ASTVผู้จัดการรายวัน-“เฉลิม”หอบเอกสาร 53 หน้า เข้าให้ปากคำคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิด ยัน “ยิ่งลักษณ์” ไม่ละเว้นปล่อยโกงจำนำข้าว เหตุดำเนินนโยบายตามที่แถลงต่อรัฐสภา และมีการตั้งกรรมการตรวจสอบการทุจริต พร้อมทวงถาม คดีฟ้องฟิลลิป มอร์ริส สำแดงภาษีเท็จ 8 หมื่นล้านไปถึงไหน ทำไม่ยังเงียบ
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า เมื่อเวลาประมาณ 13.20 น. วานนี้ (20 ต.ค.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้เดินทางมาให้ถ้อยคำต่อคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิด ที่มีนายจิรชัย มูลทองโร่ย หัวหน้าผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน โดยร.ต.อ.เฉลิมได้นำเอกสารเกี่ยวมาตรการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในระหว่างการดำเนินโครงการรับจำนำข้าว จำนวน 53 หน้า เข้ามาชี้แจงและแจกจ่ายให้กับผู้สื่อข่าว
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวภายหลังการเข้าให้ถ้อยคำ ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ขณะเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ได้ละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ ทำให้เกิดความเสียหายต่อโครงการรับจำนำข้าว เพราะการกำหนดนโยบายได้ผ่านการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) อีกทั้งน.ส.ยิ่งลักษณ์ยังได้กำชับให้ระมัดระวังการดำเนินการ ให้มีการตรวจสอบทุกขั้นตอนและมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ มีตนเป็นประธาน ซึ่งได้ทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และได้ดำเนินการจับกุมและดำเนินคดีผู้กระทำความผิดอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ยืนยันว่าอดีตนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ มีความห่วงใยต่อโครงการจำนำข้าว แต่เมื่อเป็นนโยบายของพรรคที่ประกาศต่อรัฐสภาว่าจะใช้วิธีการรับจำนำข้าว ก็ต้องดำเนินการ แต่ไม่ได้ปล่อยปะละเลย ประมาท เลินเล่ออย่างร้ายแรง และควรรอการคำพิพากษาของศาลฎีกา แผนกคดีอาญาทางการเมืองตัดสินก่อนว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์มีความผิดหรือไม่ ก่อนที่จะกล่าวหา
“ในที่ประชุมครม. เมื่อปี 2555 ได้นำปัญหาโครงการเข้าสู่ที่ประชุม และได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ โดยมีผมเป็นประธาน ซึ่งผมได้ตั้งคณะอนุกรรมการ โดยดึงตำรวจและผู้บัญชาการ 11 ภาค ในการตรวจสอบโรงสีโกดังทั่วประเทศ และรายงานว่ามีข้าวไม่ได้มาตรฐาน ไม่ครบตามจำนวน จึงได้มีการดำเนินคดี 100 คดีและได้มีการรายงานตรงต่อนายกฯ แล้ว”
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวยืนยันอีกว่า นโยบายรับจำนำข้าว เป็นนโยบายของพรรคเพื่อไทย ซึ่งมีการวิจัยพบว่าชาวนาต้องการให้มีโครงการรับจำนำข้าว ไม่ต้องการโครงการประกันรายได้ ทำให้พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง 265 ต่อ 100 กว่าของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งหากมีการเลือกตั้งใหม่ เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้งอีกแน่นอน เพราะโครงการประกันรายได้ไม่มีข้าว ซึ่งอาจสามารถโกหกได้ แต่จำนำต้องมีข้าวมาเป็นประกัน โดยโรงสีจะต้องออกใบประทวนให้เกษตรกร โดยการทำงานร่วมกับองค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) โดยมีเจ้าหน้าที่กระทรวงพาณิชย์กำกับดูแลอีกชั้น
อย่างไรก็ตาม หากคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิด ยังมีข้อสงสัยเพิ่มเติมในประเด็นใด ก็พร้อมที่จะมาให้ข้อมูล เพราะไม่ได้ทำอะไรผิดตามที่ถูกกล่าวหา
นอกจากนี้ ในระหว่างการแถลงข่าว ร.ต.อ.เฉลิม ได้ทวงถามถึงคดีฟ้องเรียกค่าเสียหายบริษัท ฟิลลิป มอร์ริส กรณีสำแดงเอกสารเท็จในการนำเข้าบุหรี่ ซึ่งมีการสั่งฟ้องให้ชดใช้ความเสียหายให้กับรัฐ 8 หมื่นล้านบาท และอัยการสูงสุดได้มีคำสั่งฟ้องแล้ว แต่ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ จนถึงขณะนี้ โดยระบุว่า หากตนพบความไม่ชอบมาพากลในคดี จะขออนุญาตคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงข่าว โดยไม่เอาประเด็นทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง เพื่อติดตามในเรื่องนี้ต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ผ่านมา คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิด ได้มีการเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงแล้วหลายคน เช่น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ , นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ , นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรี , นักวิชาการอิสระ โดยสัปดาห์หน้า จะเชิญนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ มาชี้แจง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายตามนโยนบายของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า เมื่อเวลาประมาณ 13.20 น. วานนี้ (20 ต.ค.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้เดินทางมาให้ถ้อยคำต่อคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิด ที่มีนายจิรชัย มูลทองโร่ย หัวหน้าผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน โดยร.ต.อ.เฉลิมได้นำเอกสารเกี่ยวมาตรการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในระหว่างการดำเนินโครงการรับจำนำข้าว จำนวน 53 หน้า เข้ามาชี้แจงและแจกจ่ายให้กับผู้สื่อข่าว
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวภายหลังการเข้าให้ถ้อยคำ ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ขณะเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ได้ละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ ทำให้เกิดความเสียหายต่อโครงการรับจำนำข้าว เพราะการกำหนดนโยบายได้ผ่านการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) อีกทั้งน.ส.ยิ่งลักษณ์ยังได้กำชับให้ระมัดระวังการดำเนินการ ให้มีการตรวจสอบทุกขั้นตอนและมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ มีตนเป็นประธาน ซึ่งได้ทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และได้ดำเนินการจับกุมและดำเนินคดีผู้กระทำความผิดอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ยืนยันว่าอดีตนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ มีความห่วงใยต่อโครงการจำนำข้าว แต่เมื่อเป็นนโยบายของพรรคที่ประกาศต่อรัฐสภาว่าจะใช้วิธีการรับจำนำข้าว ก็ต้องดำเนินการ แต่ไม่ได้ปล่อยปะละเลย ประมาท เลินเล่ออย่างร้ายแรง และควรรอการคำพิพากษาของศาลฎีกา แผนกคดีอาญาทางการเมืองตัดสินก่อนว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์มีความผิดหรือไม่ ก่อนที่จะกล่าวหา
“ในที่ประชุมครม. เมื่อปี 2555 ได้นำปัญหาโครงการเข้าสู่ที่ประชุม และได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ โดยมีผมเป็นประธาน ซึ่งผมได้ตั้งคณะอนุกรรมการ โดยดึงตำรวจและผู้บัญชาการ 11 ภาค ในการตรวจสอบโรงสีโกดังทั่วประเทศ และรายงานว่ามีข้าวไม่ได้มาตรฐาน ไม่ครบตามจำนวน จึงได้มีการดำเนินคดี 100 คดีและได้มีการรายงานตรงต่อนายกฯ แล้ว”
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวยืนยันอีกว่า นโยบายรับจำนำข้าว เป็นนโยบายของพรรคเพื่อไทย ซึ่งมีการวิจัยพบว่าชาวนาต้องการให้มีโครงการรับจำนำข้าว ไม่ต้องการโครงการประกันรายได้ ทำให้พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง 265 ต่อ 100 กว่าของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งหากมีการเลือกตั้งใหม่ เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้งอีกแน่นอน เพราะโครงการประกันรายได้ไม่มีข้าว ซึ่งอาจสามารถโกหกได้ แต่จำนำต้องมีข้าวมาเป็นประกัน โดยโรงสีจะต้องออกใบประทวนให้เกษตรกร โดยการทำงานร่วมกับองค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) โดยมีเจ้าหน้าที่กระทรวงพาณิชย์กำกับดูแลอีกชั้น
อย่างไรก็ตาม หากคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิด ยังมีข้อสงสัยเพิ่มเติมในประเด็นใด ก็พร้อมที่จะมาให้ข้อมูล เพราะไม่ได้ทำอะไรผิดตามที่ถูกกล่าวหา
นอกจากนี้ ในระหว่างการแถลงข่าว ร.ต.อ.เฉลิม ได้ทวงถามถึงคดีฟ้องเรียกค่าเสียหายบริษัท ฟิลลิป มอร์ริส กรณีสำแดงเอกสารเท็จในการนำเข้าบุหรี่ ซึ่งมีการสั่งฟ้องให้ชดใช้ความเสียหายให้กับรัฐ 8 หมื่นล้านบาท และอัยการสูงสุดได้มีคำสั่งฟ้องแล้ว แต่ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ จนถึงขณะนี้ โดยระบุว่า หากตนพบความไม่ชอบมาพากลในคดี จะขออนุญาตคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงข่าว โดยไม่เอาประเด็นทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง เพื่อติดตามในเรื่องนี้ต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ผ่านมา คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิด ได้มีการเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงแล้วหลายคน เช่น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ , นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ , นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรี , นักวิชาการอิสระ โดยสัปดาห์หน้า จะเชิญนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ มาชี้แจง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายตามนโยนบายของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี