีที่มาจากตัวแทนศาสนิกชนในศาสนาต่างๆ เพื่อมาทำหน้าที่กำหนดมาตรฐานคุณธรรม และจริยธรรม ของนักการเมืองด้วย อีกทั้ง ถึงแม้ในรัฐธรรมนูญ จะกำหนดให้ศาสนาพุทธให้เป็นศาสนาประจำชาติก็ตาม แต่ถ้าหากคณะสงฆ์มีความอ่อนแอ การกำหนดไว้ดังกล่าว ก็คงจะไม่เกิดประโยชน์
ด้านนายมีชัย กล่าวภายหลังจากการรับหนังสือว่า ขอบคุณทางคณะหลวงปู่ที่มาแสดงความห่วงใย ซึ่งทางกรธ.ตระหนักว่า ศาสนาพุทธตกอยู่ในภาวะอันตรายมาก ทางกรธ.จะกำหนดให้เป็นหน้าที่ ที่รัฐจะต้องปกป้องพุทธศาสนาจากการบ่อนทำลายในรูปแบบต่างๆ และศึกษาว่า จะให้ฆราวาสเข้ามามีส่วนร่วมในการคุ้มครองป้องกันศาสนาพุทธ ให้คงอยู่ด้วยดีตลอดไป และจะนำเอาเอกสารของท่านพุทธะอิสระไปศึกษาในเรื่องที่เกี่ยวกับกฎหมายและในส่วนอื่นจะนำส่งต่อให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
จากนั้น หลวงปู่พุทธะอิสระได้ยื่นรายชื่อประชาชน 600,000 รายชื่อ ต่อนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ผ่านนายพงศ์กิตติ์ อรุณภักดีสกุล รองเลขาธิการวุฒิสภา เพื่อให้มีการดำเนินการจัดตั้งสมัชชาพลเมือง สมัชชาศีลธรรม และนำร่างแก้ไข พ.ร.บ.คณะสงฆ์มาให้ สนช. พิจารณาด้วย
หลวงปู่พุทธะอิสระ กล่าวว่าปัจจุบันกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับคณะสงฆ์ไม่เอื้อต่อพระธรรมวินัย เนื่องจากมีเรื่องราวที่มีความเสียหายต่อสังฆมณฑลอยู่จำนวนมาก แต่ไม่สามารถนำผู้ที่กระทำผิดมาลงโทษได้ ดังนั้นในวันนี้เมื่อมีการปฏิรูปประเทศชาติในทุกมิติแล้ว ก็ไม่ควรละเลยที่จะต้องปฏิรูปวงการพระสงฆ์ และกิจการพระพุทธศาสนา จำเป็นต้องปรับเปลี่ยน พ.ร.บ.คณะสงฆ์ให้มีความทันสมัย สามารถทำให้พระธรรมวินัยมีผลบังคับใช้เหมือนในสมัยพุทธกาล
นอกจากนี้ ได้ขอให้มีสมัชชาพลเมือง เพื่อประชาชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบการบริหารงานในระดับท้องถิ่น และมีสมัชชาศีลธรรม โดยมีที่มาจากตัวแทนศาสนิกชนในศาสนาต่างๆ เพื่อมาทำหน้าที่กำหนดมาตรฐานคุณธรรม และจริยธรรม ของนักการเมืองด้วย อีกทั้ง ถึงแม้ในรัฐธรรมนูญ จะกำหนดให้ศาสนาพุทธให้เป็นศาสนาประจำชาติก็ตาม แต่ถ้าหากคณะสงฆ์มีความอ่อนแอ การกำหนดไว้ดังกล่าว ก็คงจะไม่เกิดประโยชน์
ด้านนายมีชัย กล่าวภายหลังจากการรับหนังสือว่า ขอบคุณทางคณะหลวงปู่ที่มาแสดงความห่วงใย ซึ่งทางกรธ.ตระหนักว่า ศาสนาพุทธตกอยู่ในภาวะอันตรายมาก ทางกรธ.จะกำหนดให้เป็นหน้าที่ ที่รัฐจะต้องปกป้องพุทธศาสนาจากการบ่อนทำลายในรูปแบบต่างๆ และศึกษาว่า จะให้ฆราวาสเข้ามามีส่วนร่วมในการคุ้มครองป้องกันศาสนาพุทธ ให้คงอยู่ด้วยดีตลอดไป และจะนำเอาเอกสารของท่านพุทธะอิสระไปศึกษาในเรื่องที่เกี่ยวกับกฎหมายและในส่วนอื่นจะนำส่งต่อให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
จากนั้น หลวงปู่พุทธะอิสระได้ยื่นรายชื่อประชาชน 600,000 รายชื่อ ต่อนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ผ่านนายพงศ์กิตติ์ อรุณภักดีสกุล รองเลขาธิการวุฒิสภา เพื่อให้มีการดำเนินการจัดตั้งสมัชชาพลเมือง สมัชชาศีลธรรม และนำร่างแก้ไข พ.ร.บ.คณะสงฆ์มาให้ สนช. พิจารณาด้วย
