xs
xsm
sm
md
lg

“ประวิตร”ออกโรงป้องทหารปัดเอี่ยวม.112โปรดเกล้าฯ“ประวุฒิ”พ้นตำรวจ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ประยุทธ์” วอนสื่ออย่าคุ้ยปม ม.112 ติงถามจนเป็นเรื่อง ระบุไม่มีหลักฐานอย่ากล่าวหาผิด ด้าน “ประวิตร” ออกตัวปกป้องทหาร ยันไม่มีหมายจับเพิ่ม ตร.ไม่เคยรายงานมีทหารเกี่ยวข้อง ลั่นอย่าดึงกองทัพพัวพัน หากผิดเป็นเรื่องส่วนตัว เผย ตร.เตรียมฟ้องสื่อหลังปล่อยข่าว 50 ทหารโยงคดีหมิ่นฯ สะพัด ผบ.ทบ.อนุมัติ “พลตรี” ลาออกแล้ว ขณะทัพภาค 3 ยัน “พันเอก” ทิ้ง จม.ลาออกก่อนหลบหนี พร้อมประสานพม่า นำตัวกลับ ราชกิจจาฯลงพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ “ประวุฒิ” พ้นตำแหน่ง

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับผู้ทำความผิดตามกระบวนกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่มีกระแสข่าวว่ามีทหารระดับสูงเข้าไปเกี่ยวข้องว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้พูดไปแล้ว ทหารอะไรกี่นาย เขาพูดทำนองว่า พูดกันไปกันมา แต่ละคนมีลูกน้องกี่คน แต่มีหลักฐานว่ากระทำผิดหรือยัง ถ้ายังไม่มีคำฟ้องก็จบ เป็นเพียงคำพูดออกมา

“อย่าไปขุดคุ้ยอะไรมากมายมันเสียไปทุกเรื่อง ใครผิดก็ว่าไปตามผิด บอกไปแล้วว่าอะไรที่ยังไม่ชัดเจนอย่าพูดออกมา บางครั้งเป็นเพราะพวกท่านถามไง ถามละเอียดไปซะทุกเรื่อง ไอ้คนตอบบางทีก็เป็นแบบผมนี่แหละ ตอบไปเรื่อย บางทีมันไม่ใช่ เพราะฉะนั้นคำถามขอให้มันสร้างสรรค์หน่อย พอบอกว่า 40-50 คน ก็เอาละใครบ้างขอชื่อมา ลงโทษเมื่อไหร่ มันไม่ใช่นะ ถ้าจะถามเกี่ยวข้องไม่เกี่ยวข้อง คนมันรู้จักกันหมด ลูกน้องทุกคนก็มีหมด เอาหลักฐานมาสิ ถ้าไม่มีหลักฐาน ก็อย่าไปว่าเขาว่าเขาผิด เอาแค่คำถามของท่านก็จบแค่นั้น จบได้แล้ว มันไม่ดีเลย ไม่ดีต่อมาตรา 112 ด้วย เพราะมาตรา 112 มีไว้ถวายให้ท่าน ไม่ได้มีไว้ให้คนอื่น" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

“บิ๊กป้อม” กางปีกป้องทหาร

วันเดียวกัน ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และ รมว.กลาโหม กล่าวปฏิเสธกระแสข่าวที่ระบุว่า มีนายทหารยศ พล.ต.และ พ.อ.อาจมีส่วนพัวพันกับความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ว่า ตนยังไม่ได้รับรายงานใดๆทั้งสิ้น ตนเพิ่งเดินทางกลับจากประเทศมาเลเซียก็เห็นหนังสือพิมพ์ลงข่าวว่า มีนายทหารเข้าไปเกี่ยวข้องประมาณ 50 คนนั้น ตนถามว่ามีที่ไหน เพราะหากมีรายละเอียดอย่างไรทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดย พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.รอง ผบ.ตร.) ต้องรายงานมาที่ตน

ผู้สื่อข่าวถามว่าจำเป็นหรือไม่ว่าต้องรอออกหมายจับก่อนทางตำรวจจึงจะรายงานมาภายหลัง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่จำเป็น หากมีอะไรที่เกี่ยวข้องก็ต้องบอกตน อย่าไปตื่นเต้นกันมาก

เมื่อถามถึงกรณีที่มีการเผยแพร่ภาพ พ.อ.ที่ตกเป็นข่าวที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ในขณะที่กำลังเดินทางออกไปประเทศเพื่อนบ้าน พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เรื่องนี้ก็แล้วแต่บุคคล เขาอาจมีถารกิจที่จะต้องไป แต่เรื่องหมายจับยังไม่มี ส่วนที่มีชื่อถูกพาดพิงก็เป็นเรื่องส่วนตัวเขา และจะเป็นเรื่องอะไรก็ไม่ทราบ แต่ยังไม่มีเรื่องหมายจับ

เผย ตร.เตรียมฟ้องสื่อปูดข่าว

เมื่อถามต่อว่า หากมีหมายจับออกมาแล้วทางกระทรวงกลาโหม และเหล่าทัพ จะไม่ปกป้องใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ใครผิดก็ต้องว่าไปตามผิด หากทำผิดกฎหมายปกป้องไม่ได้ แต่ตอนนี้ยังไม่มีหมายจับสักคน ถ้าผิดก็ต้องว่าไปตามผิด เมื่อทำผิดกฎหมายจะอยู่ได้อย่างไร ทั้งนี้ยืนยันว่ากองทัพไม่รู้สึกหวั่นไหวกับเรื่องดังกล่าว คนที่ทำผิดตัวเขาก็จะรู้ตัวเอง ส่วนการดำเนินการต่างๆ ก็ว่ากันไปตามกระบวนการ เป็นเรื่องของบุคคล อย่านำกองทัพไปเกี่ยวข้องด้วย เพราะกองทัพไม่ได้ร่วมทำผิดด้วย ถือเป็นเรื่องบุคคลที่รู้จักกันเป็นส่วนตัว ทางเจ้าหน้าที่ก็ประสานงานกันไป

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า กระแสข่าวนายทหารจำนวน 50 นายเข้าไปเกี่ยวข้องการกระทำความผิดจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์กองทัพหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า คงไม่กระทบ เพราะไม่ใช่เรื่องจริง ตนยังสงสัยอยู่ว่าไปเอาข่าวมาจากไหน เพราะตนดูแลอยู่ก็ไม่เห็นมี อีกทั้ง ผบ.ตร.เองก็ไม่ได้รายงานมา เมื่อสอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงกรณีดังกล่าว ก็ได้รับคำยืนยันว่า ไม่ได้เป็นผู้ให้ข่าว และเขาจะเตรียมฟ้องร้องด้วย

“บิ๊กหมู” เซ็นต์ใบลาออก “พล.ต.” แล้ว

รายงานข่าวจากกองทัพบกแจ้งว่า ล่าสุด พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้ลงนามในหนังสือลาออกของนายทหารยศ พล.ต.ที่ถูกพาดพิงว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เรียบร้อยแล้ว พร้อมส่งเรื่องไปยังกระทรวงกลาโหม เพื่อให้ พล.อ.ประวิตร ในฐานะ รมว.กลาโหมลงนาม โดยเบื้องต้น พล.อ.ประวิตร ได้มอบหมายให้ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม ลงนามแทน ทั้งนี้ พล.อ.ปรีชา เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวเพียงว่า ตนยังไม่เห็นหนังสือลาออกที่ส่งมาจากกองทัพบกมา

มทภ.3 คอนเฟิร์ม “พ.อ.” ดอดข้ามแดนจริง

ขณะที่แหล่งข่าวจากกองทัพภาคที่ 3เปิดเผยว่า ภายหลังมีการเผยแพร่ภาพทหารยศ พ.อ.สังกัดกองทัพภาคที่ 3 ซึ่งอาจเกี่ยวพันในคดีกระทำผิดกฎหมายอาญา มาตรา 112 เดินทางข้ามแดนผ่านทางด่านแม่สอด - เมียววดี เมื่อวันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา พล.ท.สมศักดิ์ นิลบรรเจิดกุล แม่ทัพภาคที่ 3 ได้รายงานข้อเท็จจริงในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ให้ ผบ.ทบ.ได้รับทราบแล้วว่า พ.อ.คนดังกล่าวได้เดินทางออกไปทางด่านชายแดนไปจริงเมื่อวันที่ 31 ต.ค. และวันที่ 2 พ.ย. ซึ่งเป็นวันเปิดทำการของทางราชการก็ไม่มาทำงานต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน ซึ่ง พ.อ.คนดังกล่าวก็ไม่ได้ยื่นใบลาตามระเบียบราชการแต่อย่างใด โดยก่อนหน้านั้นเจ้าหน้าที่ของกองทัพภาคที่ 3 ได้พบจดหมายของ พ.อ.คนดังกล่าวแสดงความจำนงขอลาออกจากราชการทิ้งไว้ที่บ้านพักใน จ.พิษณุโลก แต่ตามระเบียบกองทัพถือว่าไม่มีผลใดๆ เนื่องจากไม่ได้ยื่นตามขั้นตอน สถานะของ พ.อ.คนดังกล่าวจึงถือเป็นทหารขาดราชการ เมื่อครบกำหนด 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ 2 พ.ย. หากยังไม่มารายงานตัวจะถือว่าหนีราชการ มีโทษปลดออกจากราชการตามระเบียบกองทัพ

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า พ.อ.ยุทธพงษ์ กลันทะกะสุวรรณ เสนาธิการกรมทหารรราบที่ 7 และรักษาการประธานคณะกรรมการชายแดนไทย-เมียนมาร์ ได้ทำหนังสือขอความร่วมมือจาก คณะกรรมการชายแดนไทย อ.ผาซอง จ.บอลาแคะ รัฐคะยา ประเทศเมียนมาร์ ให้ช่วยติดตามตัว พ.อ.คนดังกล่าวแล้ว

โปรดเกล้าฯ “บิ๊กตุ้ย” พ้นตำแหน่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจพ้นจากตำแหน่ง ใจความระบุว่า ด้วยสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีคำสั่งอนุญาตให้ พล.ต.อ.ประวุฒิ ถาวรศิริ ข้าราชการตำรวจ ตำแหน่ง ที่ปรึกษา (สบ 10) ลาออกจากราชการ ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค.58 และได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้พ้นจากตำแหน่งต่อไปแล้ว บัดนี้ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯให้บุคคลดังกล่าวพ้นจากตำแหน่ง ที่ปรึกษา (สบ 10) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค.58 ประกาศ ณ วันที่ 5 พ.ย.58

ไร้เงา “น้องสาวหยอง” เข้าพบ ตร.

ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) มีรายงานว่า พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ในฐานะรองหัวหน้าชุดสืบสวนสอบสวนคดีหมิ่นสถาบันฯ ได้เรียกชุดสืบสวนคลี่คลายคดีร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าและขยายผลคดีนี้ โดยชุดสืบสวนกองบังคับการปราบปรามได้นำแผ่นชาร์ตแสดงผังเครือข่ายของกลุ่มผู้ต้องหา รูปภาพของกลางในคดีประกอบด้วย

แหล่งข่าวภายใน บช.ก.เปิดเผยว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา นางจีราภา อริยวงศ์โสภณ น้องสาวของ นายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือหมอหยอง ผู้ต้องหาในคดีนี้ ได้นัดหมายเข้าพบชุดสืบสวนสอบสวนที่ บช.ก. แต่ปรากฎว่าตลอดทั้งวันไม่ปรากฎว่า นางจีราภาเข้าพบตำรวจแต่อย่างใด ทั้งนี้นางจีราภาจะมาชี้แจงกรณีที่มีข้อมูลการสืบสวนว่า เป็นผู้เบิกเงินจากบัญชีธนาคารของนายสุริยัน ซึ่งเป็นบัญชีที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด นำไปซื้อกองทุนสะสมรายวันธนาคารกรุงไทย ในชื่อนายสุริยัน และนำเงินอีกส่วนไปเข้าบัญชีธราคารไทยพานิชย์ของนายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ หรืออาท คนสนิทของนายสุริยัน ที่เป็นผู้ต้องหาในคดีเดียวกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น