"แม้ว" ใส่เสื้อแดง โพสต์อินสตาแกรม บอกอยากเห็นความเป็นธรรมและประชาธิปไตยกลับสู่ประเทศ "โอ๊ค" ใส่เสื้อขาว พร้อมระบุข้อความ "เสื้อตัวนี้สีแดง" ด้าน "สุริยะใส" แนะถ้ารักน้องสาวจริง ต้องเร่งหาพยานหลักฐาน และทนายเก่งๆ มาสู้คดี ไม่ใช่ปลุกแดงหวังกดดันกระบวนการยุติธรรม “พล.ต.สรรเสริญ” เตือนอย่าทำลายบรรยากาศปรองดอง ส่วนในต่างจังหวัดมุกใส่เสื้อแดงแป้ก แกนนำหัวหด
วานนี้ (1 พ.ย.) นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์อินสตาแกรม @thaksinlive เป็นภาพของตัวเอง ใส่เสื้อสีแดง พร้อมข้อความว่า
วันนี้วันอาทิตย์ใส่เสื้อแดง เป็นกำลังใจแด่ผู้รักประชาธิปไตย และผู้แสวงหาความเป็นธรรมทุกคน แต่เสื้อแดงผมตอนนี้มีเหลืองตรงหัวใจเพราะอยากเห็นความปรองดองในประเทศที่ผมรักและห่วงใย คนใส่เสื้อแดงวันนี้มีเหตุผลดังนี้
1.เพราะเป็นเทรนด์ของแฟชั่น 2. เพราะเป็นวันอาทิตย์ ซึ่งสัญลักษณ์คือสีแดง 3. เพราะที่บ้านมีเสื้อผ้าสีแดงหลายตัวก็หยิบมาใส่พอดี 4. เป็นพวกที่คิดเหมือนผมคือ เป็นคนเสื้อแดงเป็นคนอยากเห็นความเป็นธรรมและประชาธิปไตยกลับสู่ประเทศ
ความจริงแล้วใครอยากชนะใจคนเสื้อแดงนี่ง่ายมากเลย ไม่ต้องใช้ปืน ไม่ต้องใช้กฎหมายเลย เพียงใช้หัวใจที่เป็นธรรมอย่างมีเมตตาธรรมเท่านั้นก็ชนะใจคนเสื้อแดงแล้ว ประหยัดงบประมาณและเวลามาก
ขณะที่นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ได้โพสต์อินสตาแกรม @oak_ptt เป็นภาพตัวเองใส่เสื้อขาว แต่มีข้อความด้านหลังว่า“เสื้อตัวนี้สีแดง”โดยนายพานทองแท้ได้โพสต์ข่อความด้วยว่า
ให้กำลังใจ แบบไม่ใส่สีแดง (วันนึง) นะครับอาปู # เชื่อฟัง99.99%
ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามี อดีตรัฐมนตรี อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย และญาติสนิทนายทักษิณใส่เสื้อแดงแต่ส่วนใหญ่ทำกิจกรรมภายในบ้านและโพสต์ในโซเชี่ยลมีเดีย เช่น นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกฯ และ รมว.คลัง นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน นายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ น.ส.ชยิกาวงศ์ นภาจันทร์ หลานสาว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
ส่วน น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้โพสต์ภาพถ่ายผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว ซึ่งเป็นภาพถ่ายคู่กับ ด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร บุตรชาย โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้สวมเสื้อสีเทา กางเกงสีเลือดหมู พร้อมกับระบุข้อความสั้นๆว่า "วันนี้มาส่งน้องไปป์เรียนฟุตบอลตอนเช้า ต่อด้วยไอซ์สเก็ตช่วงบ่ายค่ะ".
**"แม้ว"ปลุกแดงทำลายแผนปฏิรูป
นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีฯ วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ม.รังสิต และผู้อำนวยการสถาบันปฏิรูปประเทศไทย (สปท.) กล่าวว่า การปลุกกระแสเสื้อแดงของนายทักษิณ ชินวัตร และเครือข่าย ด้วยการนัดใส่เสื้อแดงนั้นเป็นความพยายามที่จะดึงการเมืองไทยให้จมอยู่กับความแตกแยก ขัดแย้ง ไม่รู้จบ ทั้งๆ ที่บ้านเมืองกำลังอยู่ในโหมดของการปฏิรูปที่ทุกฝ่ายควรเสนอแนะ และให้ความเห็นว่าเราจะปฏิรูปอะไร อย่างไร ที่ประชาชนจะได้ประโยชน์จริงๆ ซึ่งนายทักษิณ เคยเป็นถึงอดีตนายกฯ มีประสบการณ์สูงทั้งในทางการเมืองและเศรษฐกิจ ถ้าจะเอาประสบการณ์มาเสนอแนะประเด็นปฏิรูป ก็น่าจะเป็นประโยชน์มากกว่าการตั้งแง่ ขยันขุดกับดักสังคมไปเรื่อยๆ และทำลายบรรยากาศปฏิรูป
ส่วนการชูเรื่องปรองดองของนายทักษิณทุกครั้งก็จะทำให้สังคมนึกถึงการเหมาเข่ง หรือนิรโทษกรรมแบบสุดซอย ซึ่งเกือบทำให้สังคมเข้าสู่สงครามการเมืองมาแล้ว จนกลายเป็นภาพหลอนของการเมืองไทยทุกครั้งที่นายทักษิณ พูดเรื่องปรองดอง ซึ่งแทบเป็นไม่ได้เลย
ส่วนเรื่องจำนำข้าว การใส่เสื้อแดง ไม่เห็นว่าจะช่วย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในทางคดีได้เลย เพราะทั้งหมดขึ้นอยู่กับหลักฐาน และข้อเท็จจริง ถ้านายทักษิณจำได้ ในยุคกระแสแดงเฟื่องฟู ก็ยังไม่สามารถช่วยพ้นจากคดีทุจริตที่ดินรัชดา และคดียึดทรัพย์ได้ แม้ผู้สนับสนุนจะมีสิทธิให้กำลังใจ แต่ต้องไม่ทำให้คนเข้าใจว่าเป็นการสร้างกระแสกดดัน และข่มขู่กระบวนการยุติธรรม
ถ้านายทักษิณอยากช่วยน.ส.ยิ่งลักษณ์จริง สิ่งที่ควรทำเร่งด่วนที่สุดคือหาพยานหลักฐานที่มีน้ำหนัก และทบทวนบทบาทความรู้ความสามารถของทีมทนาย ว่าเอาอยู่จริงหรือไม่ และคดีจำนำข้าว เมื่อเข้าสู้ศาลแล้วประชาชนก็อยากเห็นการสู้กันด้วยพยานหลักฐานของแต่ละฝ่ายมากกว่าจะมาเล่นกันนอกศาล
**เตือนอย่าทำลายบรรยากาศปรองดอง
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยกรณี ในช่วงตลอดระยะเวลาสัปดาห์ที่ผ่านมา มีกลุ่มคนรวมตัวกันจัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ 2-3 กิจกรรม โดยทุกกิจกรรม มีความพยายามชูป้าย เขียนข้อความ เรียกร้องขอประชาธิปไตยที่แท้จริง อย่ารังแกผู้หญิง แม้กระทั่งการโพสต์ ข้อความในทำนองให้กำลังใจแด่ผู้รักประชาธิปไตย และผู้แสวงหาความเป็นธรรมว่า
"การดำเนินคดีในฐานความผิดต่างๆ เป็นไปตามหลักฐาน ซึ่งทุกคนมีสิทธิ์แสดงข้อมูลเพื่อพิสูจณ์ความบริสุทธิ์ของตนเอง โดยไม่ควรเบี่ยงประเด็นว่า เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับสูง ที่มาจากการเลือกตั้งหรือเป็นสตรี แล้วจะไม่กระทำผิด เพราะเป็นคนละประเด็นกัน พยานหลักฐานจะเป็นเครื่องพิสูจณ์ความจริงให้ปรากฏ รัฐบาลมั่นใจว่า ประชาชนส่วนใหญ่มีความเข้าใจต่อสถานการณ์ และสามารถแยกแยะได้ว่า อะไรคือข้อเท็จจริง อะไรคือข้อมูลที่สร้างขึ้น ให้เกิดความไขว่เขวเพื่อหวังความชอบธรรมเทียม"
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า หลายปีที่ผ่านมา บ้านเมืองวุ่นวาย ราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ แต่กลับไม่ได้แก้ที่ต้นเหตุของปัญหา การพัฒนาด้านต่างๆ ก้าวไปอย่างเชื่องช้า ทำให้ประเทศไทยเสียโอกาสไปมากแล้ว ถึงเวลาที่จะต้องหยุดสร้างความแตกแยกแบ่งฝักฝ่าย หันมาร่วมมือกัน รัฐบาล และคสช. เข้ามาช่วยให้บ้านเมืองสงบ มีความมั่นคง เพื่อให้ประเทศก้าวเดินต่อไปได้
"ท่านนายกฯ กล่าวเสมอว่า เราไม่มีเวลาให้เสียอีกแล้ว อยากเรียกร้องให้ทุกฝ่ายร่วมมือกัน กลุ่มการเมืองควรหยุดเคลื่อนไหวที่ไม่เป็นผลดีต่อประเทศ แล้วหันมาร่วมกันเสนอแนวคิดที่เป็นประโยชน์ต่อการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ สังคม ความมั่นคง สนับสนุนการร่างรัฐธรรมนูญอย่างสร้างสรรค์ ตามช่องทางที่แม่น้ำทั้ง 5 สาย ( คสช. ครม. สนช. กรธ. สปท. )ได้เปิดไว้ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาเก่าๆ และ ความขัดแย้งเดิมๆวนเวียนกลับมาอีก โดยรัฐบาล พร้อมรับฟังทุกความเห็นจากทุกเครือข่าย ทุกองค์กร เพราะรัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลของประชาชนคนไทยทุกคน มิใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง" โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
**ชุมนุมโดยไม่ได้รับอนุญาตต้องดำเนินคดี
พล.ต.ต.ทรงพล วันธนะชัย รรท.ผบก.น.6 ในฐานะรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เปิดเผยถึงกรณีมีกลุ่มชุมนุมนัดรวมตัวกันสวมเสื้อสีแดง ในวันที่1 พ.ย. ว่า ทาง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้วิทยุสั่งการไปเมื่อวันที่ 23 ต.ค.ที่ผ่านมาแล้ว โดยมีการกำชับให้เจ้าหน้าที่ทั่วประเทศ เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง โดยให้แต่ละสถานีตำรวจกำหนดมาตราการรักษาความปลอดภัยและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบ หากมีประชาชนสวมเสื้อเเดงมา แต่ไม่ได้มาร่วมชุมนุม หรือไม่มีเจตนาถือว่าไม่เป็นปัญหาอะไร แต่ขออย่าให้รวมตัวชุมนุมเด็จขาด หรือหากชุมนุม ก็จะต้องมีการขออนุญาต เพราะหากไม่ได้ขออนุญาต ก็ต้องว่าตาม พ.ร.บ. การชุมนุมในที่สาธารณะ 2558 ที่ให้ประชาชนถือปฏิบัติ
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้รับแจ้งว่า มีการชุมนุม หรือแสดงความเคลื่อไหวทางการเมืองแต่อย่างใด
**ใส่แดงให้กำลังให้กำลังใจ"ปู"แป้ก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีที่มีการโพสต์ข้อความเชิญชวนให้สวมเสื้อสีแดง ในวันอาทิตย์ที่ 1 พ.ย. เพื่อเป็นสัญลักษณ์ในการให้กำลังใจ น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ประเด็นเรื่องการจำนำข้าวนั้น ปรากฏว่าไม่ได้รับการตอบรับจากสาวกแดง อย่างที่มีการคาดหมายกัน โดยเฉพาะในต่างจังหวัด อย่างเช่นที่ จ.ขอนแก่น บรรยากาศในสถานที่สำคัญ เช่น ศาลากลางจังหวัด หน้าศาลจังหวัด อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ศาลหลักเมือง ประชาชนยังคงใช้ชีวิตตามปกติ ไม่มีการแสดงพลัง ด้วยการใส่เสื้อแดง เพื่อให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ แต่อย่างใด
พ.ต.อ.สุภากร คำสิงห์นอก รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร จังหวัดขอนแก่น ในฐานะโฆษกตำรวจภูธรภาค 4 กล่าวว่า หลังจากมีคำสั่ง ผบ.ตร. ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ได้สั่งการให้ทุกจังหวัดติดตามสถานการณ์ความเคลื่อนไหว รวมถึงเกาะติดมวลชน ที่อาจจะมีความเคลื่อนไหว แต่ก็ไม่ปรากฏข่าวสาร หรือกลุ่มบุคคล ว่าจะมีการเคลื่อนไหวตามกระแส และจากการพูดคุยกับกลุ่มแกนนำกลุ่มทางการเมือง ก็บอกว่าจะไม่ออกมาเคลื่อนไหว เพราะไม่ต้องการให้เกิดเป็นประเด็นความขัดแย้งให้เกิดขึ้นในสังคม
พ.อ.จตุรพงศ์ บกบน รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ล่าสุดสถานการณ์ในทุกพื้นที่ยังคงปกติ แต่ยังคงกำชับให้ทุกอำเภอ โดยเฉพาะอำเภอใหญ่ เช่น อ.บ้านไผ่ ชุมแพ และน้ำพอง ให้เจ้าหน้าที่ช่วยกันสอดส่องการเคลื่อนไหว โดยเฉพาะกลุ่มมือที่ 3 ที่อาจจะเข้ามาสร้างสถานการณ์ ให้เกิดความวุ่นวายได้
** นปช.โคราช สั่งสมาชิกงดเคลื่อนไหว
ส่วนที่ จ.นครราชสีมา ก็ไม่มีกลุ่มใดออกมาเคลื่อนไหวตามจุดต่างๆที่เป็นจุดสำคัญที่เคยใช้เป็นพื้นที่เคลื่อนไหวทางการเมือง เช่นที่บริเวณข้างอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ที่กลุ่มคนเสื้อแดงโคราช เคยใช้เป็นสถานที่รวมตัว ชุมนุมเคลื่อนไหวทางการเมืองเป็นประจำ มีเพียงนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดจำนวนมาก เข้ามากราบสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีเท่านั้น โดยไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเฝ้าสังเกตการณ์แต่อย่างใด
นายอนุวัฒน์ ทินราช อดีตประธาน นปช.โคราช เปิดเผยว่า สมาชิก นปช. และกลุ่มคนเสื้อแดงโคราช จะไม่นัดกันใส่เสื้อแดงออกมาเคลื่อนไหว ให้เป็นเป้าหมายของฝ่ายตรงข้ามเด็ดขาด โดยตนได้แจ้งไปยังประธานกลุ่ม นปช.ทั้ง 32 อำเภอ ให้งดการเคลื่อนไหวใดๆ ทั้งสิ้น และแนะนำว่า หากทุกคนเป็นห่วงใย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็ขอให้อยู่เป็นกำลังใจที่บ้านแทน ส่วนใครจะใส่เสื้อสีแดง หรือสีอะไรก็ตาม อยู่ในบ้าน ตนก็ไม่สามารถไปสั่งการได้ เพราะเป็นสิทธิส่วนบุคคล ซึ่งตนและสมาชิก นปช. รวมทั้งมวลชนคนเสื้อแดงโคราช พร้อมเคารพอำนาจศาลทุกประการ และจะให้โอกาสรัฐบาลทำงานอย่างเต็มที่
**นปช.พะเยาโบ้ยแต่งแดงเรื่องส่วนบุคคล
นายศิริวัฒน์ จุปะมัดถา ผู้ประสานงาน นปช.พะเยา เปิดเผยกรณีกระแสข่าวการระดมคนเสื้อแดงพะเยา ให้แต่งเสื้อแดงเพื่อเป็นการให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จนเป็นเหตุให้มีการเข้าใจที่คลาดเคลื่อนกับนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานนปช. ว่า ความจริงคือ ตนแค่โพสต์ในเฟซบุ๊กว่า ตนจะใส่เสื้อแดง ในวันอาทิตย์ที่ 1 พ.ย.นี้ เพื่อให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เท่านั้น ไม่ได้มีการเชิญชวน แต่ที่เป็นข่าวเพราะมีนักข่าวเข้ามาอ่าน และนำมาเขียนจนเกิดการเข้าใจผิดว่า ตนเองจะระดมคนเสื้อแดงในวันอาทิตย์ที่ 1 พ.ย.
อย่างไรก็ตาม ตนจะไม่ชักชวนใครใส่เสื้อแดงในวันที่ 1 พ.ย. ใครอยากใส่ก็ใส่ ไม่มีการระดมกันใส่ตามข่าว แต่ถ้าจะมีคนใส่เสื้อแดงในวันนี้จำนวนมาก ก็เป็นเรื่องส่วนบุคคล ตนจะไปห้ามใครไม่ได้ สำหรับตนใส่เสื้อแดงแน่นอน เพราะปกติตนก็ใส่เสื้อแดงทุกวัน ยิ่งวันนี้เป็นอาทิตย์ ตนต้องใส่ เพราะสีแดงเป็นสีของวันอาทิตย์.
วานนี้ (1 พ.ย.) นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์อินสตาแกรม @thaksinlive เป็นภาพของตัวเอง ใส่เสื้อสีแดง พร้อมข้อความว่า
วันนี้วันอาทิตย์ใส่เสื้อแดง เป็นกำลังใจแด่ผู้รักประชาธิปไตย และผู้แสวงหาความเป็นธรรมทุกคน แต่เสื้อแดงผมตอนนี้มีเหลืองตรงหัวใจเพราะอยากเห็นความปรองดองในประเทศที่ผมรักและห่วงใย คนใส่เสื้อแดงวันนี้มีเหตุผลดังนี้
1.เพราะเป็นเทรนด์ของแฟชั่น 2. เพราะเป็นวันอาทิตย์ ซึ่งสัญลักษณ์คือสีแดง 3. เพราะที่บ้านมีเสื้อผ้าสีแดงหลายตัวก็หยิบมาใส่พอดี 4. เป็นพวกที่คิดเหมือนผมคือ เป็นคนเสื้อแดงเป็นคนอยากเห็นความเป็นธรรมและประชาธิปไตยกลับสู่ประเทศ
ความจริงแล้วใครอยากชนะใจคนเสื้อแดงนี่ง่ายมากเลย ไม่ต้องใช้ปืน ไม่ต้องใช้กฎหมายเลย เพียงใช้หัวใจที่เป็นธรรมอย่างมีเมตตาธรรมเท่านั้นก็ชนะใจคนเสื้อแดงแล้ว ประหยัดงบประมาณและเวลามาก
ขณะที่นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ได้โพสต์อินสตาแกรม @oak_ptt เป็นภาพตัวเองใส่เสื้อขาว แต่มีข้อความด้านหลังว่า“เสื้อตัวนี้สีแดง”โดยนายพานทองแท้ได้โพสต์ข่อความด้วยว่า
ให้กำลังใจ แบบไม่ใส่สีแดง (วันนึง) นะครับอาปู # เชื่อฟัง99.99%
ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามี อดีตรัฐมนตรี อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย และญาติสนิทนายทักษิณใส่เสื้อแดงแต่ส่วนใหญ่ทำกิจกรรมภายในบ้านและโพสต์ในโซเชี่ยลมีเดีย เช่น นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกฯ และ รมว.คลัง นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน นายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ น.ส.ชยิกาวงศ์ นภาจันทร์ หลานสาว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
ส่วน น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้โพสต์ภาพถ่ายผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว ซึ่งเป็นภาพถ่ายคู่กับ ด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร บุตรชาย โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้สวมเสื้อสีเทา กางเกงสีเลือดหมู พร้อมกับระบุข้อความสั้นๆว่า "วันนี้มาส่งน้องไปป์เรียนฟุตบอลตอนเช้า ต่อด้วยไอซ์สเก็ตช่วงบ่ายค่ะ".
**"แม้ว"ปลุกแดงทำลายแผนปฏิรูป
นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีฯ วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ม.รังสิต และผู้อำนวยการสถาบันปฏิรูปประเทศไทย (สปท.) กล่าวว่า การปลุกกระแสเสื้อแดงของนายทักษิณ ชินวัตร และเครือข่าย ด้วยการนัดใส่เสื้อแดงนั้นเป็นความพยายามที่จะดึงการเมืองไทยให้จมอยู่กับความแตกแยก ขัดแย้ง ไม่รู้จบ ทั้งๆ ที่บ้านเมืองกำลังอยู่ในโหมดของการปฏิรูปที่ทุกฝ่ายควรเสนอแนะ และให้ความเห็นว่าเราจะปฏิรูปอะไร อย่างไร ที่ประชาชนจะได้ประโยชน์จริงๆ ซึ่งนายทักษิณ เคยเป็นถึงอดีตนายกฯ มีประสบการณ์สูงทั้งในทางการเมืองและเศรษฐกิจ ถ้าจะเอาประสบการณ์มาเสนอแนะประเด็นปฏิรูป ก็น่าจะเป็นประโยชน์มากกว่าการตั้งแง่ ขยันขุดกับดักสังคมไปเรื่อยๆ และทำลายบรรยากาศปฏิรูป
ส่วนการชูเรื่องปรองดองของนายทักษิณทุกครั้งก็จะทำให้สังคมนึกถึงการเหมาเข่ง หรือนิรโทษกรรมแบบสุดซอย ซึ่งเกือบทำให้สังคมเข้าสู่สงครามการเมืองมาแล้ว จนกลายเป็นภาพหลอนของการเมืองไทยทุกครั้งที่นายทักษิณ พูดเรื่องปรองดอง ซึ่งแทบเป็นไม่ได้เลย
ส่วนเรื่องจำนำข้าว การใส่เสื้อแดง ไม่เห็นว่าจะช่วย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในทางคดีได้เลย เพราะทั้งหมดขึ้นอยู่กับหลักฐาน และข้อเท็จจริง ถ้านายทักษิณจำได้ ในยุคกระแสแดงเฟื่องฟู ก็ยังไม่สามารถช่วยพ้นจากคดีทุจริตที่ดินรัชดา และคดียึดทรัพย์ได้ แม้ผู้สนับสนุนจะมีสิทธิให้กำลังใจ แต่ต้องไม่ทำให้คนเข้าใจว่าเป็นการสร้างกระแสกดดัน และข่มขู่กระบวนการยุติธรรม
ถ้านายทักษิณอยากช่วยน.ส.ยิ่งลักษณ์จริง สิ่งที่ควรทำเร่งด่วนที่สุดคือหาพยานหลักฐานที่มีน้ำหนัก และทบทวนบทบาทความรู้ความสามารถของทีมทนาย ว่าเอาอยู่จริงหรือไม่ และคดีจำนำข้าว เมื่อเข้าสู้ศาลแล้วประชาชนก็อยากเห็นการสู้กันด้วยพยานหลักฐานของแต่ละฝ่ายมากกว่าจะมาเล่นกันนอกศาล
**เตือนอย่าทำลายบรรยากาศปรองดอง
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยกรณี ในช่วงตลอดระยะเวลาสัปดาห์ที่ผ่านมา มีกลุ่มคนรวมตัวกันจัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ 2-3 กิจกรรม โดยทุกกิจกรรม มีความพยายามชูป้าย เขียนข้อความ เรียกร้องขอประชาธิปไตยที่แท้จริง อย่ารังแกผู้หญิง แม้กระทั่งการโพสต์ ข้อความในทำนองให้กำลังใจแด่ผู้รักประชาธิปไตย และผู้แสวงหาความเป็นธรรมว่า
"การดำเนินคดีในฐานความผิดต่างๆ เป็นไปตามหลักฐาน ซึ่งทุกคนมีสิทธิ์แสดงข้อมูลเพื่อพิสูจณ์ความบริสุทธิ์ของตนเอง โดยไม่ควรเบี่ยงประเด็นว่า เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับสูง ที่มาจากการเลือกตั้งหรือเป็นสตรี แล้วจะไม่กระทำผิด เพราะเป็นคนละประเด็นกัน พยานหลักฐานจะเป็นเครื่องพิสูจณ์ความจริงให้ปรากฏ รัฐบาลมั่นใจว่า ประชาชนส่วนใหญ่มีความเข้าใจต่อสถานการณ์ และสามารถแยกแยะได้ว่า อะไรคือข้อเท็จจริง อะไรคือข้อมูลที่สร้างขึ้น ให้เกิดความไขว่เขวเพื่อหวังความชอบธรรมเทียม"
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า หลายปีที่ผ่านมา บ้านเมืองวุ่นวาย ราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ แต่กลับไม่ได้แก้ที่ต้นเหตุของปัญหา การพัฒนาด้านต่างๆ ก้าวไปอย่างเชื่องช้า ทำให้ประเทศไทยเสียโอกาสไปมากแล้ว ถึงเวลาที่จะต้องหยุดสร้างความแตกแยกแบ่งฝักฝ่าย หันมาร่วมมือกัน รัฐบาล และคสช. เข้ามาช่วยให้บ้านเมืองสงบ มีความมั่นคง เพื่อให้ประเทศก้าวเดินต่อไปได้
"ท่านนายกฯ กล่าวเสมอว่า เราไม่มีเวลาให้เสียอีกแล้ว อยากเรียกร้องให้ทุกฝ่ายร่วมมือกัน กลุ่มการเมืองควรหยุดเคลื่อนไหวที่ไม่เป็นผลดีต่อประเทศ แล้วหันมาร่วมกันเสนอแนวคิดที่เป็นประโยชน์ต่อการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ สังคม ความมั่นคง สนับสนุนการร่างรัฐธรรมนูญอย่างสร้างสรรค์ ตามช่องทางที่แม่น้ำทั้ง 5 สาย ( คสช. ครม. สนช. กรธ. สปท. )ได้เปิดไว้ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาเก่าๆ และ ความขัดแย้งเดิมๆวนเวียนกลับมาอีก โดยรัฐบาล พร้อมรับฟังทุกความเห็นจากทุกเครือข่าย ทุกองค์กร เพราะรัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลของประชาชนคนไทยทุกคน มิใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง" โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
**ชุมนุมโดยไม่ได้รับอนุญาตต้องดำเนินคดี
พล.ต.ต.ทรงพล วันธนะชัย รรท.ผบก.น.6 ในฐานะรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เปิดเผยถึงกรณีมีกลุ่มชุมนุมนัดรวมตัวกันสวมเสื้อสีแดง ในวันที่1 พ.ย. ว่า ทาง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้วิทยุสั่งการไปเมื่อวันที่ 23 ต.ค.ที่ผ่านมาแล้ว โดยมีการกำชับให้เจ้าหน้าที่ทั่วประเทศ เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง โดยให้แต่ละสถานีตำรวจกำหนดมาตราการรักษาความปลอดภัยและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบ หากมีประชาชนสวมเสื้อเเดงมา แต่ไม่ได้มาร่วมชุมนุม หรือไม่มีเจตนาถือว่าไม่เป็นปัญหาอะไร แต่ขออย่าให้รวมตัวชุมนุมเด็จขาด หรือหากชุมนุม ก็จะต้องมีการขออนุญาต เพราะหากไม่ได้ขออนุญาต ก็ต้องว่าตาม พ.ร.บ. การชุมนุมในที่สาธารณะ 2558 ที่ให้ประชาชนถือปฏิบัติ
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้รับแจ้งว่า มีการชุมนุม หรือแสดงความเคลื่อไหวทางการเมืองแต่อย่างใด
**ใส่แดงให้กำลังให้กำลังใจ"ปู"แป้ก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีที่มีการโพสต์ข้อความเชิญชวนให้สวมเสื้อสีแดง ในวันอาทิตย์ที่ 1 พ.ย. เพื่อเป็นสัญลักษณ์ในการให้กำลังใจ น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ประเด็นเรื่องการจำนำข้าวนั้น ปรากฏว่าไม่ได้รับการตอบรับจากสาวกแดง อย่างที่มีการคาดหมายกัน โดยเฉพาะในต่างจังหวัด อย่างเช่นที่ จ.ขอนแก่น บรรยากาศในสถานที่สำคัญ เช่น ศาลากลางจังหวัด หน้าศาลจังหวัด อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ศาลหลักเมือง ประชาชนยังคงใช้ชีวิตตามปกติ ไม่มีการแสดงพลัง ด้วยการใส่เสื้อแดง เพื่อให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ แต่อย่างใด
พ.ต.อ.สุภากร คำสิงห์นอก รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร จังหวัดขอนแก่น ในฐานะโฆษกตำรวจภูธรภาค 4 กล่าวว่า หลังจากมีคำสั่ง ผบ.ตร. ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ได้สั่งการให้ทุกจังหวัดติดตามสถานการณ์ความเคลื่อนไหว รวมถึงเกาะติดมวลชน ที่อาจจะมีความเคลื่อนไหว แต่ก็ไม่ปรากฏข่าวสาร หรือกลุ่มบุคคล ว่าจะมีการเคลื่อนไหวตามกระแส และจากการพูดคุยกับกลุ่มแกนนำกลุ่มทางการเมือง ก็บอกว่าจะไม่ออกมาเคลื่อนไหว เพราะไม่ต้องการให้เกิดเป็นประเด็นความขัดแย้งให้เกิดขึ้นในสังคม
พ.อ.จตุรพงศ์ บกบน รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ล่าสุดสถานการณ์ในทุกพื้นที่ยังคงปกติ แต่ยังคงกำชับให้ทุกอำเภอ โดยเฉพาะอำเภอใหญ่ เช่น อ.บ้านไผ่ ชุมแพ และน้ำพอง ให้เจ้าหน้าที่ช่วยกันสอดส่องการเคลื่อนไหว โดยเฉพาะกลุ่มมือที่ 3 ที่อาจจะเข้ามาสร้างสถานการณ์ ให้เกิดความวุ่นวายได้
** นปช.โคราช สั่งสมาชิกงดเคลื่อนไหว
ส่วนที่ จ.นครราชสีมา ก็ไม่มีกลุ่มใดออกมาเคลื่อนไหวตามจุดต่างๆที่เป็นจุดสำคัญที่เคยใช้เป็นพื้นที่เคลื่อนไหวทางการเมือง เช่นที่บริเวณข้างอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ที่กลุ่มคนเสื้อแดงโคราช เคยใช้เป็นสถานที่รวมตัว ชุมนุมเคลื่อนไหวทางการเมืองเป็นประจำ มีเพียงนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดจำนวนมาก เข้ามากราบสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีเท่านั้น โดยไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเฝ้าสังเกตการณ์แต่อย่างใด
นายอนุวัฒน์ ทินราช อดีตประธาน นปช.โคราช เปิดเผยว่า สมาชิก นปช. และกลุ่มคนเสื้อแดงโคราช จะไม่นัดกันใส่เสื้อแดงออกมาเคลื่อนไหว ให้เป็นเป้าหมายของฝ่ายตรงข้ามเด็ดขาด โดยตนได้แจ้งไปยังประธานกลุ่ม นปช.ทั้ง 32 อำเภอ ให้งดการเคลื่อนไหวใดๆ ทั้งสิ้น และแนะนำว่า หากทุกคนเป็นห่วงใย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็ขอให้อยู่เป็นกำลังใจที่บ้านแทน ส่วนใครจะใส่เสื้อสีแดง หรือสีอะไรก็ตาม อยู่ในบ้าน ตนก็ไม่สามารถไปสั่งการได้ เพราะเป็นสิทธิส่วนบุคคล ซึ่งตนและสมาชิก นปช. รวมทั้งมวลชนคนเสื้อแดงโคราช พร้อมเคารพอำนาจศาลทุกประการ และจะให้โอกาสรัฐบาลทำงานอย่างเต็มที่
**นปช.พะเยาโบ้ยแต่งแดงเรื่องส่วนบุคคล
นายศิริวัฒน์ จุปะมัดถา ผู้ประสานงาน นปช.พะเยา เปิดเผยกรณีกระแสข่าวการระดมคนเสื้อแดงพะเยา ให้แต่งเสื้อแดงเพื่อเป็นการให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จนเป็นเหตุให้มีการเข้าใจที่คลาดเคลื่อนกับนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานนปช. ว่า ความจริงคือ ตนแค่โพสต์ในเฟซบุ๊กว่า ตนจะใส่เสื้อแดง ในวันอาทิตย์ที่ 1 พ.ย.นี้ เพื่อให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เท่านั้น ไม่ได้มีการเชิญชวน แต่ที่เป็นข่าวเพราะมีนักข่าวเข้ามาอ่าน และนำมาเขียนจนเกิดการเข้าใจผิดว่า ตนเองจะระดมคนเสื้อแดงในวันอาทิตย์ที่ 1 พ.ย.
อย่างไรก็ตาม ตนจะไม่ชักชวนใครใส่เสื้อแดงในวันที่ 1 พ.ย. ใครอยากใส่ก็ใส่ ไม่มีการระดมกันใส่ตามข่าว แต่ถ้าจะมีคนใส่เสื้อแดงในวันนี้จำนวนมาก ก็เป็นเรื่องส่วนบุคคล ตนจะไปห้ามใครไม่ได้ สำหรับตนใส่เสื้อแดงแน่นอน เพราะปกติตนก็ใส่เสื้อแดงทุกวัน ยิ่งวันนี้เป็นอาทิตย์ ตนต้องใส่ เพราะสีแดงเป็นสีของวันอาทิตย์.