วานนี้ (19 ต.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมการสรรหากรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยมี นายนุรักษ์ มาประณีต ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ในฐานะประธานคณะกรรมการสรรหาฯ นายวีระพล ตั้งสุวรรณ ประธานศาลฎีกา นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทำหน้าที่พิจารณาเลือกผู้สมควรได้รับการเสนอชื่อให้เป็นกรรมการ ป.ป.ช.จำนวน 5 คน จากผู้เข้ารับการสรรหาทั้งสิ้น 59 คน
** “สุวณา-วัชรพล” เข้ารอบตามโผ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ก็ได้มีมติเลือก นายวิทยา อาคมพิทักษ์ อดีตกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน และอดีตรองเลขาธิการ ป.ป.ช. นางสุวณา สุวรรณจูฑะ ปลัดกระทรวงยุติธรรม พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นายสุรศักดิ์ คีรีวิเชียร อดีตอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้ และ พล.อ.บุณยวัจน์ เครือหงส์ อดีตผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบภายในกองทัพบก ให้เป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นกรรมการ ป.ป.ช.โดยได้รับเลือกจะต้องได้คะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ของจำนวนกรรมการสรรหาทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ โดยขั้นตอนจากนี้ คณะกรรมการสรรหาจะนำรายชื่อผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นกรรมการ ป.ป.ช.ทั้ง 5 คน เสนอต่อประธาน สนช.เพื่อให้ที่ประชุมสนช.ให้ความเห็นชอบต่อไป
** เผยบรรยากาศลงมติเข้มข้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศการลงคะแนนคณะกรรมการสรรหาฯ เป็นไปอย่างเข้มข้น และมีการลงมติกันหลายรอบ เนื่องจากคณะกรรมการสรรหาฯเหลือเพียง 4 คน จากเหตุที่ นายหัสวุฒิ วิฑิตวิริยกุล ถูกคณะกรรมการตุลาการศาลปกครอง (ก.ศป.) มีมติให้ออกจากราชการ ทำให้ตำแหน่งประธานศาลปกครองสูงสุดว่างอยู่ ยังไม่มีการเลือกคนใหม่เข้ามาแทน ส่งผลให้กรรมการมี 4 เสียงที่เป็นการลงมติเลขคู่
โดยในการลงมติเลือก พล.อ.บุณยวัจน์ เครือหงส์ ต้องลงมติถึง 7 ครั้งจึงได้คะแนนถึง 2 ใน 3 หรือ 3 คะแนน โดยทำคะแนนขับเคี่ยวมากับ นายชำนาญ รวิวรรณพงษ์ อดีตประธานศาลอุทธรณ์ภาค 9 และ นางชุติมา บุณยประภัตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ก่อนที่ พล.อ.บุญยวัจน์จะเบียดทำคะแนนชนะในรอบที่ 7 ส่วน นายสุรศักดิ์ คีรีวิเชียร ต้องลงคะแนน 4 รอบ จึงได้คะแนน 2 ใน 3 ขณะที่ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ซึ่งเป็นตัวเต็งที่จะได้รับการคัดเลือก ต้องลงคะแนน 2 รอบจึงได้คะแนนครบ 2 ใน 3 ด้าน นางสุวณา สุวรรณจูฑะ ที่เป็นตัวเต็งอีกคน ลงคะแนนเพียงรอบเดียวและได้ 3 คะแนน เช่นเดียวกับ นายวิทยา อาคมพิทักษ์ ที่ลงมติเพียงรอบเดียว โดยได้คะแนนสูงสุด 4 คะแนน
** วิษณุ” ยันไร้เด็กฝากสรรหา ป.ป.ช.
ด้าน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมการสรรหา ป.ป.ช.กล่าวปฏิเสธกระแสข่าวว่ามีเด็กฝากให้มาเป็น ป.ป.ช.ว่า ไม่ทราบ เพราะไม่ได้มาฝากกับตน คำว่าฝากแปลได้หลายอย่าง หากเอาแค่มาเปรยและเข้ามาถามคงได้ ป.ป.ช. 30 คนแล้ว แต่ผู้ที่ฝากไม่ได้เป็นผู้ที่มีบารมีหรืออิทธิพลอะไร เจอกันก็มาถามถึงพรรคพวกเพื่อนฝูง คนนี้เรียนวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นเดียวกับคนนั้น เป็นธรรมดา ไม่ได้มีความหมายอะไร ทั้งนี้หลักเกณฑ์มีอยู่แล้ว อาทิ ความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ชื่อเสียงเกียรติภูมิในอดีต คำนึงถึงระยะเวลาที่ต้องอยู่ในตำแหน่งอีกยาวนาน เรื่องสุขภาพด้วย อย่างไรก็ตาม สนช.จะตั้งกรรมการสอบประวัติแล้วเลือกอีกครั้งว่าจะเอาหรือไม่
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรรมการ ป.ป.ช.ใหม่จะต้องกระจายในหลายสาขาวิชาชีพหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า แน่นอน ต้องไปดูว่าคนเก่าเขามีอะไรอยู่บ้าง โดยคนใหม่ต้องหาคนที่สอดคล้องกันแล้วคิดว่าจะสามารถทำงานเป็นคณะที่ดีได้ ไม่ซ้ำซ้อนทางหนึ่งทางใดมากเกินไป.
** “สุวณา-วัชรพล” เข้ารอบตามโผ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ก็ได้มีมติเลือก นายวิทยา อาคมพิทักษ์ อดีตกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน และอดีตรองเลขาธิการ ป.ป.ช. นางสุวณา สุวรรณจูฑะ ปลัดกระทรวงยุติธรรม พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นายสุรศักดิ์ คีรีวิเชียร อดีตอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้ และ พล.อ.บุณยวัจน์ เครือหงส์ อดีตผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบภายในกองทัพบก ให้เป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นกรรมการ ป.ป.ช.โดยได้รับเลือกจะต้องได้คะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ของจำนวนกรรมการสรรหาทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ โดยขั้นตอนจากนี้ คณะกรรมการสรรหาจะนำรายชื่อผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นกรรมการ ป.ป.ช.ทั้ง 5 คน เสนอต่อประธาน สนช.เพื่อให้ที่ประชุมสนช.ให้ความเห็นชอบต่อไป
** เผยบรรยากาศลงมติเข้มข้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศการลงคะแนนคณะกรรมการสรรหาฯ เป็นไปอย่างเข้มข้น และมีการลงมติกันหลายรอบ เนื่องจากคณะกรรมการสรรหาฯเหลือเพียง 4 คน จากเหตุที่ นายหัสวุฒิ วิฑิตวิริยกุล ถูกคณะกรรมการตุลาการศาลปกครอง (ก.ศป.) มีมติให้ออกจากราชการ ทำให้ตำแหน่งประธานศาลปกครองสูงสุดว่างอยู่ ยังไม่มีการเลือกคนใหม่เข้ามาแทน ส่งผลให้กรรมการมี 4 เสียงที่เป็นการลงมติเลขคู่
โดยในการลงมติเลือก พล.อ.บุณยวัจน์ เครือหงส์ ต้องลงมติถึง 7 ครั้งจึงได้คะแนนถึง 2 ใน 3 หรือ 3 คะแนน โดยทำคะแนนขับเคี่ยวมากับ นายชำนาญ รวิวรรณพงษ์ อดีตประธานศาลอุทธรณ์ภาค 9 และ นางชุติมา บุณยประภัตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ก่อนที่ พล.อ.บุญยวัจน์จะเบียดทำคะแนนชนะในรอบที่ 7 ส่วน นายสุรศักดิ์ คีรีวิเชียร ต้องลงคะแนน 4 รอบ จึงได้คะแนน 2 ใน 3 ขณะที่ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ซึ่งเป็นตัวเต็งที่จะได้รับการคัดเลือก ต้องลงคะแนน 2 รอบจึงได้คะแนนครบ 2 ใน 3 ด้าน นางสุวณา สุวรรณจูฑะ ที่เป็นตัวเต็งอีกคน ลงคะแนนเพียงรอบเดียวและได้ 3 คะแนน เช่นเดียวกับ นายวิทยา อาคมพิทักษ์ ที่ลงมติเพียงรอบเดียว โดยได้คะแนนสูงสุด 4 คะแนน
** วิษณุ” ยันไร้เด็กฝากสรรหา ป.ป.ช.
ด้าน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมการสรรหา ป.ป.ช.กล่าวปฏิเสธกระแสข่าวว่ามีเด็กฝากให้มาเป็น ป.ป.ช.ว่า ไม่ทราบ เพราะไม่ได้มาฝากกับตน คำว่าฝากแปลได้หลายอย่าง หากเอาแค่มาเปรยและเข้ามาถามคงได้ ป.ป.ช. 30 คนแล้ว แต่ผู้ที่ฝากไม่ได้เป็นผู้ที่มีบารมีหรืออิทธิพลอะไร เจอกันก็มาถามถึงพรรคพวกเพื่อนฝูง คนนี้เรียนวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นเดียวกับคนนั้น เป็นธรรมดา ไม่ได้มีความหมายอะไร ทั้งนี้หลักเกณฑ์มีอยู่แล้ว อาทิ ความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ชื่อเสียงเกียรติภูมิในอดีต คำนึงถึงระยะเวลาที่ต้องอยู่ในตำแหน่งอีกยาวนาน เรื่องสุขภาพด้วย อย่างไรก็ตาม สนช.จะตั้งกรรมการสอบประวัติแล้วเลือกอีกครั้งว่าจะเอาหรือไม่
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรรมการ ป.ป.ช.ใหม่จะต้องกระจายในหลายสาขาวิชาชีพหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า แน่นอน ต้องไปดูว่าคนเก่าเขามีอะไรอยู่บ้าง โดยคนใหม่ต้องหาคนที่สอดคล้องกันแล้วคิดว่าจะสามารถทำงานเป็นคณะที่ดีได้ ไม่ซ้ำซ้อนทางหนึ่งทางใดมากเกินไป.