พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์ยืนยันความขัดแย้ง “บิ๊กโด่ง-บิ๊กหมู” เคลียร์กันเรียบร้อยแล้ว แค่เข้าใจผิด ไม่มีแรงกระเพื่อมแน่ ส่วนเรือดำน้ำต้องเดินหน้าต่อเพราะจำเป็น รอกองทัพเรือทำความเข้าใจประชาชน อาจถึงขั้นทำโพล
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงข่าวความขัดแย้งระหว่าง พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และอดีต ผบ.ทบ.กับ พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผบ.ทบ. หลัง พล.อ.ธีรชัยสั่งระงับการปรับย้ายนายทหารกองทัพบกที่ พล.อ.อุดมเดชได้ลงนามก่อนเกษียณอายุราชการว่า ไม่มีอะไร ผบ.ทบ.คนเก่า และผบ.ทบ.คนใหม่คุยกันเรียบร้อยตั้งแต่วันที่ 5 ต.ค.แล้ว อาจจะมีการเข้าใจอะไรผิดกัน ไปเขียนจนเหมือนทะเลาะกัน แต่เขาไม่ได้ทะเลาะกัน ส่วนที่ พล.อ.ธีรชัยสั่งปรับภูมิทัศน์ที่กองบัญชาการกองทัพบกนั้นเป็นเรื่องของบุคคล ไม่เป็นอะไร เพราะอาจจะมองกันคนละแบบคนละด้าน ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ผู้สื่อข่าวถามว่า ในฐานะพี่ใหญ่ได้พูดคุยกับทั้งสองคนหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่มีอะไร ตนไม่ใช่พี่ใหญ่อะไร ตนเป็นผู้บัญชาเขาก็ต้องดูแลเขา ทั้งสองคนก็ไม่ได้คิดอะไรกัน ทั้งคู่ทำงานเพื่อกองทัพ
ผู้สื่อข่าวถามว่าท่านได้ให้ข้อคิดอะไรไปบ้าง พล.อ.ประวิตรตอบว่า ไม่ต้อง เขาเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว เป็นถึง ผบ.ทบ.จะไปให้ข้อคิดอะไรเขา ไม่ได้มีอะไรเลย เมื่อถามว่าเกรงว่าจะเกิดเรื่องกระเพื่อมหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่มีกระเพื่อมร้อยเปอร์เซ็นต์ เรื่องนี้ไม่มีอะไร จบไปแล้ว สบายใจได้
ด้าน พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และอดีต ผบ.ทบ.กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติ ไม่มีอะไร รอฟังผู้ใหญ่ก็แล้วกัน
พล.อ.ประวิตรยังกล่าวถึงความคืบหน้าโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้ส่งมาที่กระทรวงกลาโหม กองทัพเรือกำลังไปดูเรื่องของการใช้เงิน เพราะเกี่ยวกับการใช้งบประมาณ เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องไปดูว่าควรจะจัดสรรกันอย่างไรระหว่างรัฐบาลและกองทัพ เพื่อให้เกิดความเหมาะสมในการจ่ายเงิน เมื่อถามว่าเป็นการให้ไปทบทวนการใช้งบประมาณอย่างเดียว ไม่ได้เป็นการชะลอโครงการใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า ไม่มีการชะลอ ผบ.ทร.ก็ต้องไปสร้างการรับรู้ต่อประชาชน เพื่อให้ประชาชนเห็นว่ามีความจำเป็นเกี่ยวกับเรื่องการดูแลโดยเฉพาะอย่างยิ่งทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลที่เรามีพื้นที่ทางทะเลเยอะ
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการกำหนดหรือไม่จะต้องสร้างการรับรู้ไปถึงเมื่อไหร่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า จนกว่าจะมีความเข้าใจ เขาอาจจะต้องไปทำโพลก็เป็นเรื่องของเขา เมื่อถามว่าในจุดยืนของรัฐบาลให้มีเรือดำน้ำใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า กองทัพเรือเห็นว่าน่าจะมี ในฐานะกระทรวงกลาโหมก็เห็นชอบว่ามันต้องมีเพราะประเทศเพื่อนบ้านมีหมด มีพื้นที่ทางทะเลที่เขาดูแลอยู่ เราก็ต้องเหมือนกับเขาที่ต้องดูแล
ส่วนจะซื้อเรือดำน้ำจากจีน ตามที่คณะกรรมการพิจารณาโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำได้เลือกไว้หรือไม่นั้น พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า แล้วแต่ทางกองทัพเรือ ประชุมร่วมกับคณะกรรมการที่ตั้งขึ้น ส่วนประธานคณะกรรมการยังเป็น พล.ร.อ.ณรงค์พล ณ บางช้าง ผู้ช่วย ผบ.ทร.หรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ แล้วแต่ทางกองทัพเรือ ตนไม่ก้าวก่าย เมื่อถามว่า หากยื้ออย่างนี้ไปเรื่อยๆ จะช้าไปหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่ช้า เดี๋ยวต้องดูความเหมาะสม สื่อต้องช่วยเขียนว่าถึงเวลาแล้วที่กองทัพเรือต้องมีเรือดำน้ำ ประชาชนจะได้รับรู้เร็วขึ้น
