ASTVผู้จัดการรายวัน-ทอท.ตั้งคณะทำงานเตรียมความพร้อมในการเปิดใช้อาคารใหม่ของสนามบินดอนเมืองและภูเก็ต ตามข้อกำหนด ICAO เพื่อลดแออัดและเพิ่มประสิทธิภาพบริการ “นิตินัย”เผยดอนเมืองคืบหน้ากว่า 90% งานหลักเสร็จใน 30 พ.ย.นี้ รอทดสอบระบบก่อนเปิดทางการ ส่วนภูเก็ตคืบหน้า 85% ยัน 14ก.พ. 58 เปิดใช้ได้บางส่วนแน่นอน
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ(บอร์ด) ทอท. ที่มีนายประสงค์ พูนธเนศ เป็นประธาน วานนี้ (27 ต.ค.) ว่า ได้รับทราบรายงานความโครงการพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมือง และโครงการพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ต รวมถึงการเตรียมความพร้อมในการเปิดให้บริการ ซึ่ง ทอท.ได้เร่งรัดการดำเนินการเพื่อช่วยลดความแออัดและเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้โดยสารในการใช้บริการท่าอากาศยานทั้ง 2 แห่ง ตลอดจนรองรับฤดูกาลท่องเที่ยวไทย
โดยโครงการพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมือง ประกอบด้วย การปรับปรุงอาคารผู้โดยสารอาคาร 2 เพื่อรองรับผู้โดยสารภายในประเทศ การปรับปรุงอาคารทางเชื่อมทางด้านทิศใต้และอาคารเทียบเครื่องบินหมายเลข 5 โดยขณะนี้มีความก้าวหน้ากว่า 90% โดยจะเร่งรัดการการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวกับโครงสร้างหลักให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 พ.ย. 2558 ซึ่งจะทำให้ท่าอากาศยานดอนเมือง มีศักยภาพในการรองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นจาก 18.5 ล้านคนต่อปี เป็น 30 ล้านคนต่อปี
พร้อมกันนี้ ได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อดำเนินงานเตรียมความพร้อมปฏิบัติการและโยกย้ายการปฏิบัติงานบางส่วนจากอาคาร 1 ไปยังอาคาร 2 เป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ และเป็นไปตามข้อกำหนดขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO)
โดยคาดว่าจะเชิญสายการบินและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมสร้างความคุ้นเคยระหว่างวันที่ 16-20 พ.ย. 2558 จากนั้นจะทำการทดสอบระบบร่วมโดยพนักงาน ทอท. พนักงานสายการบินและผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระหว่างวันที่ 23-27 พ.ย. 2558 และจะประเมินการทดสอบระบบทุกระบบเพื่อให้เกิดความมั่นใจในการกำหนดการเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการต่อไป
สำหรับการพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ตนั้น มีการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศหลังใหม่ หลุมจอดอากาศยาน 10 หลุมจอด และมีการก่อสร้างสะพานเทียบเครื่องบิน 4 หลุมจอด ระบบเติมน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานทางท่อ และระบบสาธารณูปโภคที่เกี่ยวข้องนั้น ขณะนี้การก่อสร้างมีความคืบหน้า 85 %
ซึ่งทอท.ได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานเตรียมความพร้อมในการเปิดให้บริการอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ของท่าอากาศยานภูเก็ตเช่นกัน ซึ่งจะเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้นจาก 6.5 ล้านคนต่อปี เป็น 12.5 ล้านคนต่อปี
โดยจะมีการทยอยทดสอบแต่ละระบบ (Individual Testing) ในเดือนพ.ย. 2558 ทดสอบทุกระบบหลัก (Testing and Commissioning) ในเดือนธ.ค. 2558 และในเดือนม.ค. 2559 - 13 ก.พ. 2559 เป็นการทดสอบทุกระบบร่วมกัน (Trial Phase 1) เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการให้บริการแบบไม่เต็มรูปแบบ (Soft Opening)
เที่ยวบินแรกในวันที่ 14 ก.พ. 2559 หลังจากนั้น จะมีการทดสอบทุกระบบร่วมกัน (Trial Phase 2) อีกครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าหากมีการย้ายเที่ยวบินระหว่างประเทศไปให้บริการยังอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศหลังใหม่จะมีความสมบูรณ์และให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการแบบเต็มรูปแบบได้ในเดือนพ.ค. 2559
นอกจากนี้ ทอท.ได้มีแผนการตรวจสอบมาตรฐานท่าอากาศยานเพื่อรับการตรวจสอบจากภาครัฐ โดยมีแผนรวบรวมข้อมูล เช่น แผนผังการปรับปรุง SOP (Standard of Procedures) และอื่นๆ เพื่อส่งให้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยตรวจสอบมาตรฐานด้านการรักษาความปลอดภัยการตรวจสอบมาตรฐานด้านสิ่งอำนวยความสะดวกในการเดินอากาศ การตรวจสอบมาตรฐานด้านความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อม ซึ่งจะดำเนินการตรวจสอบไปพร้อมกับระบบงานต่างๆ ที่แล้วเสร็จก่อนตามลำดับ นอกจากนั้น ทอท.จะจัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวก ร้านค้า ร้านอาหารและการบริการที่หลากหลายเพื่อความพึงพอใจของผู้ใช้บริการท่าอากาศยานอีกด้วย
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ(บอร์ด) ทอท. ที่มีนายประสงค์ พูนธเนศ เป็นประธาน วานนี้ (27 ต.ค.) ว่า ได้รับทราบรายงานความโครงการพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมือง และโครงการพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ต รวมถึงการเตรียมความพร้อมในการเปิดให้บริการ ซึ่ง ทอท.ได้เร่งรัดการดำเนินการเพื่อช่วยลดความแออัดและเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้โดยสารในการใช้บริการท่าอากาศยานทั้ง 2 แห่ง ตลอดจนรองรับฤดูกาลท่องเที่ยวไทย
โดยโครงการพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมือง ประกอบด้วย การปรับปรุงอาคารผู้โดยสารอาคาร 2 เพื่อรองรับผู้โดยสารภายในประเทศ การปรับปรุงอาคารทางเชื่อมทางด้านทิศใต้และอาคารเทียบเครื่องบินหมายเลข 5 โดยขณะนี้มีความก้าวหน้ากว่า 90% โดยจะเร่งรัดการการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวกับโครงสร้างหลักให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 พ.ย. 2558 ซึ่งจะทำให้ท่าอากาศยานดอนเมือง มีศักยภาพในการรองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นจาก 18.5 ล้านคนต่อปี เป็น 30 ล้านคนต่อปี
พร้อมกันนี้ ได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อดำเนินงานเตรียมความพร้อมปฏิบัติการและโยกย้ายการปฏิบัติงานบางส่วนจากอาคาร 1 ไปยังอาคาร 2 เป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ และเป็นไปตามข้อกำหนดขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO)
โดยคาดว่าจะเชิญสายการบินและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมสร้างความคุ้นเคยระหว่างวันที่ 16-20 พ.ย. 2558 จากนั้นจะทำการทดสอบระบบร่วมโดยพนักงาน ทอท. พนักงานสายการบินและผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระหว่างวันที่ 23-27 พ.ย. 2558 และจะประเมินการทดสอบระบบทุกระบบเพื่อให้เกิดความมั่นใจในการกำหนดการเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการต่อไป
สำหรับการพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ตนั้น มีการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศหลังใหม่ หลุมจอดอากาศยาน 10 หลุมจอด และมีการก่อสร้างสะพานเทียบเครื่องบิน 4 หลุมจอด ระบบเติมน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานทางท่อ และระบบสาธารณูปโภคที่เกี่ยวข้องนั้น ขณะนี้การก่อสร้างมีความคืบหน้า 85 %
ซึ่งทอท.ได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานเตรียมความพร้อมในการเปิดให้บริการอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ของท่าอากาศยานภูเก็ตเช่นกัน ซึ่งจะเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้นจาก 6.5 ล้านคนต่อปี เป็น 12.5 ล้านคนต่อปี
โดยจะมีการทยอยทดสอบแต่ละระบบ (Individual Testing) ในเดือนพ.ย. 2558 ทดสอบทุกระบบหลัก (Testing and Commissioning) ในเดือนธ.ค. 2558 และในเดือนม.ค. 2559 - 13 ก.พ. 2559 เป็นการทดสอบทุกระบบร่วมกัน (Trial Phase 1) เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการให้บริการแบบไม่เต็มรูปแบบ (Soft Opening)
เที่ยวบินแรกในวันที่ 14 ก.พ. 2559 หลังจากนั้น จะมีการทดสอบทุกระบบร่วมกัน (Trial Phase 2) อีกครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าหากมีการย้ายเที่ยวบินระหว่างประเทศไปให้บริการยังอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศหลังใหม่จะมีความสมบูรณ์และให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการแบบเต็มรูปแบบได้ในเดือนพ.ค. 2559
นอกจากนี้ ทอท.ได้มีแผนการตรวจสอบมาตรฐานท่าอากาศยานเพื่อรับการตรวจสอบจากภาครัฐ โดยมีแผนรวบรวมข้อมูล เช่น แผนผังการปรับปรุง SOP (Standard of Procedures) และอื่นๆ เพื่อส่งให้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยตรวจสอบมาตรฐานด้านการรักษาความปลอดภัยการตรวจสอบมาตรฐานด้านสิ่งอำนวยความสะดวกในการเดินอากาศ การตรวจสอบมาตรฐานด้านความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อม ซึ่งจะดำเนินการตรวจสอบไปพร้อมกับระบบงานต่างๆ ที่แล้วเสร็จก่อนตามลำดับ นอกจากนั้น ทอท.จะจัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวก ร้านค้า ร้านอาหารและการบริการที่หลากหลายเพื่อความพึงพอใจของผู้ใช้บริการท่าอากาศยานอีกด้วย